มันจะดีขนาดไหนหากว่าวันหนึ่งมนุษยชาติมีเทคโนโลยีเดินทางข้ามอวกาศเพื่อเสาะหาทรัพยากรใหม่ๆได้ซึ่งเรื่องนั้นยังคงดูเป็นเรื่องที่คงยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้แน่ แต่ในปัจจุบันมนุษย์เราก็ยังไม่ได้หยุดนิ่งเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศ ดาวที่อยู่ใกล้โลกอย่างดาวอังคารจึงเป็นเป้าหมายที่แรกที่มนุษย์จะไปเยือนหลังจากสามารถปักธงบนดวงจันทร์ในปี 1969 ได้สำเร็จ ก่อนจะมาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับดาวอังคาร ผู้เขียนได้ดูหนังเรื่อง The Martian แล้วสนใจเป็นพิเศษและผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในหลายล้านคนของมนุษย์โลกที่ฝันว่าสักวันหนึ่งมนุษย์เราจะสามารถไปดาวอังคารได้จริงๆ และสร้างอารยธรรมที่มนุษย์สามารถอยู่ได้จริงๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสปา โรงยิม หรือแม้กระทั่งร้านอาหาร! แต่ว่า...ทำไมต้องเป็นดาวอังคารล่ะ? 1.ได้เป็นผู้นำชาติแรกในการเริ่มตั้งอาณานิคมนอกโลกเมื่อไปถึง ใครไวที่สุดคนนั้นชนะ! จำเรื่องราวเมื่อเกือบห้าสิบปีก่อนได้ไหม? ช่วงสงครามเย็นมหาประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตแข่งขันกันอย่างจริงจังในเรื่องของเทคโนโลยีทางอวกาศแม้จะเสียเงินและทรัพยากรไปอย่างมหาศาลแต่การเป็นประเทศเจ้าแรกที่สามารถส่งมนุษย์ไปเหยียบบนดวงจันทร์ของสหรัฐอเมริกาสามารถกอบโกยผลประโยชน์กลับคืนมาได้อย่างไม่คาดคิด และหนึ่งในนั้นคือการสร้างชื่อเสียงเรื่องการเป็นมหาอำนาจได้อย่างชัดเจน ลองคิดดูว่าถ้าหากมีชาติหนึ่งที่สร้างอาณานิคมบนดาวอังคารได้สำเร็จแล้วละก็ คำว่า ”โรงแรมแห่งแรกของดาวอังคาร” “ร้านสะดวกซื้อแห่งแรกของดาวอังคาร” หรือแม้กระทั่ง “ร้านอาหารแห่งแรกบนดาวอังคาร” ย่อมดึงดูดเงินทุนมหาศาลจากนักลงทุนให้มาร่วมสร้างอำนาจของอาณานิคมดาวอังคารให้ใหญ่ขึ้น เราอาจมีแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว กิจกรรมกลางแจ้งใหม่ๆบนดาวอังคารที่ทำให้คนบนโลกล้วนอยากควักเงินเก็บทั้งชีวิตเพื่อซื้อตั๋วเดินทางไปลองสัมผัสวิถีชีวิตบนดาวอังคารสักครั้งหนึ่งในชีวิต 2.แหล่งสำรองทรัพยากรมนุษย์ในอนาคต การสร้างอาณานิคมดาวอังคารฟังดูเป็นเรื่องที่ยังไกลตัวแต่หากจะละเลยไม่สนใจที่จะพัฒนาเลยก็อาจจะเป็นเรื่องน่าเสียดายหากวันหนึ่งโลกที่สงบสุขไม่เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันอย่างเช่นวัตถุจากอวกาศพุ่งเข้าใส่เหมือนประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษเราในยุคไดโนเสาร์ เมื่อเรามองท้องฟ้าเราจะเห็นพื้นที่กว้างใหญ่ดูโล่งโปร่งทั้งในกลางวันและกลางคืน อันที่จริงอวกาศที่เราเห็นยังไม่มีขอบเขตที่สิ้นสุดและไม่มีอะไรแน่นอนหากวันใดวันหนึ่งอยากจะมีดาวหางพุ่งเข้าชนโลกก็เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นการที่มนุษย์เสาะแสวงหาที่อยู่ใหม่ๆเป็นสัญชาติญาณในการเอาชีวิตรอดที่มีในดีเอ็นเอของมนุษย์อยู่แล้ว สิ่งที่อยู่ภายในจิตใต้สำนึกเหล่านี้จะทำให้มนุษย์มีความหวาดกลัวการสูญพันธุ์และพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อดำรงเผาพันธุ์อยู่ให้ได้ อาณานิคมดาวอังคารที่เราใฝ่ฝันนั้นจึงเป็นทางรอดหนึ่งในกรณีที่เกิดภัยระดับใหญ่เกินจะรับมือ การพุ่งชนโลกของอุกาบาตร การระเบิดของนิวเคลียร์ การระบาดของโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ เสมือนเป็นบ้านสำรองหลังที่สองเลยก็ว่าได้ 3.โยชน์มหาศาลจากงานวิจัย การคาดการณ์เรื่องการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติจะเป็นเรื่องที่คนทั่วไปมักจะพูดเสมอว่า “ทำปัจจุบันให้ดีก่อน ค่อยพูดถึงเรื่องอนาคต” ในขณะเดียวกันความทะเยอทะยานและความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ทำให้เกิดงานวิจัยใหม่ๆที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้การสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารจะเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้ในอนาคตอันใกล้แต่ในระหว่างทางหากถามนักวิทยาศาสตร์ว่าขั้นตอนการไปดาวอังคารนั้นมีรายละเอียดและขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้าง นักวิทยาศาสตร์ก็ยังตอบยากเพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีเรื่องการส่งจรวดขึ้นสู่วงโคจรของโลกยังเป็นความลับของแต่ละประเทศที่ปิดบังเอาไว้เพื่อความสงบสุขของการเมืองระหว่างประเทศ เราคงอยากจะเดินทางออกนอกโลกเพื่อหนีตายจากสงครามนิวเคลียร์กันหมดหากทุกประเทศสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีจรวดขีปนาวุธกันโดยง่าย แต่การใช้ชีวิตในอวกาศนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายไม่แพ้การอยู่ท่ามกลางสงครามขีปนาวุธสักเท่าไหร่ แม้เราจะสามารถลงจอดบนพื้นผิวของดาวอังคารได้สำเร็จแต่ก็ยังมีความเสี่ยงรอบด้านที่จะทำให้ภารกิจสร้างอาณานิคมนำมาซึ่งความสูญเสียทรัพยากรและสูญเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้จึงเป็นพื้นฐานที่มนุษย์จะต้องพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในการเดินทางไปยังดาวเคราะห์แดงแห่งนั้น ทั้งปัญหาเรื่องอุณหภูมิที่แปรปรวนอย่างสุดโต่ง สนามแม่เหล็กที่ไม่สามารถป้องกันวัตถุอวกาศที่เข้ามาในชั้นบรรยากาศตลอดเวลา อนุภาคต่างๆและรังสีจากดวงอาทิตย์ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีที่เป็นผลพลอยได้จากการคิดค้นวิธีใช้ชีวิตบนดาวอังคารจะนำประโยชน์มาให้กับมนุษยชาติเพื่อแก้ปัญหาการใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างมหาศาล 4.ดาวอังคารอาจเป็นฐานการสำรวจอวกาศในอนาคต เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าดาวอังคารเป็นดาวที่มีสภาพอากาศที่ใกล้เคียงกับโลกมากที่สุดและการเดินทางด้วยยานอวกาศของเทคโนโลยีอันใกล้นี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะไปถึง แต่หากจะมีมนุษย์สักหนึ่งคนมีความฝันที่อยากจะสำรวจอวกาศเพื่อค้นหาอารยธรรมใหม่ๆเหมือนในหนังฟอร์มยักษ์อย่างสตาร์วอร์ขึ้นมา เขาอาจผลักดันเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อให้การเดินทางในอวกาศหลายล้านปีแสงให้สามารถลดเหลือเพียงแค่ไม่กี่ปีภายในช่วงอายุขัยของมนุษย์ที่เป็นนักเดินทาง ดาวอังคารที่อยู่ใกล้โลกที่สุดจะเป็นเสมือนฐานปฏิบัติการใหญ่ในโครงการนี้ เราสามารถใช้ทรัพยากรจากดาวอังคารได้อย่างเต็มที่โดยไม่รบกวนทรัพยากรธรรมชาติของโลกโดยตรง และสามารถอยู่อาศัยแบบพึ่งพาตัวเองในอาณานิคมใหม่ที่มีประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นพร้อมกับความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ดังนั้นได้เวลาแล้วที่คุณจะต้องเก็บเงินสะสมไว้ให้คนรุ่นลูก หลาน หรือเหลน (อาจจะมากกว่านั้นก็ได้) เพื่อที่จะไปลงทุนเปิดธุรกิจอย่างร้านอาหารสักร้านบนดาวอังคารให้ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงไปทั่วดาวอังคารเลยก็ได้ ฟังดูดีนะ!ภาพประกอบโดย S_jiam