อื่นๆ
บางสิ่งที่หายไป..........

หลังจากทานข้าวกับเพื่อนประมาณ 5 ทุ่ม ฉันขับรถกลับบ้านที่ต่างอำเภอ ที่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 60 กิโล
ฉันขับมาได้ครึ่งทาง เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าน้ำมันจะหมด แต่ฉันขับรถเลยปั๊มน้ำมัน ที่มีเพียงปั๊มเดียวของที่นี่มาเกือบสิบกว่ากิโล จึงตัดสินใจขับรถย้อนกับไปเส้นทางเดิมอีกครั้ง ขับรถย้อนกลับมาได้สักพัก ฉันก็มองเห็นคนชายคนหนึ่งเดินเข็นรถมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างทาง โดยมีเด็กชายอายุประมาณ 7-8 ขวบ ใส่เสื้อกล้ามสีขาว
กางเกงนักเรียนสีกากีเดินตามอยู่ด้านหลัง ด้วยความที่เวลาที่ค่อนข้างดึกมากแล้ว และแถวนี้เป็นไม่ค่อยมีบ้านคน นานๆจะมีรถผ่านสักคัน และฉันก็ขับรถมาคนเดียว ด้วยความที่กลัวอันตรายที่จะเกิดกับตัวเอง ฉันขับรถผ่านพวกเขามา โดยที่ไม่ได้แวะช่วยเหลือ
ฉันขับรถไกลจากพวกเขาไปเรื่อยๆ ด้วยใจที่รู้สึกผิด "ฉันห่วงเด็กคนนั้น" พวกเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า??? บ้านเค้าอยู่ไกลแค่ไหน??? เด็กคนนั้นจะเดินไหวมั้ย??? ดึกขนาดนี้จะมีร้านซ่อมรถเปิดช่วยพวกเค้ามั้ย??? แต่สุดท้ายฉันก็ทนไม่ไหว ฉันตัดสินใจที่จะวนรถกลับไปช่วยพวกเค้า ขณะที่ฉันขับรถสวนทางกับพวกเขา ฉันเห็นมีรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่ง จอดขนาบข้างรถของเขาอยู่ ฉันดีใจที่พวกเค้าปลอดภัยดี และคิดว่ารถคันนั้นคงช่วยพวกเค้าแล้ว ด้วยความที่ถนนตรงนั้นเป็นทางโค้ง ฉันจึงต้องขับรถเลยไปสักนิดก่อน เพื่อกลับรถ แต่พอฉันขับกลับมา ฉันยังคงเห็นเค้าเข็นรถอยู่เหมือนเดิม ฉันจึงจอดรถแล้วเปิดกระจก ถามพวกเค้าว่าฉันพอจะช่วยอะไรพวกเค้าได้บ้าง แต่สิ่งที่ฉันเห็น กลับเป็นชายและหญิงวัยประมาณ 40 ปี และไม่มีเด็กชายที่ฉันเห็นก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ถามออกไป คิดเองเออเองว่ารถมอเตอร์ไซค์คันที่จอดช่วยเมื่อตะกี๊นั้น คงเป็นญาติเค้าและพาเด็กคนนั้นไปแล้ว ฉันช่วยชายหญิงคู่นั้นมาส่งที่ร้านซ่อมรถเรียบร้อย พี่เค้าก็ขอบคุณ ถามฉันว่าบ้านอยู่ที่ไหน และข้อมูลทั่วๆไป และฉันก็แยกตัวออกมา ด้วยคำถามที่คาในใจว่า "เด็กคนนั้นหายไปไหน??? ไปกับรถมอเตอร์ไซต์คันนั้นหรือเปล่า??? หรือไม่มีเด็กคนนั้นอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรกแล้ว??? "
Advertisement
Advertisement
หลายวันผ่านไป ชายหญิงคู่นั้นแวะมาเยี่ยมฉันที่บ้าน พวกเค้าซื้อของขวัญมาให้ เพื่อขอบคุณที่ฉันได้ช่วยเหลือพวกเขาในวันนั้น พี่ผู้หญิงพูดเตือนฉันว่า
คราวหลังถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่าจอดรถช่วยเหลือเด็ดขาด ฉันเป็นผู้หญิง ตรงนั้นไม่มีบ้านคน และดึกมากแล้วมันอันตราย ฉันพยักหน้ารับคำ
และก็ได้เผลอบอกถึงสาเหตุ ที่ทำให้ฉันตัดสินใจจอดรถช่วยพวกเขาออกไป "หนูเห็นเด็กค่ะ หนูถึงจอดช่วย เด็กผู้ชายตัวสูงเท่านี้....." ฉันพูดพลางทำมือแสดงถึงระดับความสูงของเด็กชายคนนั้นที่ฉันเห็นพี่ผู้หญิงหันหน้าไปตะโกนบอกพี่ผู้ชาย ที่กำลังเดินดูดอกไม้บริเวณหน้าบ้านของฉันอยู่ "ป๊าาา....น้องเขาเห็นลูก" ฉันยิ้มเพราะฉันได้คำตอบที่คาในใจฉันมาหลายวัน "ใช่มั้ยคะ....วันนั้นมีน้องผู้ชายมาด้วยใช่มั้ยคะ แล้ววันนั้นน้องไปกับมอเตอร์ไซค์คันที่จอดช่วยพี่ก่อนหน้าหนูหรอคะ ตอนหนูจอดช่วยถึงไม่เห็นน้องอยู่กับพี่ตรงนั้นเลย" พี่ผู้หญิงนั่งนิ่ง ตอบฉันด้วยน้ำเสียงที่เศร้า "น้องเสียแล้วค่ะ โดนรถชน เขาซ้อนท้ายจักรยานพี่สาว เค้าเสียแต่พี่สาวปลอดภัย" ฉันนั่งอึ้ง ขนลุกไปทั้งตัว ฉันคิดว่าวันนั้นน้องคงอยากมาช่วยพ่อกับแม่ คงไม่อยากให้พ่อกับแม่เหนื่อย เพราะถ้าพูดกันตรงๆ ถ้าฉันเห็นแค่เค้าสองคน ฉันอาจไม่จอดรถช่วย เพราะก็กลัวอันตรายที่จะเกิดกับตัวเอง
ด้วยความที่ทั้งชีวิตที่ผ่านมาในวัยเกือบจะ 30 ฉันไม่เคยเห็น หรือเจอกับเรื่องราวแบบนี้มาก่อน และก็เข้าใจว่า ฉันไม่เคยเห็น ก็แสดงว่าไม่มีจริง
แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไปทันที เพราะฉันได้เจอกับมันด้วยตัวเอง "สิ่งที่ไม่เคยเห็น ไม่ได้แปลว่าไม่มี" ตอนนี้ฉันคิดแบบนั้น
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณภาพจาก https://wall.alphacoders.com
ความคิดเห็น
