วันนี้ผมจะมารีวิว One-Day Trip ที่น้ำตกผางามงอน & เขาช่องลม แห่งเขื่อนขุนด่านปราการชล ณ นครนายก ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนเลยว่า ผมนั้นเป็นนักศึกษาจึงไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ มากนัก เมื่อถึงคราวหยุดยาว 4 - 7 กันยายน ทำให้พวกเราได้ตัดสินใจว่าจะไป One-Day Trip กันซึ่งทุกคนเห็นด้วยมาก พวกเราอยากไปเที่ยวธรรมชาติซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เราช่วยกันค้นหาซึ่งไปพบกับ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" ที่จังหวัดนครนายก ซึ่งขับรถไม่ไกล ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเดินทาง พวกเราจึงตัดสินใจที่จะไปที่นั่นกัน ในวันที่ 5 ก.ย. พวกเราเดินทางโดยการขับรถยนต์ส่วนบุคคลไปถึงเขื่อนเลยยย เราถึงหน้าเขื่อนขุนด่านฯ กันตอนประมาณ 11 โมง ซึ่งเนื่องจากเป็นวันหยุดยาวคนจึงค่อนข้างเยอะ เลยวนหาที่จอดรถกันสักพักเลยแหละ หลังจากนั้นทุกคนนั่งรถสองแถวเพื่อขึ้นไปบนสันเข้า ( มีค่าเข้าคนละ 10 บาท ด้วยน้าา ) เมื่อเรานั่งรถสองแถวจนถึงสันเขา ที่นู่นมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น ล่องเรือ, เช่ารถกอล์ฟ, เดินเล่นหรือจะชอปปิงก็ยังได้นะ เรากับเพื่อน ๆ อยากไปเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากพวกเรานั้นไปกันเยอะจึงเหมาเรือเพื่อไปเที่ยวในตัวเขื่อนกัน ซึ่งเรทราคาเป็น 3,000 บาทต่อครึ่งวัน ซึ่งหารแล้วคนละ 200 บาท ถือว่าไม่แพงมากนะ คนเดินเรือบอกว่าจะไปได้สองที่ คือ "น้ำตกผางามงอน" และ "เขาช่องลม" ซึ่งเราเลือกไปน้ำตกก่อน เมื่อทุกคนพร้อมแล้วก็ลงเรือไปกันเลยยย พอถึงน้ำตกผางามงอน พวกเราประหลาดใจสุด ๆ เพราะที่นี่เป็นน้ำตกที่ยังอุดมไปด้วยธรรมชาติมาก ( สงสัยคนไม่นิยมปีนน้ำตกกันละสิ ) จากการที่พวกเราเตรียมตัวมาถ่ายรูปกันอย่างเต็มที่ กลับต้องเปลี่ยนมาแนว adventure ปีนน้ำตกกระทันหัน ทุกคนช็อคไปเลยฮะ ( แต่ส่วนตัวผมดีใจนะเพราะชอบไรแบบนี้ ) เมื่อปีนไปเรื่อย ๆ เพื่อนของผมหลายคนเริ่มหยุดปีน เแล้วหันไปถ่ายรูป เนื่องจากทางค่อนข้างยากเลย ผมที่อดทนปีนต่อจนในที่สุดก็ถึงชั้นบนสุด ซึงมีวิวและบรรยากาศที่สวยงามเลยทีเดียว ให้ความรู้สึกอยู่ในป่าลึกมาก ( ในรูปคือผมเอง ช่วงนั้นเจ็บแขนพอดีแต่ก็ยังซ่าปีนน้ำตกอยู่ เพื่อนๆ ว่ากันเต็มเลยฮะ ) หลังจากนั้นก็ไปที่เที่ยวต่อไป คือ เขาช่องลม เป็นช่องที่เกิดจากภูเขาสองลูก และมีลำธารอยู่ตรงกลาง ซึ่งที่นี่นั้นมีคนเยอะกว่าที่แรกมาก เพราะเนื่องจากเส้นทางที่ไม่ลำบาก และวิวถ่ายรูปที่ดีกว่า สำหรับที่นี่นั้น เรียกได้ว่าถูกใจสายถ่ายภาพกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะมุมไหน แสงอย่างไร ก็ถ่ายรูปออกมาสวยไปหมด แต่เนื่องด้วยผมชอบการเดินธรรมชาติ จึงทำให้เดินไปจนสุดทางของเขาช่องลม ซึ่งบริเวณนั้นค่อนข้างเงียบเลยทีเดียว คนน้อยกว่าข้างนอกมาก และวิวก็ยังสวยงามไม่แพ้กันกับตรง landmark ถ่ายรูป เมื่อเราเที่ยวกันจนเหนื่อย เราก็นั่งเรือเดินทางกลับมาถึงที่สันเขื่อนประมาณ 6 โมงเย็น และถ่ายรูปหมู่กันพอเป็นพิธี ก่อนจะไปนั่งรถสองแถวกลับ ซึ่งคิวรถนั้นยาวมากกก เนื่องจากทุกคนมีเวลากลับที่พร้อมกัน ทำให้คิวรถจึงเยอะมาก เมื่อรถสองแถวถึงหน้าเขื่อน เราจึงขับรถออกจากเขื่อนขุนด่านปราการชล และไปหาอะไรทานเป็นมื้อเย็นกันในนครนายก ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ( ไปจบที่ร้านหมูกระทะ ) เอ๊ะ ๆ ๆ เดี๋ยวก่อนยังไม่จบ เราขอพูดถึงการเดินทางไปนครนายกนิดนึง เรานั่งรถไปกับเพื่อน 5 คน ซึ่งรถที่เพื่อนเราใช้คือ Toyota Corolla Altis Entry ( ไม่ได้สปอนเซอร์แต่อย่างใดนะครับ ) ซึ่งเป็น "รถยนต์ Hybrid" หลาย ๆคนอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร คำว่า Hybrid นั้นแปลว่าการผสมผสาน ซึ่งระบบการทำงานของรถนั้นก็ตามชื่อเลย นั่นก็คือรถที่มีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า เข้ามาทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปนั่นเอง ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์สันดาปหลักทำงานน้อยลง ขณะขับเครื่องยนต์เงียบขึ้น ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ( นั่งกันตั้ง 5 คน ถือว่าคุ้มสุด ๆ ) รวมถึงการปล่อยก๊าซไอเสียออกมาน้อยกว่ารถยนต์ธรรมดาอีกด้วย ( แถมนั่งสบายด้วยนะ กันสะเทือนเขาดีจริง ๆ ) ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันนั้น concern ถึงเรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงทำให้รถยนต์ Hybrid นั้นกำลังมาแรงเลยทีเดียว ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการเดินทางที่ดีเลยแหละ สุดท้ายแล้ว สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่จะไปเที่ยวธรรมชาติ ขอให้ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทางอย่างถูกต้อง และรักษาสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะคร้าบบบ ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน