Cr.ภาพโดยนักเขียน สถานที่เที่ยวหน้าฝนสุดฮิต ไม่พูดถึงที่นี่คงเป็นไม่ได้ ได้ยินและได้เห็นรีวิวบ่อยมาก ฉายา 399 โค้งนี่มันจะขนาดไหนกัน ต้องลองหน่อยแล้ว นั่นก็คือ บ้านอิต่อง- เหมืองปิล็อค อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในที่สุดก็ได้มีโอกาสไปสักที “อยากไปต้องได้ไป” คตินี้ถือว่าใช้ได้ทุกทริป เอาละมาเริ่มทริปหน้าฝนกันเลย อันดับแรกที่สำคัญที่สุดคือตังค์ เริ่มเก็บตังค์และจองตั๋วเครื่องบินไป กทม.พร้อมจองที่พักราคาถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ ข้อมูลที่พัก พวกเราพักกันที่บ้านทานตะวันโฮมสเตย์ ห้องข้างบนซึ่งมีระเบียงบนดาดฟ้า ไว้สำหรับชมวิวหน้าสระและวิวรอบๆหมู่บ้าน คือดีมาก ให้แนนสิบเต็มสิบไปเลย ราคาตอนนั้นถือว่าคุ้ม 1,500 บาทรวมค่าอาหารเช้าเรียบร้อย อากาศหนาว ๆ เตียงนุ่ม ๆ มีทีวี มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ฟินเลยละขอบอก cr.ภาพโดยนักเขียน ข้อมูลการเดินทาง Cr.ภาพโดยนักเขียน เสบียงพร้อม คนพร้อม เริ่มเดินทางกันเลย เราเริ่มเดินทางโดยรถไฟ ต่อสองแถวไปลงที่ บขส.กาญจนบุรี และต่อรถตู้ไปอำเภอทองผาภูมิทันที ซึ่งตอนนั้นเวลาก็เกือบเที่ยงแล้ว ก่อนหน้านี้ก็กะเวลามาพอดี แต่ไปติดตรงที่ก่อนเข้าอำเภอทองผาภูมิ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรประชาชนทุกคนบนรถ แล้วไปติดที่ผู้โดยสารคนนึงที่เป็นชาวพม่าและบัตรเขาหมดอายุแล้ว เสียเวลาตรงนั้นไปเกือบชั่วโมง ทำให้ล่าช้าในการเดินทาง เพื่อจะไปให้ทันรถรอบสุดท้ายที่จะเข้าไปอิต่อง เมื่อถึงทางเข้าที่รถสองแถวจอดรับ ปรากฎว่ารถรอบสุดท้ายพึ่งออกไปก่อนหน้านี้ไม่ถึง 2 นาที อ่าวทำไงละทีนี้ ขอช่วยพี่เขาให้ติดต่อคนขับสองแถวให้ แล้วพี่เขาก็แนะนำให้นั่งวินมอไซค์ไล่ตามไป พี่เขาบอกว่าถ้าไม่ไปทันรอบนี้คือไม่มีแล้ว มีอีกทีคือวันรุ่งขึ้นรอบเช้า ซึ่งเรารอไม่ได้เพราะจองที่พักไปแค่คืนเดียวและราคาก็แพงใช้ได้ เอาว่ะต้องทันรอบนี้ สุดท้ายก็มาทันรถรอบสุดท้ายซึ่งเป็นคันที่ขนเสบียงไปในหมู่บ้านอิต่อง เอาแล้วไงไม่มีที่นั่ง และก็ต้องนั่งเบียดกันจนไปถึงออต้อง ระหว่างทางได้เตรียมเสบียงที่เซเว่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Cr.ภาพถ่ายโดยนักเขียน ความท้าทายได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมา พี่คนขับรถบอกยังไม่ทันถึงทางเข้าอิต่องเลย ตกต้อนรับกันแล้ว 399 โค้ง มาพร้อมฝนตก ทางเข้าก็ลำบาก หมอกลงหนามาก มองทางแทบไม่เห็น กลัวก็กลัว ๆ แต่อากาศดี วิวก็อยากมอง ยิ่งขับไปเรื่อยๆสัญญานะโทรศัพท์ขาดๆหายๆ กว่าจะถึงข้างในหมู่บ้านอีต่องคือค่ำพอดี ข้างในคือหมอกลงหนามาก มองหลังคาแทบไม่เห็น อากาศหนาวมากไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ หลังจากเข้าที่พัก พี่เจ้าของบ้านทักทายต้อนรับด้วยคำว่า ผมกลัวพวกพี่จะมาไม่ทันรถรอบสุดท้าย เพราะแจ้งเขาว่าจะเข้ามาถึงบ่าย ๆ บ่ายอะไรละ นี่ค่ำเลย อดเดินเล่นถ่ายรูปตอนกลางวันเลย หลังจากเข้าห้องพักเอาของไปเก็บก็ไปหาข้าวกินเพราะหิวมาก และพี่เจ้าของบ้านแนะนำให้ไปถ่ายรูปและหาซื้อของฝากเลย เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบออกเดินทางกลับแต่เช้า นี่ตกใจเลยทำไมรีบออก เขาบอกว่ามีรถออกไปจากหมู่บ้านแค่รอบเช้ารอบเดียว ถ้าไม่ทันก็คือต้องหาที่พักที่นี้นอนต่อ ซึ่งไม่ได้เพราะว่ามีทริปที่อื่นต่อ จ้างั้นก็ลุยกันเลย รีบไปจับจ่ายซื้อของฝาก ถ่ายรูปให้คุ้มแล้วก็กลับห้องไปพักผ่อน เพราะว่าวันทั้งวันหมดไปกับการเดินทาง ต้องชาร์จแบตเตอรี่ร่างกายพร้อมลุยพรุ่งนี้กันต่อ Cr.ภาพโดยนักเขียน อยากบอกว่าหมอกลงหนามากค่ะทุกคน ก่อนจะมาดูรีวิวไว้ว่าอยากถ่ายให้ออกมา เหมือนไปญี่ปุ่น ตัดภาพมาตอนนี้ มองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ แต่ชอบอากาศแบบนี้มาก ไม่เคยเจอหมอกหนา ๆ แบบนี้มาก่อนค่ะ ติดใจ อยากอยู่ต่ออีกวันจังเลย เช้าอีกวันต้องรีบตื่นเพื่อไปให้ทันจองที่นั่งบนรถสองแถวรอบสุดท้ายซึ่งก็เต็มแล้ว เต็มแล้วไม่พอ มีคนที่ไม่รู้อีกนะว่านี่คือรอบสุดท้ายขาออกจากหมู่บ้าน สรุปแล้วรถคันนึงทั้งยืนทั้งนั่ง ล้นมาก นั่งเบียดกันจนถึงปลายทาง Cr.ภาพโดยนักเขียน บอกได้เลยว่าทริปนี้สุดยอดมาก 399 ไปและกลับ นั่งเบียดกันไปจนสุดทาง ทริปนี้ไม่มีวันลืมค่ะทุกคน บอกได้คำเดียวว่า ดี เอาไปเลย สิบคะแนนเต็มสิบ ความลำบากระหว่างทางคือหายไปหมด เมื่อได้เจอหมอกหนา ๆ ที่เฝ้ารอวันจะไปสัมผัสกับตัวเองให้ได้ ถึงแม้ว่าบรรยากาศแบบหมู่บ้านในญี่ปุ่นที่เฝ้ารอจะได้ถ่ายรูปให้ได้ล่มไป แต่ไม่เป็นไร ยังไงทริปนี้ก็ถือว่าคุ้มที่ได้มาที่นี้ หน้าฝนปีนี้ ใครที่ยังไม่มีแพลนจะไปที่ไหน แนะนำที่นี่เลยน่ะ รับรองไม่มีผิดหวัง Cr.ภาพโดยนักเขียน