วันหยุดต้นเดือนแบบนี้ ป่านแก้วจะชวนไปขับรถเที่ยววัดสวย ๆ แบบสายบุญ ที่จังหวัดนครนายกกันค่ะ ขับรถใกล้ ๆ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงนิด ๆ จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ตำบลสาลิกา จังหวัดนครนายก สถานที่แรก เราไปกันที่ “วัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง)” ที่เลือกสถานที่นี้เป็นที่แรก เพราะหากเราไปสายคนจะเยอะมาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะช่วงใกล้ ๆ วันที่ 1 และวันที่ 15 ของเดือน วัดพราหมณี หรือวัดหลวงพ่อปากแดง ตั้งอยู่ที่ ถนนสาริกา-นางรอง หลักกิโลเมตรที่ 4 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก ทางเข้าวัดอยู่ติดกับตลาดโรงเกลือนครนายก ถือเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในจังหวัดนครนายก วัดแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2446 ปัจจุบันนี้มีอายุ 100 กว่าปีแล้ว วัดพราหมณี มีพระประธานศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นที่เคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง มีชื่อว่า "หลวงพ่อปากแดง" เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง จีวรเป็นลายดอกพิกุล พระโอษฐ์แย้มทาสีแดงเห็นชัด ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หลวงพ่อปากแดง" สิ่งที่เด่นสะดุดตา คือ ที่ปากของหลวงพ่อมีสีแดงสด เหมือนมีผู้นำลิปสติกไปทาไว้ วัดนี้เป็นที่รู้จักกันดีของนักเสี่ยงโชคทั้งหลาย มาขอพระด้วยการนำน้ำแดงมาถวาย "หลวงพ่อปากแดง" เพื่อขอโชคขอลาภกัน กลายเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดนครนายก ที่รู้จักกันดี เดินทางไปต่อกันที่ “อุทยานพระพิฆเนศ” จากทางหลวงหมายเลข 3049 เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงประชาเกษม ให้เลี้ยวเข้าซอยอีกประมาณ 300 เมตร สามารถเข้าชมได้ฟรี เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. สถานที่นี้เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ขอพรสุดฮิตของจังหวัดนครนายก สำหรับผู้ที่ศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง ของทางศาสนาฮินดู อุทยานพระพิฆเนศ นครนายก แห่งนี้ เกิดจากพระราชพิพัฒน์โกศล หรือหลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร พร้อมด้วยคณะศิษย์ที่มีความเคารพนับถือในองค์พระพิฆเนศ (เทพเจ้าแห่งปัญญาและความสำเร็จ) ได้ดำเนินการจัดสร้าง โดยองค์พระพิฆเนศนั้นมีขนาดใหญ่มาก หน้าตักกว้างถึง 9 เมตร และสูง 15 เมตร ปาง คือ พระพิฆเนศปางนั่งประทานพร หรือเรียกว่า ปางคณบดี และปางไสยาสประทานพร นั่นเอง นอกจากนี้ยังถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการปฏิบัติธรรมอีกด้วย ออกมาสู่ทางหลวงหมายเลข 3049 มุ่งหน้าน้ำตกสาลิกา ไปอีกไม่ไกลนัก เราจะพบกับ “พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์” สถานที่นี้ ถูกสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหาอภิสมัย พุทธชยันตีครบ 2,600 ปี บนพื้นที่ 53 ไร่ มีพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ขนาดใหญ่เด่นเป็นสง่า หน้าตัก 9 เมตร สูง 13.5 เมตร เป็นตัวแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบมีการสร้างพระพุทธรูป ขนาดหน้าตัก 90 ซม. อีก 1,250 องค์ เป็นตัวแทนพุทธสาวก แสดงถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้งพุทธกาล กล่าวคือ เป็นวันจาตุรงคสันนิบาต หรือวันประชุมใหญ่ มีพื้นที่จอดรถกว้างขวางมาก มีห้องน้ำสร้างใหม่ไว้บริการ สามารถเข้าชมได้ฟรี เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. ย้อนกลับเข้ากรุงเทพมหานคร เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3239 จะพบกับ “วัดคีรีวัน” ตั้งอยู่ในตำบลหินตั้ง จังหวัดนครนายก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร สักการะองค์พระแก้วมรกตจำลอง (สร้างจากเรซิ่น) ใหญ่ที่สุดในโลก ณ พระมณฑปประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลอง อยู่บนเนินเขาลูกย่อม ๆ โดยเราสามารถขับรถขึ้นไปถึงข้างบนได้เลย แต่หากเป็นหน้าฝนทางจะลื่นสักหน่อย ต้องอาศัยความชำนาญอยู่เหมือนกันนะคะ ลงมาด้านล่าง ชมศิลปะสถาปัตยกรรมแบบอารยธรรมขอม ที่พบเห็นได้ในภาคอีสานอยู่ด้านล่างของวัด รวมถึงปราสาทขอมองค์ใหญ่ซึ่งเพิ่งสร้างใหม่ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโพธิ์ 1,000 ปี พระพุทธรูปปางนาคปรกแกะจากไม้ต้นโพธิ์ อันมีพุทธศาสนิกชนมอบให้กับทางวัด เมื่อปี พ.ศ. 2554 จากนั้นเดินชมวิหารที่จำลองสถาปัตยกรรมขอม และภายในวัดมีหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ คือ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ นอกจากนี้ยังมีรูปปูนปั้นเหล่าเทพยดาต่าง ๆ ทางจีนและพราหมณ์ ที่สวยงามน่าเที่ยวชมอีกมากมาย วัดนี้บอกได้เลยว่าห้ามพลาดจริง ๆ เดินทางต่อ ไปที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3076 ไปที่ “วัดมณีวงศ์” จังหวัดนครนายก เป็นวัดที่มีพุทธศิลป์ที่สวยงามควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม เริ่มตั้งแต่ซุ้มประตูวัด พระพุทธรูปสีเหลืองทองปางป่าเลไลย์ วิหารเซียนที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านบน พระอุโบสถ สวนปฏิบัติธรรมที่สร้างด้วยศิลปะที่อ่อนช้อยงดงาม และแปลกตาจากที่เคยเห็น เดินชมได้แบบตื่นตาตื่นใจ และถือโอกาสได้ทำบุญอีกด้วย ซุ้มประตูทางเข้าวัดสีทองอลังการ มีรูปปั้นพญานาคซึ่งเป็นมนุษย์ผู้ชายเฝ้าประตูทั้งสองฝั่ง ส่วนกำแพงวัดเป็นสีทองทอดยาวโดดเด่นด้วยลวดลายแกะสลัก ปลายสุดของกำแพงเป็นรูปดอก มีพระพุทธรูปอุ้มบาตรอยู่ตามช่องประตู เป็นกำแพงวัดที่สวยมาก เดินเข้าไปด้านในจะพบกับ "พระรัตนมณีมหาบาดาล" ณ ถ้ำพญานาคเมืองบาดาลใหญ่ที่สุดในประเทศไทย "ถ้ำรัตนมณีมหานครบาดาล" งดงามตระการตาด้วยศิลปกรรมต่างๆ ทั่วทั้งบริเวณวัด มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะมากมาย หากมีเวลาเหลือ ป่านแก้วอยากแนะนำ “เมืองโบราณดงละคร” อยู่ห่างจากวัดคีรีวันไม่ไกลนัก ในอดีตถูกเรียกว่า “เมืองลับแล” มีการขุดค้นพบซากเมืองเก่า บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ที่มาของคำว่า ดงละคร เชื่อว่าเพี้ยนมาจากคำว่า ดงนคร หมายถึง เมืองซึ่งอยู่กลางป่า แต่ตามตำนานก็เพราะสมัยก่อนชาวบ้านมักได้ยินเสียงเพลงมโหรี คล้ายมีการแสดงละคร นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเมืองโบราณดงละครได้ ภายในมีคูน้ำ และคันดิน เป็นแนวกำแพงเมือง หรือสันคูเมือง รูปวงรีล้อมรอบ มีด้วยกัน 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นนอก และชั้นใน ทางด้านตะวันออก เรียกว่า หนองกระพ้อ มีประตูทางเข้าเมือง และสระน้ำอยู่ทั้งสี่ทิศ นอกจากนั้น พื้นที่บริเวณนี้ ได้ขุดค้นพบโบราณวัตถุ อาทิ เศษภาชนะดินเผา ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน เบี้ยดินเผา และเศียรพระพุทธรูปกะไหล่ทอง ปัจจุบัน “เมืองโบราณดงละคร” เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ หากใครที่หลงใหลเรื่องราวลึกลับ หรือศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์ สถานที่นี้น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ เครดิตรูปภาพ : Pankaew