ในห้วงยามของความหวาดหวั่น และความพยายามป้องกันไวรัส โควิด-19 ทุกคนทุกอาชีพทุกสถานะภาพต่างก็ใส่และพยายามแสวงหาเครื่องคุ้มภัยทางสุขภาพมาเพื่อเป็นการไม่ประมาท สถานการณ์ความรุนแรงจากหนึ่งไปสอง สองไปสาม จากคนชั้นกลางสู่คนชั้นระดับรากหญ้า แพร่กระจายไปอย่างหลากหลาย ในต่างประเทศอย่างเมืองผู้ดีอังกฤษไม่เว้นแม่แต่เจ้าชายชาล์ว ก็ทรงได้รับเชื้อตามในข่าวที่ทราบเหมือนกัน สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เป็นหน่วยงานภายใต้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ห่วงใยในสุขภาพของพระสงฆ์ที่พำนักอยู่ในจังหวัด โดยผู้เขียนมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการดี ๆ ที่เหล่าจิตอาสามาร่วมกันเย็บปักถักร้อยหัวใจลงไปจนเป็น "หน้ากากผ้าป้องกันภัยตนเองร่วมกับจิตอาสาท่านอื่น เตรียมมอบถวายให้กับพระสงฆ์ทั่วทั้งจังหวัดนครปฐม" วัดสุวรรณาราม เป็นอีกจุดหนึ่งของการรวมตัวกัน โดยมีเจ้าภาพหลักที่ขับเคลื่อนโครงการอาสาดี ๆ เช่นนี้ คือ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ท่านบุญเชิด กิตติธรางกูร ร่วมกับผู้นำชุมชน ในเขตอำเภอพุทธมณฑล ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร ยกจักรเย็บผ้ามาจากบ้านลงแขกตัดผ้า เย็บด้วยช่วยกันจนออกมาเป็นหน้ากากสีโทนผ้าเหลือง และเหมาะกับสมณะเพศได้สวมใส่เพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่น ท่านบุญเชิดกล่าวกับผู้เขียนว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เป็นสื่อกลางที่จะสื่อสารและส่งต่อความปรารถนาดีจากพุทธศาสนิกชนไปสู่พระสงฆ์ ซึ่งในยามวิกฤติเช่นนี้ เราพบจุดแข็งของความสามัคคีที่มีอยู่ในชุมชน ทั้งบ้าน วัด และชุมชน มีความเอื้อเฟื้อและตกอยู่ในสภาวะของความกลัวต่อโรคระบาด แต่ทั้งนี้ พระสงฆ์ที่ถือว่าเป็นบุคคลที่น่าเคารพบูชา ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับพวกเรา เมื่อเกิดกิจกรรมจิตอาสาเช่นนี้จึงทำให้หลายคน รวมตัวกันมาช่วยกันในการทำหน้ากากเพื่อถวายแด่พระสงฆ์ ซึ่งกิจกรรมนี้จะดำเนินการในทุกอำเภอของจังหวัดนครปฐม เป็นที่ทราบกันดีว่า ไวรัส หรือ โรคระบาดที่สามารถติดต่อจากคนสู่คน หรือจากสาเหตุอื่น ย่อมนำมาซึ่งความเจ็บป่วย ทั้งนี้ พระสงฆ์ซึ่งเป็นบุคคลที่กุมขวัญและกำลังใจในยามภัยมาแม้ในยามสงครามอย่างในอดีต หากได้รับผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าวก็คงจะส่งผลต่อความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนไม่น้อย กิจกรรมภายใต้โครงการทำหน้ากากถวายพระสงฆ์เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติ ของความใส่ใจต่อสถาบันหลักของพวกเราชาวพุทธที่ไม่ละเลยต่อศูนย์รวมจิตใจที่พวกเรายึดไว้แม้ในห้วงวันเวลาที่ไม่มีภัย ผู้เขียนมีความเชื่อว่า วิกฤติแห่งโรคร้าย จะสลายไปได้ด้วยการรวมพลังของการไม่อยู่ใกล้กัน Social Distancing ยังไม่พอ แต่เมื่อมีการรวมตัวกันแบบอาสา เพื่อป้องกันพระศาสนาของกลุ่มคนบางกลุ่ม ย่อมนำมาซึ่งความประทับใจ และส่งข่าวขยายผลเป็นต้นแบบที่ดี ๆ เล่าสู่กันฟัง ว่าครั้งหนึ่ง พวกเราชาวพุทธ หยุดอยู่บ้าน เพื่อมาลานวัดแล้ว จัดแจงสำรับสังฆทานเป็นหน้ากากคุณธรรมถวายให้กับพระสงฆ์เพื่อสุขภาวะที่ดี อานิสงส์อาจจะไม่ได้เกิดขึ้น ณ ทันที แต่เกิดขึ้นแน่นอนว่า จิตอาสาทุกคนเป็นสุขใจ ใน ขณะที่ลงมือตัดเย็บหน้ากากเพื่อบูชาและคาราวะแด่พระรัตนตรัย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านพ้นภัยนะครับ ภาพถ่ายทุกภาพโดย ผู้เขียน ขอบคุณ ท่าน ผอ. บุญเชิด กิตติธรางกูร ท่านกำนันอาภรณ์ ต.มหาสวัสดิ์ และจิตอาสาทุกท่านครับ