ปีนี้แม่ของผู้เขียนอายุครบ85ปี พอดิบพอดี เนื่องจากบ้านพักของพวกเราไม่ได้ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก ก็มักจะได้ยินเสียงรถไฟอยู่บ่อยครั้ง ผู้เขียนเลยมีความคิดชวนแม่นั่งรถไฟไปทำบุญฉลองวันเกิดแม่ที่จังหวัดนครปฐมกัน ที่เลือกนครปฐมเพราะผู้เขียนไปที่นั่นมา 3 ครั้งแล้ว และการเดินทางสะดวกมากๆ เพราะจากสถานีรถไฟนครปฐม ก็จะมองเห็นพระปฐมเจดีย์อยู่ไม่ไกล เห็นยอดเจดีย์อยู่ลิบๆ นี่จึงเป็นที่มาของ Trip นี้ การเดินทางของเราอย่างที่บอกว่าเลือกรถไฟ เพราะสถานที่ที่เราจะไปอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเช่นกันนั่นก็คือ "พระปฐมเจดีย์" นั่นเอง โดยแผนการเดินทางของเรานั่นไปคล้ายๆ ไปเช้าเย็นกลับแต่เนื่องจากว่าเราจะออกเดินทางจากบ้านพัก นั่นก็คือ "สถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี" หรือพวกเราเรียกกันว่า "ท่าข้าม" ซึ่งจริงๆก็คืออำเภอพุนพินนั่นเอง จุดหมายปลายทางคือ "สถานีรถไฟนครปฐม" จังหวัดนครปฐมนั่นเอง ลงรถไฟปุ๊บ ก็สามารถเดินชิวชิวตรงไปยังพระปฐมเจดีย์ได้เลย เพราะเหตุว่าคุณแม่อายุ 85 ปีแล้ว เดินไม่แข็งเท่าไรนัก แต่เดินได้ คิดว่าประมาณ 800 เมตร เดินชมตลาดไป เหนื่อยก็พักชมร้านค้าสองข้างทางก็สบายหายห่วง สรุปว่าเนื่องจากผู้เขียนประมาท เห็นว่าบ้านอยู่ใกล้สถานีรถไป เลยจองตั๋วก่อนออกเดินทาง 3 วันทำให้ขบวนที่อยากให้แม่นั่งซึ่งก็คือ รถด่วนพิเศษ CNR (ขบวนที่ 32 )หรือที่รู้จักกันในนามรถไฟ สายใต้ "ทักษิณารัถย์" เต็ม เมื่อไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องจองขบวนที่เหลือนั่นก็คือ รถด่วน (ขบวนที่ 84) เป็นรถนอนปรับอากาศ ชั้น 1. ราคาเตียงล่าง1,291บาท เตียงล่างนี้ให้แม่นะคะ สำหรับเตียงบน ราคา 1,091บาท แน่นอนว่าผู้เขียนต้องนอนข้างบน เพราะแม่ปีนไม่ไหว ฉะนั้นก็ขอเตือนว่าใครมีแผนการเที่ยวโดยรถไฟจองไว้ล่วงหน้าได้นานถึง 15 วันก่อนเดินทางนะคะแถมยังเลือกเตียงเลือกตู้ได้เองอีกด้วย รถไฟที่พวกเราไปก็คือ สุราษฏร์-นครปฐม เวลารถออก 20.14น. แน่นอนว่า เมื่อรถมาจริงๆ นั่นปรากฎว่าไม่ได้ช้ามากแค่ delay เป็น 20.40 น. โดยประมาณ ถึงนครปฐมก็ 08.50 น. โดยภาพรวมแม่ก็ Happy ดี และเป็นครั้งแรกที่แม่เดินทางโดยรถไฟโดยตู้นอน ในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เช่นที่นอนสะอาด หมอน ผ้าห่ม เครื่องปรับอากาศ โต๊ะวางของ ปลั๊กไฟ อ่างล่างหน้า สบู่ก้อนเล็ก น้ำดื่ม 2ขวด ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม กลางดึกค่อนข้างหนาว ผู้เขียนขอแนะนำให้เตรียมถุงเท้าและเสื้อแจ็คเก็ตหรือเสื้อแขนยาวไปด้วยก็ดีค่ะ แต่ต้องบอกตามตรงว่านอนไม่ค่อยหลับ เพราะเสียงรถไฟจะดังตลอด อาจจะเป็นเพราะแปลกที่ก็ได้ค่ะ มาดูกันว่าในห้องนอนชั้น 1 มีอะไรให้บ้างนะคะ พวกเรามาถึงนครปฐมกันตอน08.50น.โดยประมาณ อากาศที่นี่วันนี้ดีมากไม่มีฝนตก พอเดินออกมาจากสถานีรถไฟก็ชี้ให้แม่ดูพระปฐมเจดีย์ที่อยู่ตรงหน้า แม่บอกว่าไม่ไกลเลย เพื่อความแน่ใจก็ลองถามแม่อีกครั้งว่า จะไปรถรับจ้างหรือไม่ แม่บอกว่าโอ๊ยแค่นี่้ไม่ต้อง สรุปว่าเราสองคนก็เดินไปเป้าหมายคือพระปฐมเจดีย์ โดยผ่านตลาดช่วงแรกไป ดูแม่ตืนเต้นกับอาหารของกิน สองข้างทาง จนผู้เขียนต้องเตือนว่าเราควรมาซื้อตอนขากลับจะได้ไม่ต้องหิ้วหนักนะ ข้าพเจ้ามีความสุขมากที่เห็นสองข้างทางแม้ว่าผู้คนจะไม่รู้จักกันแต่พวกเขาก็ทักทาย "คุณยายอายุเท่าไรแล้วค่ะ" ทักอย่างนี้กันตลอดทาง แม่ก็ตอบยิ้มๆ มีแต่คนอวยพรให้แข็งแรงมาเที่ยวบ่อยๆ ผ่านไปหนึ่งสี่แยกต่อไปก็ถึงแยกที่สองต้องเดินข้ามสะพานไปอีกครั้ง ก่อนที่จะถึงบริเวรพระปฐมเจดีย์ ซึ่งแม่ตั้งใจว่าจะปล่อยนกที่นี่ ก่อนขึ้นไปกราบขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ด้านบน หลังจากปล่อยนกที่หัวสะพานทางขึ้นมาที่พระปฐมเจดีย์เสร็จแล้ว ก็เดินต่อไปขึ้นบรรไดหินอ่อนไปจนถึงด้านบน ตรงนี้แม่ต้องนั่งพักก่อนเพราะขึ้นบรรไดมาหลายขั้นเล่นเอาหอบเลยงานนี้ หลังจากอาการดีขึ้นก็ขึ้นไปยังจุดบูชาดอกไม้ ธุูปเทียน ไหว้พระปฐมเจดีย์ พระร่วงโรจนฤทธิ์ เสร็จแล้วมาผูกดวงไว้ใต้ฐานพระ เราเดินแบบสบายๆ ไม่รีบ จากนั้นก็ไปทำบุญเครื่องช่วยฟัง ทำบุญลอยเทียน เติมตะเกียงน้ำมัน เดินไปชมพระปฐมเจดีย์ด้านใน เดินออกมาก็มีทำบุญระฆัง เดินชมบริเวณโดยรอบ มีทั้งพิพิธภันฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (แต่อันนี้ผู้เขียนไม่ได้เข้าเพราะเวลาไม่พอ) พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอยู่ในวิหารหลวงทางทิศตะวันออก พระพุทธรูปเก่าแก่อายุ กว่าหนึ่งพันปี (ถ้าจำไม่ผิดชื่อหลวงพ่อพระประธาน) และก็มีอีกมากมาย บอกได้เลยว่าถ้าขึ้นมาแล้วก็ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ไม่แน่ว่าจะเที่ยวครบ ยิ่งผู้เขียนมากับแม่ผู้สูงวัย ก็ต้องทำทุกอย่างช้าลงสรุปว่าเราอยู่ทำบุญเดินชมด้านบนนี้ประมาณเกือบ 5 ชั่วโมง ผู้เขียนต้องลงไปซื้อข้าวมานั่งกินกันด้านบนกันเลยทีเดียว ก่อนจะกลับแม่ก็ยังแวะทำบุญกระเบื้องและข้าวสารอีกก่อนจะเดินออกบริเวณพระปฐมเจดีย์ไป ในวันนี้ เป็นการทำบุญวันเกิดนอก่จังหวัดสุราษฏร์ธานีครั้งแรกของแม่ ทำเอาอิ่มบุญไปตามกัน ขากลับไม่ลืมแวะซื้อกุนเชียงของฝากขนมต่างๆ หิ้วกันพะรุงพะรัง เดินกลับไปที่สถานีรถไฟเพื่อเดินทางกลับ โดยขากลับได้ขบวนรถด่วนพิเศษ CNR (ขบวนที่ 31 ) สมใจหวัง แม้ว่าจะจองได้ ชั้น 2 ก็ตาม พวกเราได้เตียงล่างทั้งคู่ เตียงอยู่ตรงกันข้ามกัน ราคา 986. บาท แต่สรุปว่าแม่ให้คะแนนรถไฟด่วนพิเศษ CNR ชนะเลิศ โดยเฉพาะห้องน้ำเพราะเป็นแบบชักโครก ซึ่งผู้สูงวัยใช้สะดวกกว่า สามารถสั่งอาหาร และเครื่องดื่มได้ พวกเรากลับบ้านถึงสุราษฏร์ธานีโดยปลอดภัยและรอ trip ต่อไปจะพาแม่ไปไหนกันอีกนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่เคยเที่ยวโดยรถไฟก็ขอแนะนำนะคะ สะดวก ปลอดภัย ราคาก็เลือกได้เลยค่ะตามสะดวก จะได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวอีกแบบหนึ่งนะคะ ภาพทั้งหมด โดย ผู้เขียนห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป