One Day เที่ยวนครนายก [ฉบับคนไม่มีรถ] สถานที่วันนี้ วัดหลวงพ่อปากแดง ตลาดโรงเกลือ น้ำตกวังตะไคร้ การเดินทาง เดินทางจาก มศว องครักษ์ ไปวัดหลวงพ่อปากแดง (เดินข้ามสะพานลอยไปรอรถตู้ฝั่งตรงข้าม) สำหรับคนที่อยากมาโดยเดินทางมาจาก กทม. สามารถนั่งรถจาก ฟิวเจอร์รังสิต โดยนั่งรถที่เขียนป้ายว่า "เขื่อนขุนด่านปราการชล" ข้อแนะนำ : สังเกตรถตู้ที่เขียนว่า "เขื่อนขุนด่านปราการชล" ค่าใช้จ่าย ไม่เกิน 500 บ./คน ทางเรานั่งรถตู้จากหน้ามศว องครักษ์ ไปยังเป้าหมายแรกซึ่งก็คือ วัดหลวงพ่อปากแดง โดยขึ้นรถตู้ที่เขียนว่าไป "เขื่อนขุนด่านปราการชล" ค่ารถตู้ 60 บาท *อย่าลืมบอกคนขับว่าลงวัดหลวงพ่อปากแดง* รถตู้จะจอดให้เราที่ตลาดโรงเกลือ แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แฮร่ ความจริงคือตลาดโรงเกลือกับวัดหลวงพ่อปากแดงอยู่ใกล้ๆกัน(มาก) ก็คือเที่ยวแบบ 2in1 ไปเลย เสียค่ารถทีเดียวคุ้ม เมื่อลงมาถึงก็ไปไหว้พระกันก่อนเลย วัดหลวงพ่อปากแดงก็ข้ามถนนและเดินเข้าไปในซอยข้างๆตลาดโรงเกลือ เดินเข้าไปในซอยเรื่อยๆ ถ้าเจอรูปปั้นกวางแปลว่ามาถูกทางแล้ววว เดินเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอทางเข้าวัด แปลว่าคุณมาถึงวัดแล้ววว วัดหลวงพ่อปากแดงมีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดพราหมณี เมื่อมาถึงแล้วก็เข้าไปไหว้พระกันเลย เดินเข้ามาตามทาง ไม่ต้องกลัวหลงหรือทำอะไรไม่ถูก เพราะจะมีคนคอยบอกว่าเราต้องไปทำอะไร ตรงไหน ก็ทำตามที่เขาบอกเลยย ข้างในวัดจะมีที่ให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียน จะมีป้ายบอกราคา ได้ดอกไม้ธูป-เทียน แล้วก็เข้าไปไหว้พระ ขอพร ส่วนใครอยากทำบุญเพิ่มก็จะมีตู้ให้หยอดเงินทำบุญตามกำลังศรัทธาเลย นี่คือแลนด์มาร์คที่ต้องมาถ่าย ถ้าไม่ได้ถ่ายแปลว่ามาไม่ถึง 5555 ป้ายวัดหลวงพ่อปากแดง ถ่ายเช็คอินเก๋ๆ ตรงบริเวณป้ายเมื่อกี้จะมีบ่อให้อาหารปลา หลังจากไหว้พระขอพรกันเสร็จก็มาให้อาหารปลากันซักหน่อย โดยที่วัดจะมีขนมปังให้ทำบุญเพื่อให้อาหารปลา อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คนมาที่นี่จะมาทำก็คือ ขอโชคลาภ ขอเลขเด็ด ! (ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านนะจ้ะ) ส่วนแม่นจริงมั้ย ทางเราไม่อาจตอบได้เพราะทางเราไม่เล่นจ้าา ใครอยากรู้ก็มาลองแล้วมารีวิวด้วยน้าา มีตู้หยอดแก้ปีชงด้วยน้า พอหยอดไปแล้วจะมีเสียงพระสวด หลังจากอิ่มบุญแล้ว ท้องก็เริ่มหิว เป้าหมายต่อไปคือตลาดโรงเกลือ เพื่อหาอะไรกิน ระหว่างทางกลับก็เจอน้องแมว อ้อนมาก น่ารักกกก ถือเป็นอีกหนึ่งความสุขเล็กๆ เจอร้านอาหารตามสั่งในตลาดโรงเกลือก็แวะสั่งอาหารกินกัน ราคา 40-50 บ. พอท้องอิ่มก็เดินเล่นตลาดโรงเกลือซะหน่อย ก็มีของกินขาย มีเสื้อผ้าขาย ราคาย่อมเยา แต่แอบร้อนไปนิด เดินทีเหงือออกเลยจ้า หลังจากเดินตลาดจนพอใจ เป้าหมายต่อไปน้ำตก ทางเราก็ข้ามถนนมาอีกฝั่ง เพื่อโบกรถไปน้ำตกต่อ ความจริงเราจะไปน้ำตกนางรอง แต่รอรถนานมากก็ยังไม่เจอ จึงแวะซื้อน้ำกิน(ชาพะยอมดังรูป) แล้วรถตู้ก็ผ่านมาพอดี ทางเราก็โบกจ้า แต่ปรากฎว่าเป็นรถตู้ที่มีคนเหมาให้ไปรับ แต่เขาใจดีไปส่งเรา แต่ไปส่งที่น้ำตกนางรองไม่ได้(เพราะคนละทาง) เราจึงบอกพี่เขาว่าขอไปน้ำตกอะไรก็ได้ เขาเลยไปส่งที่น้ำตกวังตะไคร้ ค่ารถตู้ 40 บ. มาถึงโดยสวัสดิภาพ แนะนำให้เข้าไปในอุทยานนะ เสียค่าเข้า 20บ./คน เข้ามาข้างในก็เดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดินมาเรื่อยๆก็จะถึงน้ำตกแล้วจ้าาา แต่ทางเราไปเดือนธันวาคม คาดว่าไม่ใช่ช่วง ทำให้น้ำในน้ำตกมีไม่เยอะ แต่ก็พอเล่นได้ *ควรศึกษาให้ดีว่าควรไปเล่นน้ำตกช่วงไหนดี* ทางเราก็ถ่ายรูปเล่นกับเพื่อน แล้วก็เล่นน้ำ แม้น้ำจะน้อย แม้จะไม่มีคน แต่ก็สนุกได้ 5555 พอจะมีน้ำให้เล่นอยู่นะ 5555 แต่จริงๆเป้าหมายหลักคือมาถ่ายรูป ได้ภาพสวยๆมาเยอะเลยล่ะ 5555 พอถ่ายจนเบื่อถึงค่อยเล่นน้ำหากเธอทุกข์ใจให้ลองเอาเท้าจุ่มน้ำ 55555 ตอนแรกก็เอาเท้าจุ่ม หลังๆก็คือลงทั้งตัว อากาศดี เงียบสงบ ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีเลยล่ะ ที่นี่มีห้องน้ำให้อาบน้ำเปลี่ยนชุด เพราะงั้นใครที่พาเด็กๆมากลัวไม่มีที่เปลี่ยนเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ ค่าบริการก็ตามป้ายเลยจ้า ถือว่าช่วยกันเป็นค่าดูแลรักษาสถานที่เนอะะ >> สรุปค่าใช้จ่าย <<&nbsp; - ค่ารถมศว-วัดหลวงพ่อปากแดง 60.- - ค่าทำบุญ ตามศรัทธา - ค่ากิน ตามที่เรากินเนอะ - ค่ารถตู้จากตลาดโรงเกลือ-น้ำตกวังตะไคร้ 40.- - ค่าเข้าอุทยาน/คน 20.- - ค่ารถจากอุทยานกลับ มศว 60.- (คุณลุงคนขับลดราคาให้เนื่องจากคุยกันถูกคอ 5555) สรุป : ทางเราหมดไปไม่ถึง 500/คน ทริปนี้ไปกัน 2 คน ข้อแนะนำ : ทางที่ดีควรจะนั่งรถตู้ไปน้ำตกก่อน แล้วค่อยโบกรถตู้กลับมาวัดหลวงพ่อปากแดง น่าจะหารถง่ายกว่า Cridit : ภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน ทุกๆการเดินทางจะสอนให้เราเรียนรู้ และเติบโตมากขึ้น :’)