อื่นๆ
อ่านหนังสือกับลูก เพื่ออนาคตของลูก

การอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกคืน การเล่นดินเล่นทรายกับลูกบ่อยๆ สองอย่างนี้เป็นยาวิเศษหรือผงมหัศจรรย์สำหรับการเตรียมความพร้อมที่ดี ง่าย ประหยัด และได้ผล เตรียมความพร้อมอะไร คำตอบคือเตรียมจิตใจที่มั่นคง เซลล์สมองที่ดี และกล้ามเนื้อเล็กนิ้วมือทั้งสิบนิ้วอย่างเสรีและแข็งแรงมากที่สุด เพื่อส่งต่อเขาให้แก่โรงเรียนในภายหน้า ; นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
เราเป็นแม่ธรรมดา ทำงานประจำ ไม่ได้เป็นคุณครู ไม่ได้เป็นกูรูทางด้านไหน เพียงแต่มีความสนใจด้านพัฒนาการและจิตวิทยาเด็ก โดยเฉพาะชอบอ่านหนังสือและข้อเขียนของนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์ชื่อดัง ทำให้เราได้แนวทางในการเลี้ยงลูก และให้ความสำคัญกับการดูแลเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเองอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ลูกปฐมวัยได้รักความรักจากแม่อย่างเต็มที่
Advertisement
Advertisement
เราให้ความสำคัญกับการเล่นสนุกเพื่อเรียนรู้ และการอ่านหนังสือกับลูกตั้งแต่ลูกเป็นทารก เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ซึ่งสายสัมพันธ์นี้ในเชิงจิตวิทยา แม้จะมองไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ ซึ่งสายใยนี้จะช่วยยึดโยงลูกไว้กับพ่อแม่ ไม่ให้ลูกออกนอกลู่นอกทางเมื่อเขาเจริญเติบโตขึ้น
การอ่านหนังสือกับลูกไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ตอนลูกยังเป็นทารกเคลื่อนที่ยังไม่ได้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย เพราะเป็นภาคบังคับที่เขาจะต้องนอนฟังแม่อ่านหนังสือ แต่เมื่อลูกเริ่มเคลื่อนที่ได้ ช่วงแรกแม่ก็ท้อเหมือนกัน เพราะเหมือนอ่านให้ตัวเองฟัง ลูกวิ่งไปเล่นอย่างอื่น หรือลูกขอฟังเพลงกล่อมเข้านอนเสียมากกว่า แต่ขอแค่ไม่ละทิ้งความพยายาม สักวันหนึ่งลูกจะชอบนั่งลงแล้วตั้งใจฟังสิ่งที่เราอ่านให้เขาฟัง ขอให้การอ่านเป็นเรื่องสนุก ไม่บังคับ ให้โอกาสลูกเป็นคนเลือกว่า ลูกอยากให้เราอ่านเล่มไหนให้ฟัง
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
เราเพียรพยายามอ่านหนังสือกับลูกมาตลอด จนกระทั่งเวลาผ่านไปสี่ปีกว่า เริ่มสังเกตเห็นว่า ลูกอ่านหนังสือได้ โดยเฉพาะหนังสือเด็กภาษาอังกฤษ ในช่วงแรกคิดว่า ลูกท่องจำ แต่พอหยิบยื่นหนังสือให้ แล้วชวนกันอ่านสักพัก จึงพบว่า ลูกอ่านได้ด้วยตัวเอง คำไหนอ่านไม่ออกลูกจะดำน้ำหน่อยๆ หรือไม่ก็ถามว่า “อ่านว่าอะไรคั้ม?” แม่ก็ไม่ได้เก่งมาก คำไหนที่แม่อ่านไม่ออกก็จะเปิด Google Dict เพราะมีเสียงอ่านพร้อมความหมาย แล้วกดฟังเพื่อเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูก
จากประสบการณ์ในช่วงเวลาสี่ปีที่ผ่านมา จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์การ “อ่านหนังสือกับลูก” ด้วยความเชื่อมั่นว่า ทุกครอบครัวสามารถทำได้ ในการสร้างเจ้าตัวเล็กนักอ่านขึ้นมา ไม่ว่ายากดีมีจนทุกครอบครัวสามารถทำได้จริงๆ เพียงแต่สิ่งสำคัญที่พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูต้องทุ่มเท คือ เวลาคุณภาพที่จะอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมสนุกสนานร่วมกันกับลูกน้อย และความสม่ำเสมอของการอ่าน จนทำให้การอ่านหนังสือเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเขา
ปัจจุบันลูกชายเราอายุ 6 ขวบแล้ว ทักษะในการอ่านหนังสือเป็นไปอย่างคล่องแคล่วทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อ่านหนังสือได้หลากหลาย นิทาน สารานุกรม Text Book ป้าย ข้อความ และอื่นๆ รวมถึงทักษะที่เพิ่มพูนในการอ่านออกเสียงสูงต่ำแสดงอารมณ์เลียนแบบตัวละครในหนังสืออย่างสนุกสนาน
การอ่านคือการเปิดโลกแห่งความรู้ และเป็นประตูสู่จินตนาการ ที่จะนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ โดยความรู้และจินตนาการจะช่วยแต่งเติมอนาคตของลูกให้สดใส และยิ่งไปกว่านั้น การอ่านหนังสือกับลูกเป็นการสร้างช่วงเวลาคุณภาพที่พ่อแม่ลูก หรือคนในครอบครัวจะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า มีความสุขร่วมกันจากการอ่านหนังสือ เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ ความรัก และความอบอุ่นให้แก่ลูก
ณ วันนี้ เราไม่รู้หรอกว่า ในอนาคตลูกของเราจะไปได้ไกลสักเพียงใด แต่ปัจจุบันลูกของเราเป็นเด็กที่เชื่อฟังคำพูดของแม่ เชื่อฟังคุณครู มีวินัย เคารพกติกา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ ส่วนหนึ่งได้จากการอ่านหนังสือ ลูกได้เห็นภาพ และข้อความซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเด็กดี และเด็กไม่น่ารัก ซึ่งลูกจะอ่านและคิดตามได้ว่า เขาควรจะเป็นทำอย่างไรเพื่อให้พ่อแม่รักและชื่นชม
การอ่านหนังสือกับลูกไม่มีข้อเสียใดๆ จึงอยากเชิญพ่อแม่มา “อ่านหนังสือกับลูก เพื่ออนาคตของลูก”
วันนี้เรามาอ่านหนังสือกับลูก ไปพร้อมๆ กันนะคะ 💕
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.facebook.com/prasertpp/photos/a.173967896285046/727526537595843/?type=3&theater
ความคิดเห็น
