อาคาร “พาสาน” เป็นผลงานที่ชนะเลิศในโครงการประกวดแบบสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเป็นผลงานของกลุ่มสถาปนิกรุ่นใหม่ในชื่อ “Fars Studio” สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นนี้มีลักษณะที่โดดเด่น เป็นที่จดจำได้ง่าย และมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งผู้ออกแบบได้นำรูปแบบการรวมตัวของแม่น้ำจากสี่สายกลายเป็นสองสาย และจากสองสายกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา กับจุดสำคัญของแม่น้ำทั้งสองสายซึ่งมีสองสีมาประกอบเป็นสถาปัตยกรรมนี้ขึ้น ที่มาของชื่อ "พา- สาน" นั้น มีความหมายเชิงจุดประสงค์ที่ต้องการพาคนเข้าไปผสมผสานกับสถานที่และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ดังนั้นรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นจึงเป็นการเชื่อมประสาน และกำหนดมุมมองให้ผู้เข้าชมได้พบเห็นและสัมผัสกับสภาพแวดล้อมในจุดต่างๆ ที่สะท้อนถึงเรื่องราวของการเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดีที่สุด แนวคิดของสถาปนิกผู้ออกแบบจะเริ่มต้นจากผู้เข้าชมมายังสถานที่ด้วยเรือ ซึ่งจะเทียบท่าให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในส่วนแรกของอาคาร เพื่อปูพื้นความรู้ความเข้าใจถึงความเป็นไปของท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่องกับแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ว่าจะเป็นสภาพทางภูมิศาสตร์ ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ รวมถึงวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ จากนั้นผู้เข้าชมจะพบกับทางเดินที่ถูกแยกออกเป็นสองทางเหมือนกับแม่น้ำสองสาย ซึ่งเปิดโล่งให้เห็นแม่น้ำทั้ง 2 ข้างของอาคาร ก่อนจะบรรจบกันในปลายสุดของทางเดิน ตัวอาคาร “พาสาน” นั้น มีลักษณะที่สำคัญคือ เป็นสถาปัตยกรรมสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก เพราะความที่เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ในยามที่น้ำหลากมาจากภาคเหนือ ปริมาณน้ำจะขึ้นสูงจนเข้ามาท่วมพื้นที่บางส่วนของอาคารโดยเฉพาะส่วนลานโล่งนอกอาคาร มีเพียงส่วนโค้งของอาคารเท่านั้นที่พ้นน้ำ ผู้เข้าชมสามารถพายเรือลอดโค้งนี้ไปได้ ซึ่งเป็นวิธีลดข้อจำกัดเชิงภูมิประเทศของสถานที่แห่งนี้ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร “พาสาน” มี 4 ชนิดคือ คอนกรีตผสมสีขาว เป็นวัสดุหลัก ด้วยเหตุผลที่คอนกรีตสามารถใช้เป็นโครงสร้างได้ดี อีกทั้งยังมีอายุยาวนาน แม้อยู่กับพื้นที่น้ำท่วมถึงก็ยังมีความคงทน ส่วนโครงสร้างที่ไม่โดนน้ำจะใช้เหล็กเพื่อให้ดูโปร่งและบางเบา วัสดุกรุผิวอาคารสัญลักษณ์จะใช้ทองแดงในส่วนที่น้ำท่วมถึงและจะใช้ไม้ในส่วนที่พ้นน้ำ ซึ่งได้แนวคิดมาจากงานสถาปัตยกรรมไทย ที่เป็นวัดและบ้าน รูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดจะเน้นความโอ่โถง ประดับด้วยกระเบื้องแก้ว โลหะหรือทอง ในขณะที่รูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนนั้นจะใช้วัสดุจากธรรมชาติโดยเฉพาะไม้มาสร้าง อาคารสัญลักษณ์เจ้าพระยาหรือ “พาสาน” นี้เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือของหลายๆ ฝ่าย ทั้งเทศบาลนครนครสวรรค์ สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมรักษ์เจ้าพระยา และประชาชนจังหวัดนครสวรรค์ จึงทำให้เกิดสถาปัตยกรรมที่มีความพิเศษที่สะท้อนความผูกพันระหว่างคนกับแม่น้ำ ภาพแบบจำลองจาก Jaksin Noyraiphoom. 2009. Pasaan : New Landmark of Chaophraya. B-1 volume 3 (24) : 30-35. ภาพประกอบอื่นๆ โดยผู้เขียน