สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกคน บทความในวันนี้เป็นบทความรีวิวสดใหม่ ที่ได้มาจากการเที่ยวสบาย ๆ ที่นาน ๆ ทีจะได้ไปสูดบรรยากาศดี ๆ ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ด้วยรถไฟแบบวันเดย์ทริป ! บอกเลยว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ สำหรับทริปในครั้งนี้ แล้วทริปนี้พิเศษอย่างไร? มาเริ่มกันเลยค่ะ เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประกาศจัดเดินขบวนรถพิเศษ นำเที่ยวพานั่งรถไฟลอยน้ำ เส้นทางกรุงเทพฯ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ที่เพจ Facebook : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย เราจึงเตรียมกดโทรจองตั๋วเบอร์ 1690 ในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าตื่นสายแต่สุดท้ายก็โทรติดครั้งที่ 24 ดีใจมากค่ะ สุดท้ายก็โทรจองตั๋ว 2 ที่นั่งติดกันแบบชั้นสาม ราคาตั๋วละ 290 บาทได้สำเร็จ แต่ต้องไปรับตั๋วภายในวันที่ 6 พฤศจิกายนนะคะ คือโทรจองแล้วภายใน 2 วันต้องไปรับตั๋วค่ะ ไม่อย่างนั้นจะโดนตัดสิทธิ์ค่ะ การเดินทางด้วยรถไฟเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ที่สถานีหลักสี่ เราถึงตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซึ่งตารางรถไฟบอกจะออกที่หัวลำโพงเวลา 7.10 น. แต่สุดท้ายก็ล่าช้าเพราะขัดข้องเรื่องน้ำมัน สรุปเวลาจริงที่ออกจากสถานีหัวลำโพง เวลาประมาณ 8 โมงกว่า ๆ ค่ะ ก่อนขึ้นมาบนรถไฟก็ดูหมายเลขคันที่ เลขที่นั่ง เพื่อเตรียมพร้อมก่อนนะคะ เราได้คันที่ 1 เลขที่นั่ง 49 และ 50 เป็นฝั่งซ้ายของรถไฟ จากสถานีหลักสี่ ไปยังสถานีดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี แก่งคอย ระหว่างทางให้ความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทั้งกลิ่นของต้นไม้ใบใหญ่ ทั้งลมที่พัดเข้าใบหน้าพร้อมกับฝุ่นควัน ให้อารมณ์ที่หลากหลายมาก พอมาถึงไฮไลต์รถไฟลอยน้ำ ถึงทราบว่าฝั่งที่ตัวเองนั่งวิวไม่สวยเท่าอีกฝั่ง แนะนำว่าถ้าเลือกที่นั่งได้ ก็จองฝั่งขวาจะเห็นวิวสวยกว่า แต่แดดส่องมามากกว่าฝั่งซ้ายนะคะ เมื่อถึงจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ รถไฟก็จอดให้ผู้โดยสารลงมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่ถ่ายรูปกับหัวจักร แต่เนื่องจากเดินลงมาช้าถึงแม้จะอยู่คันที่ 1 ก็ตาม ก็ลงมาถ่ายไม่ทันเพราะคนเยอะมากค่ะ ในรูปมีจำนวนประมาณพันกว่าคน ทุก ๆ คนถ่ายรูปเก็บบรรยากาศได้ตามอัธยาศัยภายในเวลา 30 นาที เวลาอาจจะดูน้อยแต่สำหรับเราถือว่ากำลังพอดีนะคะ ไม่มากไปไม่น้อยไป พอถ่ายรูปเสร็จก็สามารถเข้าห้องน้ำบนรถไฟได้ก่อนที่รถไฟจะออกค่ะ ซึ่งห้องน้ำสะอาดมาก ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย ต่อมารถไฟก็พาทุกคนมาที่โคกสลุง ซึ่งมีอาหารหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไข่นกกระทาบนใบตอง ปลาหมึกเสียบไม้ น้ำดื่มต่าง ๆ กุ้งชุบแป้งทอด ทอดมันอร่อย ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย ในราคาที่ถูกมากค่ะ นอกจากขายอาหารแล้ว ยังขายกระเป๋า ผ้าถุง และอื่น ๆ ซึ่งเวลาที่จะเดินเลือกซื้ออาหารและของใช้ อยู่ที่ 30 นาทีค่ะ บอกเลยว่าประทับใจกับอาหารมาก ยิ่งไปกว่านั้นประทับใจแม่ค้า ที่ต่างโบกมือร่ำลาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อรถไฟออกจากสถานีอีกด้วย ( ขออภัยที่ไม่มีรูปภาพให้ชมนะคะ กำลังเดินเล่นหาของอร่อย ๆ จนลืมถ่ายรูปเก็บมาเลยค่ะ) สุดท้ายรถไฟก็พาทุกคนมาถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่สุดท้ายของทริป มีเวลาเที่ยวทั้งหมด 2 ชั่วโมงครึ่ง และรถไฟเปลี่ยนเวลาออกจาก 15.30 น. เป็น 16.00 น. ซึ่งพอมาถึงก็มีให้เลือกสองทางเลือก ว่าเราอยากชมอะไรต่อ ระหว่างทางเลือกที่ 1 นั่งรถตู้ไปชมทุ่งทานตะวันและคาเฟ่ หรือทางเลือกที่ 2 นั่งรถตัวหนอนหรือรถรางชมบริเวณเขื่อนและพระขาว เราจึงเลือกทางเลือกที่ 2 เพราะอยากดูบรรยากาศบริเวณเขื่อนมากกว่า จากรูปด้านบนคือรูปรถตัวหนอน ที่จะพาเราไปสูดบรรยากาศริมเขื่อน ราคาผู้ใหญ่ 30 บาท ราคาเด็ก 10 บาท รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ เพื่อให้ได้ชมวิว แต่ไม่แวะจอดให้ลงไปถ่ายรูปนะคะ อากาศริมเขื่อนเย็นสบายมาก เหมือนได้รับลมเย็น ๆ ที่ไม่ได้รับมานาน รถตัวหนอนมาหยุดจอดที่พระขาว ให้เราได้ไหว้พระทำบุญเป็นเวลา 15 นาที หากไหว้พระเสร็จสามารถเดินไปซื้อขนมและเครื่องดื่มได้ เช่น ไอศกรีมกะทิสด น้ำองุ่น เมล็ดทานตะวัน และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน สำหรับทางเลือกที่ 2 ก็จบลงที่รถตัวหนอนมาจอดที่เดิม ทั้งหมดใช้เวลาทั้งสิ้นหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ ถือว่าคุ้มที่ได้รับอากาศเย็น ๆ บริเวณเขื่อน ไหว้พระเย็นใจ และไอศกรีมกะทิเย็นท้องหนึ่งถ้วย เนื่องจากผู้คนที่มาท่องเที่ยวเยอะมาก ทำให้ต้องรอรถตัวหนอนตามคิวเป็นรอบ ๆ เรารอประมาณ 45 นาที ระหว่างที่รอก็ได้เข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สถานที่นี้มีปลาหลากหลายสายพันธุ์ให้ชม ทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก แถมไม่เสียค่าเข้าชมด้วยค่ะ รถไฟขากลับออกจากสถานีเป็นเวลา 16.00 น. ถือว่าออกตรงเวลามากค่ะ บรรยากาศเย็น ๆ กับท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน ให้ความรู้สึกไม่อยากให้ทริปนี้จบเลย ถึงแม้ว่าเดินทางด้วยรถไฟ อาจจะมีเพลียแดดเพลียลมบ้าง แต่ให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ซึ่งทำให้เราชอบมันมาก เหมือนวันนี้เป็นวันพิเศษวันหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ และแล้ววันเดย์ทริปกับรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็จบลงพร้อมกับความอิ่มใจกับการเที่ยวในวันนี้ สำหรับผู้อ่านที่สนใจจะไปเที่ยว เข้าไปติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Facebook : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือโทร. 1690 เพื่อโทรจองตั๋วหรือถามรายละเอียดเพิ่มเติม ไม่แน่ใจว่าตั๋วหมดหรือยัง อาจมีคนจองแล้วยกเลิกไหมก็ไม่ทราบ ลองโทรถามได้นะคะสำหรับเดือนธันวาคม และเดือนมกราคมปีหน้า ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านจนจบ หวังว่าจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะคะ สวัสดีค่ะ เครดิตรูปภาพ : ภาพหน้าปก ภาพปลาและภาพวิวริมเขื่อน : Noonyo Yorock คุณแฟนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน วันลาเหลือใช่ไหมหรืออยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !