อื่นๆ

ปลุกผี

ปลุกผี

               ภาพประกอบของผู้เขียน

               ความสยดสยองเกิดขึ้น เมื่อผีถูกปลุกขึ้นมาจากหลุมแล้วไปหลอกหลอนผู้คนตามคำสั่งของผู้เป็นนาย ถ้าคาถาควบคุมผีไม่ได้ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

               เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว คนในหมู่บ้านเขาสามยอดพากันแปลกใจที่เห็นชายร่างใหญ่บึกบึน นุ่งขาวห่มขาว สวมลูกประคำสีดำและผมยาวขมวดเป็นมวยไว้ที่ท้ายทอย เขาสะพายย่ามกับกลดสีขาว ทำตัวราวกับผู้ทรงศีล

               ชายผู้นั้นอายุราว ๆ 60 ปี รูปหน้าค่อนข้างเหลี่ยม มีหนวดและเครา ทันทีที่เด็ก ๆ เห็นเขาต่างพากันร้องด้วยความกลัว

               เขาเข้าไปอยู่ในบ้านร้างหลังหนึ่งซึ่งอยู่ท้ายไร่ของเถ้าแก่ฮุย ช่วงนั้นเป็นหน้าแล้ง ไม่มีการทำไร่แต่อย่างใด

               ลุงช่วงซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านกับชาวบ้านจำนวนหนึ่งพากันไปถามไถ่ว่าเป็นใครมาจากไหน จึงรู้ว่าเขาชื่อทองหรืออาจารย์ทองเป็นหมอผี เหตุที่เขาพักที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็เพราะมีกลิ่นอายของปีศาจ เขาจะช่วยขจัดปัดเป่าผีร้ายให้ห่างไกลจากหมู่บ้าน

Advertisement

Advertisement

               หลายคนกลัวจึงขอร้องให้อาจารย์ทองช่วยไล่ผีออกไปเพราะมีชาวบ้านป่วยด้วยอาการแปลก ๆ บางคนนอนหลับแล้วตายไปก็มี ทั้งที่คนตายร่างกายแข็งแรง

               อาจารย์ทองบอกว่าเพราะคนนั้นถูกผีสิง กินตับ ไต ไส้พุงนั่นเอง

               หลายคนเชื่อในคำพูดของอาจารย์ทอง แต่ลุงช่วงไม่เชื่อ จึงให้คนสนิทคอยจับตาดูอาจารย์ทองเพราะกลัวเป็นพวกมิจฉาชีพ

                ค่ำคืนนั้นคนสนิทของลุงช่วงเห็นอาจารย์ทองแอบเข้าไปในป่าช้าท้ายวัดและทำพิธีบางอย่าง ความน่ากลัวเกิดขึ้น เมื่ออาจารย์ทองท่องคาถาเร็วขึ้น ท้องฟ้าปั่นป่วน ลมหมุนบริเวณหลุมศพ เขาขุดเอาศพขึ้นมา แล้วท่องคาถาบังคับผีจนร่างเน่าเปื่อยผุพังที่พันด้วยผ้าขาวค่อย ๆ ลุกขึ้นมาแล้วนั่งตัวแข็งทื่อ

               อาจารย์ทองใช้คาถาควบคุมผี ทำให้มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

               “เจ้าต้องเชื่อฟังข้า เอ็งจงไปหลอกไอ้ช่วงให้มันเป็นบ้า ถ้าไม่ทำตามคำสั่งข้า ข้าจะบังคับเอ็งด้วยคาถา ให้ได้รับความทุกข์ทรมาน”

Advertisement

Advertisement

               อาจารย์ทองใช้คาถาบังคับผีในหลุมให้ไปหลอกลุงช่วง คนสนิทของลุงช่วงได้ยินดังนั้น ข่มความกลัวแล้ววิ่งออกจากป่าช้าไปอย่างรวดเร็ว

               เขาบอกสิ่งที่รู้และเห็นให้ลุงช่วงฟัง ซึ่งลุงช่วงก็มีวิชาอาคมเช่นกัน เขาจึงตั้งรับเต็มที่

               เสียงแกรกกรากดังขึ้น ลุงช่วงกับคนสนิทยืนที่นอกชานบ้านและเห็นซากผีปรากฏตัวท่ามกลางความมืด มันกรีดร้องด้วยเสียงโหยหวนเป็นการหลอกหลอน ลุงช่วงจึงท่องคาถาแล้วพ่นลมใส่มัน ซากผีสะดุ้งแล้วร้องด้วยความเจ็บปวดและหายไปกับความมืด

               “มันคงกลับไปเล่นงานคนที่ส่งมันมาหลอกข้า พรุ่งนี้เราไปที่บ้านร้างท้ายไร่กัน”

               ลุงช่วงบอกคนสนิทและพากันเข้าบ้านแล้วสวดมนต์ไหว้พระจนสว่าง

ซากผี               ขอขอบคุณภาพจาก Pixabay

               ลุงช่วงและลูกบ้านจำนวนหนึ่งพากันไปที่บ้านร้างท้ายไร่ ภาพที่เห็นก็คือ อาจารย์ทองนอนตายตัวแข็งทื่อ ดวงตาเหลือกถลน มือทั้งสองข้างบีบคอตัวเองจนแน่น เลือดออกจากทวารทั้ง 9 จนเหม็นเน่า

Advertisement

Advertisement

               ลุงช่วงจึงบอกให้ลูกบ้านช่วยกันเอาไปไว้ที่วัด จากนั้นพากันไปที่ป่าช้า จึงเห็นว่ามีหลุมศพถูกขุดจนดินกระจาย ศพนอนคว่ำหน้าอยู่ที่ปากหลุม ลุงช่วงจึงแจ้งแก่เจ้าอาวาสและนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาพร้อมกับศพของอาจารย์ทองเพื่อให้ดวงวิญญาณคนตายไปสู่สุขคติ

               “ข้าขออโหสิกรรมให้พวกเอ็ง”

               ลุงช่วงกล่าวด้วยเสียงดังฟังชัด หลังจากเผาศพทั้ง 2 เรียบร้อยแล้ว

               จรรยา เลิศพงษ์ไทย