อื่นๆ
ไม่ลืมสัญญา

ในช่วงชีวิตต้องมีทั้งสุขและทุกข์กันทุกคนฉันเองก็เหมือนกัน ในตอนนั้นเป็นช่วงที่ฉันอกหัก...ชีวิตก็จะสุด ๆ หน่อยติดเพื่อน เที่ยว ใช้ชีวิตเต็มที่ ฉันทำงานเป็นบาริสต้าในช่วงกลางวัน กลางคืนก็จะอยู่แต่กับเพื่อน กินเที่ยวกันทุกคืน แต่ดีที่เข้างานบ่ายสามเลยไม่มีผลอะไร
ตอนนั้นฉันไม่เคยสนใจเรื่องความรักอีกเลย... คิดอยู่อย่างเดียวว่าทำอะไรก็ได้ที่มีความสุขก็พอ ใครเข้ามาจีบก็ไม่เคยสนใจ ในตอนนั้นฉันหมดศรัทธาในความรักมาก ใครทำอะไรก็ทำตามเขาไปหมด
จนวันหนึ่ง...ไปเจอแอปพลิเคชั่น แอปหนึ่งเข้าจึงลองเล่นดู จนไปเจอชายคนหนึ่งเขาไม่ใช่คนที่น่าสนใจอะไร ออกจะเงียบ ๆ ด้วยซ้ำ เห็นนั่งมองนิ่ง ๆ อยู่หลังเพื่อน ฉันนึกสนุกขึ้นมาจึงแกล้งขอไลน์เขา พอได้มาก็ไม่ได้คิดอะไรคุยไปเล่น ๆ จนเวลาผ่านไปหลายเดือนกลายเป็นสนิทกัน เขาก็ขอฉันเป็นแฟน แต่ในตอนนั้นฉันไม่ได้ตอบรับเพราะยังเข็ดในความรักอยู่ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเขาจะพิสูจน์ให้ฉันเองว่าความรักโดยที่ไม่หวังอะไรมันมีอยู่จริง
Advertisement
Advertisement
เราคบกันมาได้สักพักจนเวลาเกือบปี เขาก็ยังเหมือนเดิมเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยน เขาชวนฉันไปบ้านแต่ฉันไม่เคยไปเลย มีแต่เขาที่ต้องเป็นฝ่ายมาหาตลอด บ้านเขาอยู่ต่างจังหวัดส่วนฉันอยู่กรุงเทพ แต่เขาก็ยังอุตส่าห์มาหาโดยที่ไม่เคยบ่น เขาถามฉันเสมอว่ารักเขาไหมแต่ฉันกลับไม่เคยบอก
จนครั้งล่าสุดที่เขามาหา เขาก็ถามคำถามเดิมอีกและยังคงชวนไปเที่ยวบ้านเขาฉันไม่ได้ตอบอะไรเช่นเคย จนก่อนที่เขาจะกลับฉันจึงบอกว่าคราวหน้าฉันจะเป็นคนไปหาเขาเอง จะไปตอบคำถามที่เขาถามมาโดยตลอดฉันสัญญา เขาก็ย้ำอยู่แบบนั้นว่าสัญญาแล้วนะ แววตาของเขามีความสุขมาก ฉันมองเขาขึ้นรถไปมองตามจนสุดสายตา
ช่วงหลัง ๆ เรางอนกันค่อนข้างบ่อย บางทีก็หายไปเป็นอาทิตย์แต่ด้วยความที่ต่างคนต่างห่วงกันก็กลับมาดีกัน ในตอนนั้นเขาบอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ ฉัน จะไม่ทิ้งไปไหนเวลาที่ฉันทุกข์ใจให้คิดถึงเขา เขาบอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็รักฉันเสมอ ในวันนั้นฉันไปเที่ยวต่างจังหวัด ก่อนไปก็โทรหาเขาเขาบอกว่าไม่อยากให้ไปเลยมาหาเขาแทนไม่ได้หรอ เขาอยากเจอฉันจริงๆ แต่ฉันกลับปฎิเสธไป เขาก็ทักมาคุยตลอดทาง จนโทรศัพท์ของฉันแบตหมด
Advertisement
Advertisement
คืนนั้นฉันเพลียมากจึงเผลอหลับไป...แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนหัวไปกระแทกอะไรอย่างแรงจนสะดุ้งตื่น ตอนนั้นฉันปวดคอมากแต่มองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีอะไรที่จะมากระแทกหัวฉันได้เลย จึงพยายามหลับต่อพอตื่นมาก็เห็นเขานั่งอยู่ตรงหน้า แต่พอขยี้ตาแล้วเขาก็หายไป ฉันจึงคิดว่าคงตาฝาดไปเอง พอกลับมาจากเที่ยวก็พบว่าเขาโทรหาฉันเยอะมากตอนประมาณตีสอง เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ฉันสะดุ้งตื่น ปกติแล้วเวลาที่เขาไปไหนมาไหนหรือไปดื่มกับเพื่อนเขาก็จะวีดีโอคอลหาฉันตลอดเวลา พอโทรกลับไปก็ไม่รับสาย จึงเปิดเฟสบุ๊กดู ฉันตกใจมากมีแต่เพื่อนมาแสดงความเสียใจ เขารถคว่ำคอหักตายตอนตีสอง ฉันพูดไม่ออกน้ำตามันไหลพลั่งพลูออกมา วันแรกที่เขารถน้ำศพฉันไม่ได้ไปเพราะยังช็อคอยู่
คืนนั้นฉันร้องไห้จนหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีกลางดึกได้กลิ่นธูปตลบอบอวนไปทั้งห้องทั้ง ๆ ที่ปิดมิดชิด ฉันมองไปทางประตูหลังห้องซึ่งเป็นกระจกเห็นเป็นเงาของผู้ชายสูง ๆ ยืนที่ระเบียงห้อง ฉันตกใจมากร้องไห้ออกมาไม่หยุดทั้งเสียใจ ทั้งตกใจ เขาเสียก่อนจะถึงวันเกิดของเขาเพียงวันเดียว ในงานศพหลังจากพระสวดเสร็จเพื่อน ๆ ต่างเอาเค้กวันเกิดมาวางไว้ให้เขาที่หน้าโล่ง เพื่อน ๆ ของเขาต่างโทรมาหาฉันบอกให้ไปส่งเขาครั้งสุดท้ายเพราะเขาไปเข้าฝันเพื่อน ๆ ทุกคนว่าให้มารับฉันหน่อย บางคนก็เจอแบบที่ฉันเจอ
Advertisement
Advertisement
ในวันเผาฉันไปทำตามคำสัญญาที่ได้บอกไว้กับเขา ตอนก่อนจะเผาทางสัปเหร่อก็เปิดโล่งออกมาให้ทุกคนได้ลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย ฉันทรมานมากร้องไห้จนแทบขาดใจ ฉันได้จับมือของเขาเป็นครั้งสุดท้ายและบอกรักเขา ฉันไม่คิดว่าจะต้องมาบอกรักเขาในวันที่เขาไม่อยู่แล้วเขารอคำ ๆ นี้มาเกือบปี ไม่คิดว่าจะได้มาทำตามคำสัญญาที่จะมาหาเขาในตอนที่เขาไม่มีลมหายใจแล้ว
ฉันไม่รู้เลยว่าคำพูดในวันนั้นมันเป็นลางไม่ดี ตอนที่กำลังเผามีฉันอยู่คนเดียวที่ยืนอยู่หน้าเตาเผาฉันร้องไห้อย่างเจ็บปวดเหมือนจะขาดใจ แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีใครมาลูบหัว ฉันหันไปมองก็ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย ตอนมืดในวันนั้นฉันก็นั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพเลย พอขึ้นรถไปได้สักพักฉันก็ได้กลิ่นน้ำอบที่ใช้พรมร่างของเขาตอนเปิดโลงตลบอบอวนไปหมด มันน่าแปลกใจมากรถทัวร์ที่ฉันนั่งมามันแน่นมากคนเยอะจนต้องยืนเบียดกัน แต่ที่นั่งข้าง ๆ ฉันกลับไม่มีใครมานั่งทั้ง ๆ ที่ยังว่างอยู่ ฉันแปลกใจกลับสิ่งที่เกิดขึ้นเขาคงเป็นห่วงจึงตามมาด้วย ฉันนั่งร้องไห้มาตลอดทางจนถึงกรุงเทพ
ความคิดเห็น
