อื่นๆ
ผีสาวข้างกำแพง

มีอยู่ช่วงที่ฉันย้ายที่ทำงานใหม่ ๆ ตอนนั้นฉันยังหาพักใหม่ที่ใกล้ที่ทำงานไม่ได้จึงต้องไปพักที่บ้านย่าไปก่อน ระยะทางจากที่ทำงานถึงบ้านย่าก็น่าจะประมาณ 10 กิโลเมตรได้
ที่ทำงานใหม่ของฉันอยู่ในเขตชานเมืองเป็นช่วงรอยต่อของจังหวัดนครปฐม กรุงเทพ นนทบุรี จึงมีแต่สวนไร่นาเต็มไปหมด เวลาไปทำงานฉันจะชอบขี่มอเตอร์ไซต์ผ่านไปทางถนนทางลัดหลังสวนเพราะบรรยากาศดีมากอากาศสดชื่น และที่สำคัญคือรถไม่ค่อยมี เพราะถ้าออกถนนใหญ่รถจะเยอะมาก โดยเฉพาะรถสิบล้อ ฉันขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่ค่อยเก่งจึงเลือกใช้ทางนี้เป็นทางประจำ
ฉันเข้างาน 9 โมงเช้า ประมาณ 8 โมงก็จะขี่รถออกมาเรื่อย ๆ ถึงที่ทำงานก็ 9 โมงพอดีจึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ขากลับนี้สิฉันเลิกงาน 3 ทุ่ม กว่าจะออกจากที่ทำงานก็ 3 ทุ่มครึ่งแล้ว
ระหว่างทางที่ต้องขี่ผ่านไปก็จะต้องลัดข้างกำแพงวัดและโผล่ที่ข้างหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่กำแพงของหมู่บ้านน่าจะยาวประมาณกิโลหนึ่งได้ ข้างทางก็จะเป็นสวนกล้วยไม้ ป่ากล้วย และสวนผักของชาวบ้าน บรรยากาศดูน่ากลัว พอผ่านพ้นจากกำแพงได้ฉันก็ตัดผ่านทุ่งนาซึ่งนาน ๆ ทีจะมีบ้านคน ไฟทางบนถนนก็ไม่มี ยิ่งรถที่สวนไปมานั้นไม่ต้องถามถึง ชาวบ้านแถวนั้นต่างเป็นชาวสวนชาวจึงนอนกันเร็ว จะมีดงไผ่ขนาดใหญ่มากที่ฉันต้องผ่านมันน่ากลัวมากเพราะใต้ดงไผ่มีศาลที่คนเอาน้ำแดงมาไหว้ตั้งอยู่ผ่านตรงนี้ทีไรขนลุกทุกที ฉันต้องทนกับความรู้สึกกลัวแบบนี้ทุกๆวันแต่ก็ยังไม่ชินสักที
Advertisement
Advertisement
มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันต้องทำงานล่วงเวลา กว่าจะได้กลับก็เกือบห้าทุ่ม ช่วงนั้นเป็นช่วงหน้าหนาวอากาศก็เริ่มเย็น ๆ ยิ่งเป็นแถวชานเมืองก็จะมีแต่ต้นไม้ทำให้อากาศเย็นมากกว่าปกติ ฉันก็ขับกลับมาตามเส้นทางเดิมที่มาประจำแต่แตกต่างตรงที่วันนี้ไฟข้างรั้วกำแพงหมู่บ้านดันดับตลอดเส้นเห็นเพียงแสงไฟของบ้านคนที่อยู่ไกล ๆ ออกไป ฉันขี่ไปเรื่อย ๆ เพราะอากาศค่อนข้างเย็นมันหนาวไปหมดทั้งตัว ระหว่างที่ขี่ไปนั้นข้างทางก็ดูน่ากลัวมาก ดูวังเวงอย่างกับในหนังผี ตอนนี้ฉันเริ่มเกิดความกลัวขึ้นมาจึงเริ่มมีความระแวงขึ้นมา มองไปที่กระจกหลังตลอด แล้วก็ต้องตกใจเมื่อหันกลับมามองข้างหน้า แล้วแสงไฟหน้ารถก็ส่องไปเห็นเป็นผู้หญิงยืนข้างกำแพง ฉันถึงขนลุกขึ้นมาทันที ฉันมองอย่างไม่คลาดสายตา ฉันมองเหลือบไปดูในกระจกว่ามีรถตามมาบ้างหรือเปล่า แต่กลับไม่มีเลยสักคัน พอเหลือบตากลับมาผู้หญิงคนนั้นก็หายไปแล้ว ฉันจึงรีบขี่ไปให้พ้นจากกำแพงไว ๆ พอฉันหันกลับมองก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อผู้หญิงคนนั้นอยู่กลางถนนฉันจึงรีบบิดแบบไม่คิดชีวิตเลย
Advertisement
Advertisement
ต่อมาฉันจึงเล่าให้เพื่อนที่งานฟัง จึงรู้ว่าตรงนั้นมีผู้หญิงเมาขับรถมาชนกำแพงแล้วคอหักตายคาที่ พอถามไปถามมาผู้หญิงคนที่ตายคือเพื่อนต่างโรงเรียนในสมัยม.ต้น ซึ่งเราไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เคยมีเรื่องกันเลยด้วยซ้ำ ฉันจึงไม่เคยกลับบ้านทางนั้นอีกเลย ยอมที่จะไปทางถนนใหญ่เอาถึงจะเสี่ยงกับรถเยอะหน่อยแต่ไม่โดนผีหลอกแน่นอน
ความคิดเห็น
