อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถือเป็นสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก สามารถเดินทางไปได้ง่าย ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถไปได้สบาย ๆ ทริปนี้เราเริ่มเดินทางกัน 2 คนจากกรุงเทพฯ ใช้งบประมาณคนละ 2000 บาทสำหรับ 3 วัน 2 คืน ก่อนวันที่เราจะเดินทางไปก็ได้มีการจองเต๊นท์ที่พักเอาไว้ล่วงหน้า ทางเว็บไซต์นี้ http://nps.dnp.go.th/ การเดินทาง: สำหรับขาไปจากกรุงเทพฯ - อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เราเริ่มออกเดินทางด้วยการนั่งรถตู้แถว ๆ สถานีขนส่งหมอชิต มีการจัดตั้งคิวรถตู้อย่างเป็นระเบียบ เราทำการซื้อตั๋วและนั่งรอสักพัก เราก็ออกเดินทาง ใช้เวลาประมาณ 2 -3 ชั่วโมง รถก็จะไปจอดในตัวเมือง ลงจากรถตู้ปุ๊บ ก็จะเห็นรถหกล้อสีฟ้าจอดอยู่ตรงหน้าเลย จากนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงหน้าอุทยานฯ ซึ่งเราได้เช่ารถมอเตอร์ไซค์จากร้านหน้าอุทยานฯ ราคาวันละ 500 บาท ไม่ต้องมัดจำ แค่ทิ้งบัตรประชาชนไว้ พี่เขาจะเติมน้ำมันไว้ให้เต็มถังโดยที่เราไม่ต้องเติมคืน แล้วก็จะมีแผนที่เล็ก ๆ ให้มาดูคร่าว ๆ ขากลับ หลังจากนำรถที่เช่ามาไปคืนเรียบร้อย เราก็สามารถไปรอรถหกล้อสีฟ้าเหมือนเดิมกับขามา ฝั่งถนนทางที่เข้าเมือง รถสองแถวจะไปจอดที่เดิมเลย ตรงนั้นจะมีคิวรถตู้พอดี สะดวกมาก ๆ การขี่รถมอเตอร์ไซค์ในอุทยานฯ : หนทางในการขับขี่ถือว่าไม่ยากเท่าไหร่ ถนนก็สะดวกสบาย ขับขี่ไม่ยาก ค่อย ๆ ขี่ชมวิวข้างทางไปเรื่อย ๆ อาจจะมีบางจุดชมวิวที่มีทางชันมาก แต่ค่อย ๆ ขี่อย่างระมัดระวังขึ้นไปได้ แถมรถก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ขนาดเราเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็ขี่ได้อย่างสบาย ๆ ข้างทางก็จะมีจุดแวะพักและจุดชมวิวเป็นระยะ หากใครชื่นชอบสัตว์ป่าและธรรมชาติ มาเที่ยวที่นี่ถือว่าคุ้มสุด ๆ ได้พบสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด เช่น ลิง กวาง แถมสัตว์พวกนี้เขายังนิสัยดี เชื่อง ไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่ก็ต้องช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าสัตว์ป่าทั้งหลายที่เจอขยะ แล้วนำไปกิน พวกเขาถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ถ้าอยากให้สถานที่ดี ๆ แบบนี้อยู่กับเรานาน ๆ ก็ควรจะช่วย ๆ กันน้า เราก็ได้ขี่รถออกไปเที่ยวตามจุดชมวิวอื่น ๆ เช่น น้ำตกผากล้วยไม้ ใช้เวลาเดินทางจากจุดกางเต๊นท์ไม่ไกลมาก ที่นี่น้ำใสสะอาด เย็นสดชื่นมาก ๆ มีผู้คนมาเที่ยวพักผ่อน ถ่ายรูปกับน้ำตกเยอะพอสมควรในช่วงวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อากาศแถว ๆ น้ำตกเย็นสบายมาก ๆ แต่ที่สำคัญน้ำตกบริเวณนี้ห้ามลงไปเล่นน้ำนะคะ ถ้าฝ่าฝืนอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ พวกเราเลือกกางเต๊นท์บริเวณจุดกางเต๊นท์เขื่อนลำตะคอง ซึ่งดีมาก ๆ เลยเพราะว่าจะมีสะพานให้ไปเดินเล่นหรือถ่ายรูปเล่นได้ แถมยังนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินได้อีกด้วย ถือเป็นมุมดี ๆ อีกจุดหนึ่งเลย สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่ผจญภัยและสนุกมาก ๆ บรรยากาศดี อากาศก็สดชื่น ทำให้ได้ไปสูดโอโซนอย่างเต็มปอดแถมยังได้ตั้งแคมป์อีกด้วย เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติมาก ๆ แนะนำเลยค่ะสำหรับใครที่รักธรรมชาติ ห้ามพลาด ภาพถ่ายโดยผู้เขียน