เมื่อพูดถึงประเทศเวียดนาม บุคคลสำคัญคนแรกที่เราต่างก็นึกถึง นั่นคือ ท่านโฮจิมินห์ ( หรืออาจจะเรียกว่า Bác Hồ Chí Minh อ่านว่า บ๊าก โห่ จี๋ มินห์ แปลว่า ลุงโฮจิมินห์ ซึ่งคนไทย เรียกท่านว่า ลุงโฮ ) ท่านเป็นนักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศเวียดนาม เป็นผู้ประกาศอิสรภาพเวียดนามจากประเทศฝรั่งเศส เป็นผู้รวบรวมประเทศเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน มองภายนอกท่านเป็นผู้นำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในอุดมการณ์ ดูเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว แต่ภายในจิตใจ ท่านเป็นคนสมถะ จิตใจดี ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและไม่มักใหญ่ใฝ่สูง ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั้งชาวเวียดนามและผู้ที่ได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของท่าน ดังนั้น ถ้าใครได้มาเยือนประเทศเวียดนามเหนือ อย่างเมืองฮานอยแล้วหล่ะก็ อย่าลืมที่จะมาเคารพศพท่านโฮจิมินห์ หรือ " ลุงโฮ " กันสักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเอง ให้ท่านได้คุ้มครองเวลาที่เรามาทำงานหรือมาท่องเที่ยวที่ประเทศเวียดนามได้อย่างราบรื่น ปลอดภัยและมีความสุข กับ 3 สถานที่แห่งความทรงจำ ใน 1 วันข้ามฟ้ามาหาลุงโฮ 1. สุสานโฮจิมินห์ ( Ho Chi Minh Mausoleum ) เป็นสุสานขนาดใหญ่ของลุงโฮ สุสานสร้างด้วยหินอ่อน หินแกรนิตและไม้มีค่าจากทั่วประเทศ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1973 หลังจากลุงโฮเสียชีวิต เมื่อวันที่ 02 กันยายน ค.ศ.1969 สุสานของลุงโฮ ตั้งอยู่ที่จตุรัสบาสติงห์ เคยเป็นที่ที่ลุงโฮได้อ่านคำประกาศอิสรภาพเวียดนามจากประเทศฝรั่งเศสต่อหน้าชาวเวียดนามที่มาชุมนุมกัน เมื่อวันที่ 02 กันยายน ค.ศ.1945 หากจะมาเคารพศพลุงโฮ ควรมาที่สุสานลุงโฮแห่งนี้ ตามวันและเวลา ( ไม่เสียค่าเข้าชม ) ดังนี้ ปิดวันจันทร์และวันศุกร์ วันธรรมดา เปิดให้เข้าเคารพศพ ตั้งแต่เวลา 07.30 - 10.30 น. วันเสาร์และอาทิตย์ เปิดให้เข้าเคารพศพ ตั้งแต่เวลา 07.30 - 11.00 น. จะปิดในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เพื่อนำศพลุงโฮไปทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาที่ประเทศรัสเซีย เมื่อมาถึงแล้ว ก็ยืนต่อแถวให้เป็นระเบียบ ไม่พูดคุยกันเสียงดัง เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ เดินเข้ามาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดตรวจกระเป๋าและเครื่องแต่งกาย ควรแต่งกายด้วยชุดสุภาพ ไม่ใส่กระโปรงและกางเกงสั้น สำหรับกระเป๋าถือต่างๆ ต้องฝากไว้กับทางเจ้าหน้าที่ เมื่อผ่านจุดตรวจเรียบร้อยแล้ว ให้เดินเป็นแถวเหมือนเดิม ห้ามถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากโดยรอบจะมีทหารกองเกียรติยศยืนอยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาว ท่าทีสง่างาม เคร่งขรึม คอยตรวจตราอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงด้านหน้าอาคารสุสาน ทุกคนต่างพร้อมเพรียงไม่ส่งเสียง ทุกอย่างดูเงียบสงัดในทันที ต่างจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยินแต่เสียงพูดคุยตลอดทาง เดินเข้ามาในตัวอาคารที่แสนเย็นเยือก พรมสีแดงลาดบนพื้นตามทางเดินตัดกับสีเทาของหินที่ก่อสร้างเป็นอาคารสุสานอย่างสวยงาม ดวงไฟสีส้มส่องสลัวๆ ตามทางเดิน แต่ก็ยังคงมีทหารเหล่านั้นยืนอยู่ประจำจุดเหมือนเดิม เมื่อมาถึงประตูทางเข้าห้องโถงใหญ่ จากที่เดินเป็นสองแถว ต้องเปลี่ยนเป็นเดินแถวเดียว มองไปที่กลางห้อง พบแท่นหินขนาดใหญ่ บนแท่นหินมีโลงแก้วใสตั้งอยู่ ข้างในนั้น มีลุงชราท่านหนึ่ง นอนหลับด้วยใบหน้าอมยิ้ม ท่านเหมือนคนนอนหลับปกติ ระหว่างที่เดินมองดูท่าน เดินจากทางขวาวนมาทางซ้าย จู่ๆ น้ำตาก็ปริ่มออกมา มือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาไหว้เคารพท่านพร้อมตั้งจิตให้สงบเพื่อระลึกถึงท่าน ขอให้ท่านช่วยคุ้มครองให้เดินทางอย่างปลอดภัย ราบรื่นและมีความสุขเมื่ออยู่ในประเทศเวียดนาม ประเทศบ้านเกิดของท่าน เพียงแค่ไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้นที่ได้เห็นท่าน กับการรอต่อแถวนับชั่วโมง ถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตัวเองยิ่งนัก 2. สถานที่ที่สอง บ้านพักโฮจิมินห์ ( Ho Chi Minh's stilt house ) เมื่อไปเคารพศพลุงโฮเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขอไปแวะบ้านท่านสักประเดี๋ยว เพื่อชมความเป็นอยู่ ครั้งที่ท่านยังมีชีวิต ซึ่งบ้านหลังนี้ท่านอาศัยอยู่เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1954 - 1958 บ้านพักลุงโฮ ตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ ด้านหลังของสุสานลุงโฮ เดินมาไม่กี่นาทีก็ถึง ตัวบ้านทำจากไม้ทั้งหมด ยกพื้นสูง ใต้ถุนบ้านเป็นสถานที่ใช้ในการประชุมกับนายทหารคนสำคัญๆ เพื่อวางแผนการรบกับทหารสหรัฐอเมริกาในสงครามเวียดนาม ส่วนบนบ้านมีห้องนอนและห้องหนังสือที่แสนจะเรียบง่ายและสมถะ เปิดให้เข้าชมบ้านพักลุงโฮ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น. ยกเว้น วันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 11.00 น. ( ไม่เสียค่าเข้าชม ) 3. สถานที่สุดท้าย พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ( Ho Chi Minh Museum ) หลังจากชมบ้านพักของลุงโฮเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินออกมาจะเห็นทางเดินยาวขนานไปกับสุสานลุงโฮ เดินตามหลังทหารกลุ่มนั้นไป ผ่านเจดีย์เสาเดียว ก็จะพบศูนย์รวมเรื่องราวที่เกี่ยวกับลุงโฮไว้ทั้งหมด ได้ที่นี่ ที่พิพิธภัณฑ์ลุงโฮ ตัวอาคารเป็นรูปแบบอาคารสมัยใหม่ขนาดใหญ่ ในตัวอาคารมีการจัดนิทรรศการต่างๆทั้งรูปขาวดำ รูปสี ข้าวของเครื่องใช้นานาชนิด สะท้อนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตมาบอกเล่าให้คนในยุคปัจจุบันได้รับรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง สามารถมาพิพิธภัณฑ์ลุงโฮได้ตามช่วงวันและเวลา ( ค่าเข้าชม 40,000 ด่ง ) ดังนี้ วันจันทร์และวันศุกร์ เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 - 12.00 น. วันธรรมดา,วันเสาร์และวันอาทิตย์ เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 - 12.00 น.และ 14.00 - 16.30 น. ขอขอบคุณ รูปภาพหน้าปก vi.m.wikipedia.org