สวัสดีครับ ท่านทั้งหลายที่เข้ามาโฉบผ่าน อ่านเรื่องราวที่เขียนและบันทึกไว้ ห่างหายกันไปนานพอสมควรครับสำหรับการมานั่งบันทึกเรื่องราวการทำงานรอบตัวเพื่อสื่อสารกับสังคม ช่วงนี้ผมกำลังออกแบบแนวทางการทำงานด้านความรู้และสื่อสารกิจกรรมหลักคิด เพื่อสร้างองค์กรสร้างความสุข ให้กับเครือข่ายเพื่อนพ้องที่มีดีเอ็นเอตรงกัน วันนี้คงจะเป็นปฐมฤกษ์ในระยะหลายเดือนที่จะมาเล่าสู่กันฟังว่า สภาพการณ์ทั้งเศรษฐกิจที่เป็นเช่นนี้ บริษัทหลายแห่งต่างก็ปิดตัวกันไป แล้วทำไมเราจึงต้องมาคุยเรื่องความสุขบนความทุกข์กันอยู่ มาชวนกันมองอีกมุมโดยเฉพาะความสุขกันไหม เผื่อว่าอย่างน้อย ๆ ก็จะพลอยใจฟูแบบว่า คิดบวก บวก บวก เข้าไว้ ความสุขนั้น มีความสำคัญที่จะทำให้องค์กรอยู่รอดเลยนะครับ ลองเพ่งไปที่ภาพด้านล่างนี้กันเถอะเอ ....ความสุขอยู่ที่ไหนหนอ เจอไหมเจอไหม คงไม่ถึงขั้นต้องหาให้เจอแบบจับมาเค้นดูรูปร่างของมันนะ เพราะความสุขของคนนั้นต้องยอมรับแบบประชาธิปไตยเลยว่า มันไม่เหมือนกัน ในระดับบุคคลงั้นชวนกลับมาคุยกันในบริบทขององค์กร หรือว่า บริษัท หน่วยงานกันดูนะบรรดางานที่พี่น้อง HR หรือเจ้าหน้าที่พนักงานบุคคล หรือจะเรียกว่านักทรัพยากรบุคคลก็ได้ ก่อนอื่นเลยควรเข้าใจและสามารถที่จะออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับงานที่ได้รับมอบหมายอื่น ๆ เช่น การเฝ้าสังเกตว่า งานนั้นที่ทำและได้รับผิดชอบ มีความสุขหรือไม่ที่เพื่อนร่วมงานจะสะท้อนออกมา แน่นอนว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรมก็ใช่แหละแต่การข่มเวทนากับหัวหน้างานที่ไม่เอ็นดูใช้แต่พระเดช ไม่ใช้พระคุณบางครั้งก็นำไปสู่การไม่เข้าใจกันด้วย ค่อย ๆ สังเกตุกันดูนะ แบบไม่เป็นทางการก็ได้ สังเกตแบบเงียบ ๆ นะไม่ใช่ให้ซุบซิบนินทา การสังเกตเงียบ ๆ ด้วยใจที่คิดบวก มันจะสั่งสมพลังการฟัง ซึ่งเป็นทักษะระดับโค้ชค่าตัวแพงจะต้องไปเรียนเลยล่ะวิธีการจัดลำดับความสำคัญหลังจากสังเกตความสุขรอบ ๆ ตัว อย่างย่อ ๆ ง่าย ๆ ควรเริ่มต้นอย่างไร ให้เฝ้าถามก่อนครับว่า ความสุขของแต่ละคนตอนนี้ล่องลอยอยู่หนใด ยังมาทำงานในสภาพร่างไร้วิญญาณก็อาจจะต้องนำสติกลับมาก่อน มานั่งคุยกัน ระดมสมองกัน หรือ กินข้าวร่วมกัน แล้วแต่เลยครับ หาวิธี หาวิธี หาวิธี นั่นเอง (ทำให้ออกมาในรูปกิจกรรมนะ) เพราะกิจกรรมจะทำให้คนเข้าใจกัน แต่อย่าบอกนะว่า เสียเวลางาน ถ้างั้นก็หาเวลาที่ผ่อนคลายที่ทุกคนคิดว่าเป็นจังหวะประจวบเหมาะละกันการหาวิธีเพื่อนำความสุข และแนวทางการสร้างความสุขมากองร่วมกัน มันคงไม่ใช่การไปนั่งกินเหล้ากินลาบร่วมกันใช่ไหมครับ คิดถึงหัวอกของเจ้าของบริษัทหรือผู้บริหารบ้าง การหาวิธีที่ดีที่สุดน่าจะมีเป้าหมายไปสู่การหากรรมวิธี หรือกลไกสร้างสุขนั่นเอง ในที่นี้ ข้าพเจ้าเองแนะนำคำว่า ระดมสมองมันไปเลย เพราะสมองก็ถือว่าเป็นต่อมแรกนั่นล่ะที่จะบอกความต้องการส่วนตนได้ว่า แท้จริงแล้วจะมีความสุขได้อย่างไร (ร่วมกัน)ออกแบบวางแผนแล้วลุยเลยก็คงกระไรอยู่ ชวนเพื่อน HR กลับมามองเป้าหมายว่า ความสุขที่กำลังทำนั้น หวังเป้าอะไรในความเป็นไปได้ เช่น หวังว่าคนจะรักกันมากขึ้น หวังว่า คนจะทำงานดีขึ้น หวังว่า คนจะไม่หนีลาออก ซึ่งแนวทางการพัฒนาองค์กรนั้น ต้องให้ความสำคัญหลักคิดด้านการประเมินผลพอสมควร ซึ่งตัวอย่างข้างบนนั้น เป็นตุ๊กตากว้าง ๆ เพื่อน ๆ นำมาทดลองอ่านสีหน้าคนก็ได้ว่า ใครที่มีความสุขแล้วทำงานออกมาดีหรือว่า มีความสุขแต่หวังอยู่ยาวกินแรงเพื่อนแบบนั้นก็มีเหมือนกัน แต่อ่ะ ๆ ระวังนะต้องใช้เป็นเครื่องมือเสริมพลังนะไม่ใช่่จับผิดกันเอาล่ะทีนี้ขั้นตอนสุดท้ายอะไรก็ตามที่มันจับต้องไม่ได้โต้ง ๆ ก็อย่าไปทุกข์ร้อนกับมันมาก เรื่องความสุขคือเรื่องที่จะต้องทำมันตลอดชีวิต สมการด้านบนนั้น มันมีความเป็นไปได้อยู่ตรงกลาง ๆ ว่า หากจะทำงานกับคนที่มีความหลากหลาย และถูกตีตรา จำแนก ชิ้นส่วนแล้ว สุดท้าย ศักยภาพของคนเรา เชื่อเหลือเกินว่า ไม่มีใครทำงานออกมาดีในสภาพที่จมทุกข์อยู่ ทั้งจมกับตัวเอง จมกับเพื่อนร่วมงานที่ความสัมพันธ์ติดลบ สิ่งเหล่านี้ล่ะ ที่ HR จะต้องปลุกไฟในตัวคุณมาทำเรื่องความสุขให้องค์กรของเราก้าวไปสู่องค์กรคุณภาพด้านกำลังคน ไม่ใช่สุขแบบเย้ว ๆ นะครั้งหน้าจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่แค่นี้ก่อนนะบ๊ายบาย......ลืมบอกไป ภาพทั้งหมดของผู้เขียน สร้างขึ้นมาบางส่วนหยิบมาจากพาวเวอร์พ้อยท์ของตัวเองที่ไปบรรยายตามที่ต่าง ๆคิดว่าคงเป็นประโยชน์ในการแบ่งปันกันสำหรับเรียนรู้ใครจะเอาไปใช้คิดว่าน่าจะเป็นบุญและส่งความสุขสามารถหยิบเอาไปได้เลยจ้าพบกันใหม่จ้าชาตรี ลุนดำ7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์