อื่นๆ
ผียายพูน

ยายพูนเป็นผู้หญิงแก่ ๆ ที่มีรูปร่างค่อนข้างใหญ่ หุ่นอ้วน ๆ ตัวขาว ๆ แกเป็นคนหวงหวงสมบัติใครจะมายุ่งกับของ ๆ แกไม่ได้ แกจะไล่ด่า ตะเพิดไปหมด เด็ก ๆ ทุกคนแถวนั้นต่างกลัวแกทุกคน เวลาที่แกด่าขึ้นมาแต่ละทีเสียงดังตั้งแต่บ้านยันท้ายสวนก็ยังได้ยิน บ้านของยายพูนเป็นบ้านไม้สองชั้นด้านล่างเป็นใต้ถุนโล่ง ๆ มีแคร่ไม้ไผ่ตั้งอยู่ ตรงนั้นเป็นที่ประจำที่ยายพูนชอบมานั่งเล่นในทุก ๆ เย็น บนบ้านของยายพูนมองจากภายนอกดูน่ากลัวมันมืดทึบไปหมด บริเวณรอบ ๆ บ้านก็มีแต่ต้นไม้ใหญ่ ๆ อยู่ล้อมรอบ สวนของยายพูนมีขนาดกว้างมากปลูกทั้งผักและผลไม้เต็มสวน และยังมีบ่อปลาอีกด้วย ยายพูนแกอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียวเพราะลูกหลานของแกแยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมดแล้วนาน ๆ ที ถึงจะกลับมาเยี่ยม
ภาพโดย Jane Spaulding จาก Pixabay
Advertisement
Advertisement
ด้วยความที่แกเป็นคนขี้หวง แกจึงใช้ปากกาเคมีเขียนตัวเลขไว้ที่มะม่วงของแกทุกลูก เวลาที่มีลูกไหนหายไปแกก็จะโวยวายด่าไปทั่ว จนไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งในสวนของแก ในตอนนั้นเคยมีลูกของชาวบ้านข้าง ๆ ปีนเข้าไปขโมยมะม่วงของแกที่อยู่ใกล้ ๆ กันกับบ้านของชาวบ้าน แกก็ไล่เอาก้อนหินป่าจนหัวแตกแถมยังด่าและสาปแช่งอีก จนชาวบ้านแถวนั้นก็ต่างรู้กันว่ายายพูนแกขี้เหนียวขนาดไหน จึงไม่มีใครไปสุงสิงหรือพูดคุยกับแกเลย
จนมาอยู่วันหนึ่งชาวบ้านสังเกตเห็นว่ายายพูนแกไม่ออกมารดน้ำต้นไม้ดูแลสวนของแกมาหลายวันแล้ว มีชาวบ้านนึกสงสัยแอบปีนรั้วเข้าไปดูเพราะเป็นห่วงว่าแกจะเป็นอะไร แต่ยังไม่ทันจะเดินขึ้นไปดูบนบ้านก็ต้องตกใจที่อยู่ ๆ ยายพูนก็มายืนอยู่ด้านหลังแล้วพูดขึ้นมาเสียงดังว่า “มึงเข้ามาทำไม ออกไปจากบ้านกู” เมื่อได้ยินดังนั้นจึงรีบปีนออกไปโดยเร็วเพราะกลัวว่ายายพูนจะเอาอะไรปาหัวแตกเอา ช่วงหลัง ๆ ชาวบ้านสังเกตุว่ายายพูดมีพฤติกรรมแปลก ๆ กลางวันแกไม่เคยเดินมาจากบ้านเลย ออกมารดน้ำดูแลสวนก็แค่ตอนกลางคืน ตอนกลางวันเวลาชาวบ้านผ่านบ้านแก มองเข้าไปที่หน้าต่างก็จะเห็นแค่เงาดำ ๆ แล้วก็แว๊บหายไป บ้านของยายพูนดูวังเวงหน้ากลัวขึ้นทุกวัน ยามกลางคืนก็มักจะมีคนเห็นแกออกมานั่งตรงแคร่ใต้ถุนบ้านแต่พอหันไปอีกทีแกก็หายไปตลอดจนชาวบ้านเริ่มกลัวกันไปตาม ๆ กัน
Advertisement
Advertisement
มีอยู่คืนหนึ่งเป็นคืนเดือนมืด มีพวกโจรต่างถิ่นปีนเข้าบ้านแกเพราะเห็นว่าเป็นหญิงแก่ ๆ อยู่เพียงคนเดียวจึงไม่น่าจะมีทางต่อสู้ได้ โจรนั่นมาเพียงคนเดียวมันค่อย ๆ ย่องแล้วปีนเข้าไปทางหน้าต่าง พอมันเข้าไปในบ้านได้ มันก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปหมดจนแทบจะอ้วกออกมา มันกลั้นใจแล้วค่อย ๆ เดินไปที่ตู้เก็บกวาดข้าวของมีค่าใส่ลงในกระเป๋าสะพายที่เตรียมมา แล้วอยู่ๆมันก็หยุดนิ่งเพราะได้ยินเสียงเหมือนคนเดินมาข้างหลังพอหันไปมองก็ไม่มีใคร มันจึงรีบหยิบทุกอย่างที่หยิบได้แล้วรีบไปที่ตู้อีกใบแต่สะดุดอะไรบ้างอย่างแล้วล้มลงซะก่อน มือของมันก็ไปสัมผัสกับน้ำอะไรไม่รู้เหนียว ๆ พอเอาขึ้นมาดมก็ถึงกับอ้วกแตกเพราะมันเหม็นเน่ามาก มันรีบควานหาไฟฉายมาส่องดูว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร มันพยายามเปิดไฟฉายด้วยมือที่สั่นไปหมด
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay
พอไฟฉายติดจึงส่องไปฉายไปที่เพื่อนก็เห็นร่างของยายพูดนอนกองอยู่หน้าตู้ในสภาพเป็นศพเน่า ตัวอืดบวมเขียวช้ำจนเป็นสีม่วง มีน้ำเลือดน้ำหนองไหลเต็มหน้าเต็มตัว ลูกตาถลนออกมา ทันใดนั้นศพของยายพูก็ลุกขึ้นมาทำปากสะแหยะยิ้มดูน่ากลัว ในตอนนั้นโจรกลัวมาก เหงื่อแตกทั้งตัว ตัวสั่นไปหมด แผดร้องออกมาไม่เป็นภาษา แล้วร่างของยายพูนก็ค่อย ๆ คลานเลื่อนลงมาและทับอยู่บนตัวของโจร เสียงของยายพูนดังแกล้งขึ้นมาว่า “เอาของกูคืนมา” โจรกลัวสุดขีดฉี่แตกร้องจนสุดเสียงแล้วก็สลบไป
ในตอนเช้าชาวบ้านก็พากันมาดูที่บ้านยายพูน เพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวนขอให้ช่วยดังออกมาจากบ้าน เมื่อชาวบ้านเข้าไปในบ้านก็พบว่าศพของยายพูนที่มีสภาพเน่าแล้วทับอยู่บนตัวของโจร ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวกับภาพที่เห็นมาก เมื่อตำรวจมาสอบสวนโจรก็เล่าเหตุการณ์ฟังด้วยท่าทางที่หวาดกลัวตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับยายพูน แต่ก็ไม่เคยมีใครกล้าเข้าไปในบ้านหลังนั้นอีกเลย เพราะในทุก ๆ คืนจะมีคนเห็นยายพูนออกมานั่งอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้านจนไม่ใครกล้าเดินผ่านแกตอนกลางคืนอีกเลย
ความคิดเห็น
