อื่นๆ

ผู้ชายบ้านเลขที่ 13

ผู้ชายบ้านเลขที่ 13

                    ภาพประกอบของผู้เขียน

                    ความเชื่อที่ว่าเลขที่ 13 เป็นเลขไม่ดี อัปมงคล โดยเฉพาะพวกฝรั่งจะกลัวมาก แต่สมศักดิ์ไม่เชื่อเรื่องนี้ เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเรียกสั้น ๆ ว่ายาม นั่นเอง

                    สมศักดิ์เข้ากะทั้งกลางวัน และกลางคืน บริษัทที่เขาทำงานอยู่จัดให้ไปทำงานที่หมู่บ้านสร้างใหม่ แถวชานเมือง เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น

                    ทุกหนึ่งชั่วโมงยามจะต้องขี่จักรยานวนไปรอบ ๆ หมู่บ้าน ตรวจดูความเรียบร้อย เมื่อเจอเจ้าบ้านก็จะกล่าวคำว่าสวัสดี

                    บ้านเลขที่ 13 สะดุดตาสมศักดิ์ เพราะรู้ว่าเป็นเลขอาถรรพณ์ แต่คนที่อยู่มีนิสัยดีมาก ผู้หญิงวัยกลางคนอายุสี่สิบต้น ๆ หน้าตาสวยเป็นแม่บ้าน สามีก็คงอายุไล่ๆ กัน ตัวเล็ก ผิวขาว ทำงานนอกบ้านจะกลับเข้ามาก็ประมาณทุ่มกว่า เขามีบริษัทส่วนตัว อยู่ไม่ห่างจากที่นี่เท่าใดนัก บางทีก็ไปกินนอนที่นั่นหรือไม่ก็ภรรยาขี่มอเตอร์ไซค์เอาข้าวไปส่ง

Advertisement

Advertisement

                    ผู้หญิงชื่อนิด ส่วนผู้ชายชื่อจอม

                    “แต่มีคนบอกว่าพี่จอมเจ้าชู้ มีผู้หญิงเยอะ ข้างบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกันบ่อย ๆ พี่จอมแอบไปมีเมียน้อย คบกันมาหลายเดือนแล้ว แต่เขาสัญญากับพี่นิดว่าจะเลิก”

                    เพื่อนยามด้วยกันเล่าให้สมศักดิ์ฟัง

                    “เอาเวลาที่ไหนไปหาเมียน้อย”

                    “ช่วงกลางวันไง คงแอบไป แต่เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเรา ทำงานต่อเถอะ”

                    ยามรุ่นพี่พูดจบลุกขึ้นทำความเคารพรถที่แล่นออกจากหมู่บ้าน สมศักดิ์ยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับความลับของผู้อาศัยบ้านเลขที่ 13 อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องเมียน้อยจะจบลงอย่างไร จะว่าไปแล้วสมศักดิ์ไม่ชอบผู้หญิงพวกนี้เลย รู้ว่าเขามีครอบครัวอยู่แล้วยังคิดจะแย่งไปอีก

                    สมศักดิ์สงสารนิดเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว จอมยังกล้านอกใจ เขาเชื่อแล้วว่าผู้ชายไม่รู้จักพอจริงๆ

Advertisement

Advertisement

บ้านผี

                    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก https://pixabay.com/th/photos/ 2693315/

                    สองเดือนต่อมาสมศักดิ์ผ่านบ้านนิดเห็นว่าปิดไฟมืดเหมือนไม่มีคนอยู่ ใบหน้าเธอหม่นหมอง เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ เธอสวมชุดดำ นิดไม่อยู่ที่นี่ แต่ไปนอนที่บ้านแม่ สมศักดิ์คิดว่าอาจจะมีปัญหากับจอมก็ได้เพราะไม่เห็นรถของเขาจอด สงสัยไปอยู่กับเมียน้อย

                    “ผู้ชายชอบหลงของใหม่ ทั้งที่ภรรยาอยู่ด้วยกันมานาน ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว แต่กลับพลาดท่าเสียทีหญิงเจ้ามารยา”

                    สมศักดิ์ตำหนิผู้หญิงที่มาเป็นเมียน้อยของจอม และผู้หญิงทุกคนที่จ้องจับผู้ชายมีเงิน ถ้าเขารวยจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงพวกนี้เด็ดขาด

บ้านผี                    ขอขอบคุณภาพประกอบจากhttps://pixabay.com/th/photos/195109/

                    คืนหนึ่ง ประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ อากาศเย็นยะเยือก สมศักดิ์ขี่จักรยานผ่านหน้าบ้านนิด เขารู้สึกเสียวสันหลัง มันวังเวงอย่างไรก็ไม่รู้ เขากลับมาที่ป้อมยาม และเฝ้ายามกับหัวหน้า สักพักเขาได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ดังใกล้เข้ามา เขาจำเสียงได้ว่าเป็นรถของนิด เธอขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยใบหน้าเศร้าหมอง สวมชุดดำเช่นเคย สมศักดิ์ยกมือทำความเคารพ เธอยิ้ม จากนั้นขี่รถผ่านไป

Advertisement

Advertisement

                    สมศักดิ์เห็นจอมนั่งอยู่ข้างหลัง ใบหน้าดำ ๆ มองไม่ถนัดเพราะผมที่ปรกลงมา จอมหันมามองสมศักดิ์ตาวาว ๆ เวลานั้นขนเขาลุกเกรียว เสียงหมาหอนรับกันเป็นทอด ๆ ไฟเสาเจ้ากรรมดันดับพรึบ เขาใจหายวาบ หัวหน้ายามส่องไฟฉายขึ้นไปบนเสาไฟต้นนั้น ครู่เดียวแสงสว่างจัดจ้า พวกเรามองกันอย่างงง ๆ

                    “ไฟดับตอนพี่นิดขี่รถผ่านพอดีเลย”

                    “สงสัยผัวเขามาทักพวกเรามั้ง”

                    หัวหน้ายามพูดพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างหวาด ๆ แล้วเข้ามาเบียดกันในป้อมยาม

                    “มีอะไรหรือครับ เมื่อครู่ผมเห็นพี่จอมนั่งซ้อนท้ายรถพี่นิด แกยังหันมามองผมเลย”

                    “เฮ้ย! จริงหรือวะ”

                    “จริงสิครับพี่”

                    “ตายห่าแล้ว เอ็งรู้ไหมว่าเขาตายแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง”

                    สมศักดิ์ไม่เชื่อ ต่อว่าหัวหน้ายาม โกหกเอาเรื่องไม่เป็นมงคลมาพูด แต่เขายืนยันว่าจริง จอมถูกผัวของเมียน้อยฆ่าตาย โทษฐานเป็นชู้ คือผู้หญิงยังไม่เลิกกับผัวแล้วมาได้กับพี่จอม ผัวจับได้จึงฆ่าทิ้ง สมศักดิ์ขนลุกซู่ ยกมือไหว้ พูดเสียงสั่น ๆ ว่าอย่ามาหลอกหลอนอีกเลยจะทำบุญกรวดน้ำไปให้ จากนั้นนั่งสงบสติอารมณ์

                    บ้านเลขที่ 13 ผีเฮี้ยนจริงๆ ไม่รู้ว่าจากนี้ไปเขาจะกล้าขี่จักรยานผ่านหน้าบ้านไหม

                    จรรยา เลิศพงษ์ไทย