ฮัลโหลๆ เทสๆ 1 2 3 โอเคร! สวัสดีจ้า สวัสดีเพื่อนๆทุกคนเลยน้า ก็คือต้องเกริ่มก่อนว่่าเราเนี่ยเป็นสายเที่ยวตัวยงเลย ช่วงไหนมีวันหยุดต้องหาสักที่ไปให้ได้ เราเชื่อว่าต้องมีคนเป็นอย่างเราอีกหลายคนแน่นอนช้ะม๊าา และบังเอิ๊ญบังเอิญเราได้วันหยุดมากระทันหัน เลยจะหาทริปเที่ยวแบบปุ้ปปั๊ปรับโชค เราก็เลยเริ่มวางแผนหาจังหวัดใก้ลๆที่สามารถไปเช้าเย็นกลับๆได้แบบไม่ทรหดเกินไปนัก และยังไม่เคยไปเที่ยวแบบจริงๆจังๆ หาไปหามาหวยก็เลยมาออกได้ที่จังหวัด.. " ลพบุรี๊ " (เสียงนางงามต้องลอยมาบ้างแหละ แหะๆ) มา! วันนี้เราจะมาพาเพื่อนๆทุกคนตามไปเที่ยวกับเรากัน เป้าหมายแรกของเราในทริปนี้ก็คือ การไปให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ท้องฟ้าสีหวานๆ อะไรอย่างงี้ เราเลยกำหนดแลนด์มาร์คแรกไว้ที่ เขาพระยาเดินธง แต่ๆๆชีวิตมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น...มันไม่เป็นไปตามแผนจ้า เราไปไม่ทันถึงเขาพระยาเดินธง พระอาทิตย์ก็เริ่มออกมาทักทายซะแล้ว แต่ถึงจะผิดแผนแต่ก็เป็นการผิดแผนที่ประทับใจมากๆ เพราะอะไรที่เราอยากเห็น ก็ได้เห็นถึงแม้จะไม่ใช่บนเขา แต่ก็สวยกว่าที่คิดไว้มากเลยเชียวล่ะ พอเราดูพระอาทิตย์ขึ้นจนพอใจแล้วเราก็เลยเดินทางต่อ แบบเอาวะตั้งใจจะไปแล้ว ก็จะไปให้ถึงละกัน เขาพระยาเดินธง เนี่ย และด้วยคำพูดนี้เองที่พาเราขับรถขึ้นเขาวกวนอยู่ประมาณ 20 นาที เส้นทางขึ้นเขาเขายาวประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังขรุขระ และจนในที่สุดก็ถึง!! Landmark 1 : เขาพระยาเดินธง เขาพระยาเดินธง สุดยอดจุดชมวิวแห่งลพบุรี นี่คือคำที่เราเคยได้ยินมา และพอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองแล้วก็ไม่มีอะไรจะแย้งจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวป่าเขาที่รายล้อมอยู่ด้านล่าง ไหนจะวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่เรามองเห็นภาพรวมได้ก็น่าประทับใจ โดยเขาพระยาเดินธงนั้นตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เป็นสถานที่เปิด ทำให้มีบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลายกว่าจุดชมวิวอื่นๆค่อนข้างมาก ก็ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์ต่างจากที่อื่น และเมื่อเราเสพวิวทิวทัศน์จนอิ่มใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปทำให้ท้องเราอื่มบ้าง เพราะกระเพราะก็เริ่มประท้วงหนักแล้ว เราเลยออกเดินทางกันต่อไปที่ร้านอาหารที่วิวดีมากๆที่นึงนั่นก็คือ Landmark 2 : กระเพรา & คอฟฟี่ ต้องยอมรับก่อนเลยว่าสำหรับที่นี่เลือกไปเพราะกระแสรีวิวล้วนๆ คือเหมือนไม่ไปแล้วจะคุยกับคนอื่นเค้าไม่รู้เรื่องอ่ะ ร้านกระเพรา & คอฟฟี่ ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยจ้า ตรงตามชื่อร้านทุกอย่าง ร้านนี้เค้าขายอาหารแค่กระเพราอย่างเดียวนะ แต่ความพิเศษมันอยู่ตรงที่มีมันหมดทุกกระเพราเลยไม่ว่าจะหมู เห็น เป็ด ไก่ สั่งมาเถอะขอแค่เป็นกระเพราอ่ะ ในส่วนของเครื่องดื่มก็มีครบตามที่ร้านทั่วไปมี แต่ที่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้เลยก็คงหนีไม่พ้นวิวทางด้านหลังร้าน ที่เป็นทุ่งดอกไม้ มีสะพานยาวให้เดินเที่ยวชม ด้านหลัดก็เห็นวิวภูเขา ทำให้เป็นที่ที่น่าจะถูกใจสายถ่ายูปอย่างแน่นอน เพราะเค้ามีจัดมุมเก๋ๆชิคๆไว้ให้เราได้โพสท่าเพียบ โดยเสียค่าเข้าชมเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้นเองค่ะทุกค๊นนน เมื่อท้องเราอิ่มแล้ว เดินถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ก็ไปที่ต่อไปกันเลยดีกว่า Landmark 3 : ทุ่งทานตะวันเขาจีนแล "ทุ่งทานตะวันอีกแล้วหรอ" คำถามนี้อาจจะผุดขึ้นในใจทุกคน แต่คือแบบมันไม่มาไม่ได้จริงๆทุ่งทานตะวันเนี่ย เรามั่นใจเลยหากเราไปเดินถามคนอื่นว่านึกถึง จังหวัดลพบุรี นึกถึงอะไร เกินครึ่งต้องตอบกลับมาว่าดอกทานตะวันอย่างแน่นอน เหมือนถ้ามาลพบุรีแล้วไม่ได้เห็นดอกทานตะวัน ก็เหมือนมาไม่ถึงนั่นแหละ !! ทุ่งทานตะวันเขาจีนแลนี้ มีพื้นที่กว้างประมาณ 355 ไร่ ซึ่งทำให้เราได้เห็นวิวดอกทานตะวันไปไกลสุดสายตาเลย และด้านหลังนั้นยังมองเห็นวัดสีขาวๆอยู่ลิบๆ นั่นคือวัดเวฬุวัน โดยเสียค่าบัตรคนละ 20 บาท พอเราเดินถ่ายรูปจนหน้าดำหนำใจแล้วก็ไปกันต่อเลยที่... Landmark 4 : อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก แหล่งน้ำสำคัญของคนลพบุรี อ่างเก็บน้ำที่รอบด้านโอบล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้เขียวขจี รอบแนวอ่างเก็บน้ำเรียงรายด้วยร้านอาหารทั้งแบบบนฝั่งและเรือนแพให้ได้นั่งชิวกันชิวติดน้ำ แถมยังมีรีสอร์ทซึ่งเหมาะกับการพักผ่อนให้บริการอยู่ด้วย แต่เรายังไม่ได้พักกันทีนี่ค่ะเพื่อน เพราะเรามีร้านที่เล็งไว้ว่าจะไปฝากท้องในมื้อกลางวันแล้ววว Landmark 5 : about coffee garden ร้านอาหารและกาแฟในสวนเล็กๆที่ให้บรรยากาศร่มรื่นสบายๆ ตกแต่งด้วยไม้และของทำมือน่ารักๆทั้งร้าน อีกทั้งเจ้าของร้านและบาริสต้าใส่ใจให้บริการลูกค้าดีมากๆ ที่สำคัญเป็นร้านที่กาแฟเด็ดที่สุดในลพบุรีเลยกว่าได้ แต่ใช่ว่าอาหารจะไม่อร่อยนะบอกเลยว่าเลิศจ้า โดยที่กาแฟเค้าจะมีให้เลือกหลากหลายมากๆ กาแฟดิปก็มี อาหารก็หลากหหลายสไตล์ทั้งไทยและฝรั่ง ให้ได้เลือกทานกัน นอกจากนี้ด้วยการจัดตกแต่งร้านที่คูลมากๆของที่นี่นั้นยังทำให้มีมุมถ่ายรูปดีๆในบริเวณร้านอีกหลายจุดด้วยจ้าาา และเช่นเคยเมื่อเราเติมพลังแล้วก็ไปลุยครึ่งบ่ายที่เหลือกัยเลยดีกว่า Landmark 6 : วัดเขาวงพระจันทร์ ถ้าหากใครเป็นสายบุญก็คงจะขึ้นมาที่นี่เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท หรือถ้าชอบความท้าทายก็อาจจะเดินฝ่าบันได้ 3,790 ขั้นขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ไม่ใช่สสำหรับพวกเราจ้า นี่ขึ้นมากันเพราะว่าที่เขาวงพระจันทร์แห่งนี้สามารถเห็นวิวโดยรอบได้ไกลสุดสายตาและมองเห็นได้แทบจะรอบทิศ เราก็เลยจะขึ้นไปชมวิวกัน และแน่นอนว่ามันมีทางด้านหลังให้ขับรถขึ้นมาได้นะทุกคนไม่จำเป็นต้องลากสังขารเดินอย่างเดียวหรอกน้าจิบอกให้ และที่เขาวงพระจันทร์นี้ก็ยังมีพระพุทธรูปใหญ่ “พระปรางค์เชียงแสน” ณ กลางเขา ขนาดหน้าตักกว้าง 45 เมตร สูง 75 เมตร ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากหลวงพ่อใหญ่ วัดม่วง จ.อ่างทองอยู่ด้วย เราก็กราบไหว้กับพอเป็นสิริมงคลเล็กๆในทริปแล้วเดินทางต่อกันเถอะ แหะๆ Landmark 7 : น้ำตกวังก้านเหลือง เมื่อกี้เข้าวัดไปไหว้พระมาจนเริ่มเย็นใจขึ้นมาหน่อยแล้ว แต่ทีนี้เราอยากเย็นกายบ้าง ก็ต้องไปที่นี่เลยจ้ะ น้ำตกวังก้านเหลือง เวลากำลังเหมาะแดดร่มลมตก ไม่ร้อนมากแล้วเล่นน้ำได้สบายๆ น้ำตกวังก้านเหลือง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มาได้ทั้งครอบครัว เป็นแหล่งน้ำผุดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้มีน้ำที่เป็นสีฟ้าอมเขียวใสน่าเล่นมากๆ และบริเวณรอบๆน้ำตกนั้นก็สามรถนั่งปิกนิกได้จะมีร้านอาหารให้บริการอยู่ นอกจากน้ำตกแล้วยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินกันเพลินๆ และที่นี่ยังเปิดให้บริการทั้งปีอีกด้วย แต่เปิดปิดตามเวลาราชกาลนะจ้ะถ้ามาเย็นเกินไปก็อดเข้า Landmark 8 : เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หลังจากออกจากน้ำตกกัน ระหว่างทางที่ขับกลับเข้าเมืองลพบุรีนั้น เราจะผ่านสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งในบริเวณเขื่อนนั้นมีสถานที่และกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถานีรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อาคารอเนกประสงค์ริมอ่างเก็บน้ำ มีสถานที่ปล่อยปลา จุดนั่งชมวิวริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หอคอยเฉลิมพระเกียรติ พิธภัณฑ์ฯ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีบริการรถรางนำเที่ยวชมวิวบริเวณสันเขื่อนฯ ไปและกลับอยู่ ...และวัตถุประสงค์ของเราที่มานั้นก็เพื่อรอชมวิวพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวสันเขื่อนนั่นเองค่าทุกคน Landmark 9 : พระปรางค์สามยอด และก่อนที่จะออกจากลพบุรีเพื่อจะเดินทางกลับกทม.เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะพลาดไม่แวะไปเยี่ยมชม แหล่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของลพบุรี ที่มีลักษณะเป็นปราสาทขอม ที่เรารู้จักกันดีและเคยได้ยินบ่อยๆอย่างพระปรางค์สามยอด ที่มีอายุกว่า 400 ปีแล้ว ก็ถือว่าเป็นการปิดท้ายทริปอย่างสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีอายุยาวนานของจังหวัดลพบุรี และเดินทางกลับกทม.จ้า เป็นยังไงกันบ้างทุกคน 1 day trip ที่ลพบุรี กับแลนด์มาร์ค 9 ที่ของเรา เห็นรึเปล่าว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมายเลยนะ หลากหลายประเภทด้วย หวังว่าทุกคนคงได้เห็น ลพบรี ในมุมมองที่แปลกใหม่มากขึ้นน้า และเมื่อมีโอกาสลองมาสัมผัสที่นี่ด้วยตัวเองดูสักครั้ง แล้วทุกคนจะต้องรู้สึกหลงรัก และอยากกลับมาที่นี่อีกอย่างแน่นอนเรารับประกัน :) ขอบคุณรูปภาพจาก https://th-th.facebook.com/raoruklopburi/posts/1292524477542989 http://www.artoftraveler.com/2016/04/20/%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87/