เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนจำนวนมากที่อยากจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต ซึ่งการเดินทางไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้นสามารถทำได้ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือ รถไฟ ซึ่งประสบการณ์ที่จะได้รับจากการเดินทางนั้นก็ย่อมที่จะแตกต่างกันออกไปผมจะมาเล่าประสบการณ์ในการเดินทางด้วยรถไฟไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แห่งนี้ พร้อมทั้งแยกข้อดีข้อด้อยให้ได้ฟังกัน เริ่มต้นผมเดินทางจากชุมทางบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยรถจะออกจากชานชาลา เวลา 5.50 น. ซึ่งประสบการณ์ในการไปขึ้นรถนั้นก็คือเกือบไม่ทันรถ และรถไฟก็ไม่เคยรอใครถึงเวลาเขาก็ออกเลย ขาไปใช้เวลาในการเดินทางประมาณ4ชั่วโมง ประสบการณ์ที่ได้รับคือ การได้หวนคิดถึงอดีตที่ไม่ได้นั่งรถไฟมาเกือบสิบปี บรรยากาศก็ยังเหมือนเดิม สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์คือ แม่ค้าที่ขายของบนรถไฟ ทั้งประเภทปิ้งย่าง หรือเครื่องดื่มต่างๆ ได้คุยกับคนเก็บตั๋วเขาบอกว่าตอนนี้ ไม่อนุญาติให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลบนรถไฟแล้ว ซึ่งสมัยก่อนผมจำได้ว่ามันจะมีคนที่กินเบียร์บนรถไฟแล้วก็ชอบเสียงดัง ตอนขาไปผมได้นั่งในมุมอับ ไม่มีหน้าต่างให้วางสายตาก็เลยได้แต่หลับตา ไปจนสุดทางเพราะไม่รู้จะเอาสายตาไปวางไว้จุดไหน ไปถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ประมาณเที่ยง บรรยากาศที่เห็นคือคนเยอะ และส่วนมากจะเป็นเด็กนักเรียนที่มากันเป็นคณะ ข้างในเขื่อนก็จะมีร้านขายของ ทั้งของกินและของที่ระลึก ผมกินข้าวเที่ยงโดยสั่งจากร้านอาหารที่จะเข้ามาถึงตัวเราทันทีเมื่อเรามาถึงเขื่อน โดยสั่งเอามากินที่ริมเขื่อนเพราะอากาศเย็นสบายดี ได้รับข้อมูลว่าเราสามารถนั่งรถดูรอบเขื่อนได้ และข้างในก็มีค่ายลูกเสือรวมถึงที่พักด้วย หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ก็เดินดูร้านของฝาก แล้วก็บรรยากาศรอบๆ จนถึงเวลาใกล็รถไฟมาก็ไปรอขึ้นรถ ขากลับคนน้อยกว่าขามามาก สามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะผมได้มองสองข้างทางได้เห็นวิถีชีวิตที่หลากหลาย ของชาวบ้านสองข้างทาง ได้ทบทวนตัวเองพร้อมกับมองทางไปเพลินๆ และสิ่งที่ชอบที่สุดคือช่วงที่รถแล่นผ่าน แม่น้ำ แล้วก็ช่วงที่มีกังหันลม สุดท้ายก็เดินทางถึงบ้านโดยสวัสดิภาพประมาณสี่โมงเย็น สิ่งที่ชอบ คือตอนนั่งรถขากลับ สิ่งที่รู้สึกว่าต้องเตรียมใจไปดีๆ คือเรืองของห้องน้ำ ผมเป็นคนที่เข้าห้องน้ำทุกวัน และครั้งนี้ก็ได้เข้าห้องน้ำด้วยซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลย 555+ถ้ามีโอกาสอีก ก็อยากไปอีกแต่เป็นนานๆทีเช่น2-3ปีครั้ง เหมือนไปฝึกสมาธิได้ทบทวนชีวิตตัวเองในช่วงนั้นๆแผนที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนอ่านบทความอื่นได้ที่ ครูตั้มออนไลน์แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”