โควิดทำให้ผมได้อยู่บ้านยาวสมใจจนเบื่อบ้านเต็มที เมื่อหาข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับร้านกาแฟที่เริ่มเปิดให้บริการบ้างแล้ว ผมจึงพาครอบครัวออกตามหาสถานที่สูดอากาศไม่ไกลบ้าน จนพบกับสถานที่ Unseen สำหรับครอบครัวเราซ่อนตัวอยู่ริมคลอง ในเขตจังหวัดนครนายก นครนายก เป็นเมืองรองที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีกิจกรรมที่หลากหลายใกล้กรุงเทพฯ ในคลอง 15 เขตอำเภอองครักษ์ ขึ้นชื่อเรื่องหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับถึงขนาดที่รัฐบาลโปรโมทให้เป็นหนึ่งใน “ตลาดต้องชม” ทั่วไทย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่นี่ เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้ามา จากถนนใหญ่สู่ถนนเลียบคลอง 15 ทิวทัศน์ 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาพรรณ ตั้งแต่แคคตัสในกระถางเท่าฝ่ามือ ไปจนถึงไม้ใหญ่ประดับรีสอร์ท แม่กับเคนชอบต้นไม้มาก จึงค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ เมื่อแวดล้อมด้วยสีเขียว และดอกไม้หลากสี แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายของเราครับ เราจึงไปต่ออีกเกือบ 2 กม.จากถนนใหญ่มาจนถึงร้านกาแฟที่เราปักหมุดไว้ จิบกาแฟ ชมไม้ ในสวนป้าอินทร์ ที่นี่เป็นที่แรกๆที่ลงประกาศว่า เปิดให้บริการแล้วหลังจากคลายล็อคดาวน์ และเชื่อว่าคอกาแฟ และผู้แสวงหาโอโซนจากพรรณไม้ต่างหาเวลามาที่นี่เหมือนผมครับ เพราะจุดสังเกตของร้านนี้ นอกเหนือจากสีเขียวชะอุ่มจากหน้าร้านแล้ว ยังเป็นรถยนต์ที่จอดเต็มลานล้นมาจนถึงหน้าร้านครับ มาตรการรับมือโควิดที่นี่ก็เป็นไปตามมาตรฐาน คือ ลูกค้าทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้าน มิฉะนั้นเขาไม่ให้เข้านะครับ ตรวจวัดไข้ และ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือจะล้างด้วยสบู่จากอ่างล้างมือเลย ก็มีให้บริการอยู่ปากทางลานจอดรถเลยครับ สะดวกดี ที่สำคัญคือ เช็คอิน-เช็คเอาท์เว็บ “ไทยชนะ” เพื่อเป็นข้อมูลในการตามตัวลูกค้าแต่ละคน หากเกิดแจ็คพ็อตเจอผู้ติดเชื้อในร้านครับ ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่ ขายทั้งอาหารจานหลักอย่างสเต็ก สลัด ผัดกะเพราไข่ดาว ฯลฯ เครื่องดื่มอย่าง กาแฟหลากหลายเมนู ไปจนถึงของหวานอย่างเค้ก มีโซนให้บริการ 3 โซน คือโซนห้องแอร์ โซนเอาท์ดอร์ และโซนสวน ในโซนห้องแอร์ที่ส่วนใหญ่ วางเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งรออาหารและเครื่องดื่ม โต๊ะในโซนนี้ ตอนนี้มีน้อยครับ เพราะต้องเว้นระยะห่าง ซึ่งห่างมาก และผมแนะนำให้นั่งโซนเอาท์ดอร์ดีกว่า ได้บรรยากาศลมเย็นๆริมคลอง หรือจะนั่งดูต้นไม้จากโซนสวนข้างๆก็ได้ อากาศถ่ายเทกว่า และเสี่ยงติดโควิดน้อยกว่าในห้องแอร์ครับ โซน outdoor เป็นโซนในร่ม ที่มุงด้วยซาแลนทำสวน มองไปเห็นทั้งวิวสวน และวิวคลองเลยครับ ตอนผมไปเป็นช่วงฝนตกพอดี ฝนพัดลมผ่านคลอง ทำให้อากาศเย็น สดชื่น หอมกลิ่นไอต้นไม้ และกลิ่นชื้นของดินที่ผมไม่ได้สัมผัสมานับเดือนช่วงล็อคดาวน์ บรรยากาศฝนๆ จิบคาปูชิโน่ปั่นเย็นๆ ไม่มีอะไรฟินสำหรับผมไปได้มากกว่านี้แล้วในช่วงเวลานั้นครับ โซนสวน เป็นโซนโปรดของแม่ เพราะตลอดข้างคาเฟ่ ตกแต่งด้วยไม้ประดับนานาชนิด ส่วนใหญ่เป็นไม้ในร่มครับ จึงสามารถปลูกในร่มซาแลนได้ และทำให้ลูกค้าเดินดูต้นไม้รอบๆได้โดยไม่ร้อนแม้แดดจ้า จัดเป็นแปลงๆไปสำหรับขาย ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาทครับ พื้นร้านสะอาด เป็นสัดส่วน ไม่เลอะเทอะเฉอะแฉะเหมือนร้านต้นไม้ทั่วไปครับ ไฮไลท์ของโซนนี้ คือ น้ำตกจำลองและบ่อปลาคาร์ฟหลากสีสัน ที่แต่ละตัวใหญ่ขนาดกินแมวผมได้ทั้งตัว น้ำตกจำลองทำให้บรรยากาศชุ่มชื้น ไม่ร้อนครับ ให้มานั่งเขียนงานที่นี่ทั้งวันก็อยู่ได้ ร้านสวนป้าอินทร์ ตลาดไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15 อ.องครักษ์ จ.นครนายก เปิดบริการ: จันทร์-ศุกร์ 08.00-18.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 07.00-18.00 น. **หยุดวันพุธ** ฝากความคิดถึง ในร้านกาแฟกับต้นไม้ ถ้าเปรียบเทียบสวนป้าอินทร์เป็นโรงแรม 4 ดาว “ร้านกาแฟกับต้นไม้” ก็เป็นโรงแรมบูติค 3 ดาว ร้านตกแต่งสไตล์บาหลี เน้นการนั่งจิบกาแฟในร่มไม้ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ติดแม่น้ำทั้งคู่ แต่ที่นี่แทบไม่มีโซน indoor ครับ มีแค่ 2 โต๊ะสำหรับนั่งรอกาแฟที่สั่ง นอกนั้นเป็น Open Air หมดเลย ข้อเสียคือ เวลาฝนตก แทบไม่มีที่ให้เรานั่งได้ครับ เพราะเปียกหมด เราจึงได้แค่สั่งเครื่องดื่ม เดินรอบๆร้าน แล้วไปต่อ เอกลักษณ์ของร้าน คือ การตั้งกระดาษโน้ต และปากกาเมจิคไว้ให้ลูกค้าได้ฝากความคิดถึง และความประทับใจ แปะประดับโน้ตทั่วร้าน ตั้งแต่ผนังยันเพดาน ดูดโกโก้ไป ก็อ่านความในใจของลูกค้าแต่ละคนไป มีตั้งแต่บอกความประทับใจของร้านที่อบอุ่น เป็นกันเอง ไปจนถึงบอกรักกันเอง เป็นความน่ารัก รกแบบอาร์ท และวินเทจ ท่ามกลางต้นไม้ที่เขียวสดโดยรอบครับ ร้านกาแฟกับต้นไม้ ตลาดไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15 อ.องครักษ์ จ.นครนายก เปิดบริการ: จันทร์-อาทิตย์ 08.30-16.30 น. **หยุดวันจันทร์** แหล่งต้นไม้สำหรับคนรักสวน สำหรับคนรักสวน เรามักหาร้านขายดินไว้สำหรับปลูกต้นไม้ครับ หลายร้านที่อยู่ในเมือง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 ถุง 100 บาท การได้เจอมากกว่า 7 ถุง 100 เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับพวกเราครับ แต่หาได้ที่นี่ เพราะที่นี่ ราคาดินอยู่ที่ประมาณ 11 ถุง 100 บาท เรียกว่า หาราคานี้ไม่ได้ในกรุงเทพ หรือนนทบุรีแน่นอนครับ นอกจากดินปลูกต้นไม้แล้ว ที่นี่ยังมีกาบมะพร้าว ดินผสมก้ามปูซึ่งมีไนโตรเจนสูง ต้นไม้ชอบ และอีกหลากหลายชนิดครับ ผมเฝ้ามองแต่ละร้านขณะขับรถผ่าน มีร้านมากมายเปิดติดๆกันตลอดทั้งคลองที่ยาวกว่า 8 กิโลเมตร และเมื่อสังเกตดีๆ แต่ละร้านแม้จะดูคล้ายกัน แต่จริงๆแล้ว ไม้ประดับที่แต่ละร้านมาขายหรือโปรโมทเป็นจุดเด่นของร้านของตน ไม่เหมือนกันสักร้าน อาจจะมี 2-3 ร้านที่ขายต้นไผ่ แต่จะมีแค่ร้านเดียวที่มีไผ่ดำ ซึ่งผมก็เพิ่งเคยเห็นที่นี่เป็นครั้งแรก เป็นต้น ตามประวัติ ชุมชนที่นี่ดั้งเดิมทำนาครับ สังเกตได้จากท้องนาที่เขียวชะอุ่มในอีกฟากถนนของคลอง 15 แต่เมื่อเห็นว่าการปลูกไม้ประดับขายทำกำไรได้มากกว่า จึงเปลี่ยนมาปลูกไม้ประดับขายแทนทั้งหมู่บ้านคลอง 15 เลยทีเดียว และทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และได้รับการโปรโมทเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีซึ่งผมเรียกว่า เป็นฤดูดอกไม้บาน ตลอดถนนสายเลียบ คลอง 15 จะจัดงานมหกรรมไม้ดอก-ไม้ประดับ มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย เช่น ประกวดไม้ดอกไม้ประดับ การจัดสวนหย่อม และให้ความรู้ทางด้านพรรณไม้ต่างๆจากผู้เชี่ยวชาญ แอบได้ยินว่า โรงแรมบางแห่งที่ต้องการพรรณไม้สำหรับประดับตกแต่งรีสอร์ทก็มาหาซื้อจากที่นี่เหมือนกัน เพราะราคาไม่แพง และมีหลากหลายครับ ถ้ากำลังเบื่อกรุงเทพ หรือเบื่อบ้านกันแล้ว อยากหาที่สูดอากาศไม่ไกลกรุงเทพ หรือหาต้นไม้ ดอกไม้สวยๆไปแต่งสวนที่บ้าน ลองหาโอกาศแวะมาที่นี่ แล้วอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย กินร้อน ช้อนท่าน ล้างมือกันบ่อยๆนะครับ จะได้แข็งแรงด้วยกันไปนานๆ เครดิตรูป: Pornpan Kleeplaew อ้างอิงเนื้อหา: - https://bit.ly/3bXUFlT