วันนี้ผู้เขียนจะนำทุกท่านนั่งเรือข้ามฟาก จากฝั่งอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ไปสู่เกาะเกร็ด ด้วยค่าเรือข้ามฟาก 10 บาท ผู้เขียนขึ้นตรงท่าเรือฝั่ง ร้านคานเรือ จะมีป้ายบอกทางไปตลอดเส้นทางเลยค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะนำทุกท่านไปชมวิถีชีวิตและเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของชาวบ้านบนเกาะเกร็ดโดยส่วนใหญ่ชาวบ้านที่นี่จะเป็นชาวมอญที่อาศัยร่วมกับชาวไทยอิสลาม เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือข้ามฟากฝั่งเกาะเกร็ดก็จะพบกับชาวบ้านที่นำผลผลิตทางการเกษตรที่เพาะปลูกกันบนเกาะแห่งนี้เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ ของที่จัดจำหน่ายโดยชาวบ้านมีให้เลือกมากมายหลายอย่าง ทั้งพืชผัก ขนมของฝาก เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ผู้เขียนก็เดินชมไปเรื่อย ๆ ผ่านวัดไผ่ล้อม จนมาพบกับป้ายบอกทางไปยัง โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม ไม่รอช้าเข้าไปด้านในกันเลยภาพโดย ผู้เขียนโรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม เรียกได้ว่าขึ้นชื่อมากที่สุดของเกาะเกร็ดเพราะมีความเป็นเอกลักษณ์ของชาวมอญที่อาศัยอยู่บนเกาะเกร็ด และประกอบอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผาม้านานตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ในอดีตชาวบ้านจะทำโอ่งไว้ใส่น้ำ แต่ในปัจจุบันมีการนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น โดยทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ สำหรับเป็นของขวัญของฝาก เมื่อเข้ามาด้านในจะมีพิธีกรภาคสนามคอยอธิบายการริเริ่มการทำเครื่องปั้นดินเผา โดยเริ่มขั้นตอน ดังนี้1. การเตรียมดิน ซึ่งในปัจจุบันได้มีการสั่งซื้อดินมาจากอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี โดยส่งมาทางเรือ 1 ลำเรือ 13000 บาท แล้วนำมาพักไว้ในบ่อดินของโรงงาน ( ซึ่งในอดีตใช้ดินที่มีอยู่ในเกาะเกร็ดซึ่งนำมาจากนา หรือดินเหนียวจากหลังบ้าน )2. นำดินไปขึ้นรูปโดยนำดินเหนียวไปวางบนแท่นไม้หมุน จะมีคุณลุงซึ่งเป็นคนเก่าของที่นี่คอยสอน ซึ่งเขามีให้นักท่องเที่ยวลองทำด้วย โดยจ่ายค่าดินเหนียว 50 บาท ทำเสร็จแล้วสามารถนำกลับบ้านได้เลย แต่นำไปใช้ใส่น้ำไม่ได้เนื่องจากยังไม่ผ่านการเผาภาพโดย ผู้เขียน3. การตกแต่งลวดลายต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางโรงงานจะมี 2 แบบคือ พิมพ์ลายและแบบลายวิจิตร แบบพิมพ์ลายจะใช้เครื่องพิมพ์ลายกดเบา ๆที่เครื่องปั้นดินเผา ส่วนลายวิจิตรเป็นการแกะสลักใช้ความสามารถด้านศิลปะของผู้ทำหรือช่างของที่นี่นั่นเองค่ะภาพโดย ผู้เขียน4. หลังจากมีการพิมพ์ลายแล้วก็นำมารอเข้าเตาเผา เตาเผาของที่นี่มีอายุยาวนานมากกว่า 100 ปี แต่ยังสามารถใช้งานได้อยู่ ซึ่งในการเผาอาศัยความชำนาญในการกะไฟและเวลาในการเผา หากใช้ไฟแรงทำให้เครื่องปั้นดินเผาแตก และถ้าเผานานไปก็ทำให้สีที่ได้ไม่สวยงาม กว่าจะได้เครื่องปั้นดินเผามาแต่ละชิ้นนั้นต้องใช้เวลาและความสามารถมากเลยนะคะ อยากให้ศิลปวัฒนธรรมเหล่านี้อยู่คู่กับคนไทยไปตราบนานเท่านานเพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้มาศึกษาเรียนรู้ หากคุณผู้อ่านสนใจที่จะมาศึกษาเรียนรู้และลองปั้นเครื่องปั้นดินเผาที่โรงงานป้าตุ่ม สามารถเดินทางมาได้นะคะ ที่นี่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00 น.โดยนั่งเรือข้ามฟากมา 10 บาทค่ะ