สิงโตทองฮากกา นครสวรรค์ บทความนี้ ผมจะมาเล่าประสบการณ์และจุดเด่นลักษณะเด่นเกี่ยวกับ ศิลปะการแสดงเชิดสิงโตฮากกา บางท่านอาจจะรู้จักกันในชื่อ (สิงโตจีนแคะ) ประวัติความเป็นมาของการแสดงเชิดสิงโตคณะนี้ เดิมเป็นศิลปะของชาวจีนแคะหรือเรียกอีกชื่อคือชาวฮากกา การเชิดสิงโตจีนฮากกา เป็นศิลปะจีนโบราณ สมัยนี้หาชมได้ยาก ในประเทศไทยตอนนี้ มีการสืบสานศิลปะนี้เหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น คือจังหวัด นครสวรรค์ ที่เดียวเท่านั้น.. และจะหาชมได้เพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น จะมีการแสดงใน งานตรุษจีนปากน้ำโพ เท่านั้นครับ ท่านในภาพนี้คือ ท่านอาจารย์โหล่ยี่จินผู้ก่อตั้งคณะสิงโตทองฮากกา และเป็นผู้นำศิลปะการเชิดสิงโตฮากกา มาถ่ายทอดในประเทศไทยคนแรก โดยส่วนตัว เวลากราบไหว้ ผมจะเรียกท่านว่าอาจารย์ปู่ ท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นที่เคารพนับถือเป็นอย่างสูงหากเวลามีการแสดงโชว์ การเชิดสิงโตจะมีการแสดงที่หวาดเสียว และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายสูงมาก และทุกคนก็จะมาขอพรอาจาร์ยปู่ ก่อนทำการแสดงทุกครั้ง และก็ผ่านพ้นไปด้วยดีทุกครั้งไปป้ายวิญญานของอาจารย์ปู่ นักแสดงทุกคนเมื่อเดินทางมาถึงที่สมาคมฮากกา ทุกคนต้องมาจุดธูป ไหว้อาจารย์ก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะมาซ้อม หรือก่อนออกทำการแสดง ทุกคนจะรู้หน้าที่ คือต้องจุดธูปบอกกล่าวและขอพรอาจารย์ปู่ทุกครั้ง วันแรกก่อนทำการเริ่มซ้อม หัวสิงโตทุกหัว ต้องนำลงมาชำระล้างฝุ่นผง ให้สะอาด หมดจด เมื่อสะอาดดีแล้วก็นำมาจัดวางเรียงแถวหน้ากระดาน รอพิธีการไหว้ครูที่โต๊ะครูอาจารย์ พิธีนี้คล้าย ๆ กับพิธีเปิดตาสิงโตของชาวกวางตุ้ง สิงโตกวางตุ้งเปิดตาตื่นนอน ของชาวฮากกาก็เช่นกันเปรียบเสมือนสิงโตกำลังเตรียมตื่นนอน เพื่อออกขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลลักษณะและจุดเด่นในการเชิด จะแตกต่างกับสิงโตทั่วไปที่ท่านเคยรับชมจนชินตาการก้าวเท้าของสิงโตฮากกา จะเดินเป็นสเตป วิธีการเดินจะผสมผสานกับวิชากังฟู การเดินทุกก้าวต้องดุดันดั่งพญาราชสีห์ เดินเหยียบพื้นหนักแน่นและเหยียบพื้นมั่นคงถ้าสนใจอยากดูการแสดงผมได้ลงวีดีโอการแสดงส่วนนึงไว้ในYoutube พิมพ์ว่า สิงโตทองฮากกาก็เจอครับ แต่ก็ดูไม่สนุกเท่ากับมารับชมและสัมผัสการแสดงของจริงนะครับ ถ้าท่านอยากสัมผัสความยิ่งใหญ่ของการแสดงสิงโตทองฮากกา มีโชว์งานเดียวเท่านั้น คืองาน ประเพณีตรุษจีนปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ขอบพระคุณที่สนใจ ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่าน ผมขอจบบทความไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ..สวัสดีครับ..ภาพโดย นักเขียนและภาพโดย https://m.facebook.com/HakkaNakhonsawan/?tsid=0.5738917330603559&source=result