วัดแสงสิริธรรม สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายจนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ครอบครัวชาวรามัญ (มอญ) มาตั้งถิ่นฐานย่านนี้จำนวนมากประกอบอาชีพทำอิฐขายได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้แล้วเรียกชื่อว่า วัดขวิด และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาจากรัชกาลที่ 1 ชาวบ้านจึงเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแสงสิริธรรมใน พ.ศ. 2334 พระพุทธศรีโรจนชัย หรือชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อดำ ประดิษฐานอยู่ด้านในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์องค์สีดำลงรักปิดทองศิลปะอยุธยาอายุมากกว่า 200 ปี ขอพรด้านแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้เปลี่ยนเรื่องร้ายกลายเป็นเบา ซึ่งพระอุโบสถมีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 24 เมตร เครื่องบนไม้สักทาสีแดงทับตามลักษณะสมัยอยุธยาตอนปลายหลังคามุงกระเบื้องดินเผา ฝาผนังเคยมีร่องรอยภาพวัดจิตกรรมที่ปัจจุบันถูกลบเลือนไปจนไม่สามารถมองเห็นได้แล้วค่ะวิธีบูชาหลวงพ่อดำ จุดธูป 3 ดอก แปะแผ่นทำคำเปลวที่พระพุทธรูปแล้วนำพวงมาลัยหรือดอกไม้สดไหว้ (งดปิดทองบริเวณพระพักตร์)ท่องนะโม 3 จบ พุทธบูชา มหาเตชวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญ สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห อะระหังพุทโธ นะโมพุทธานะ อิติภะคะวา นะมามิหังบริจาคกระเบื้อง สำหรับบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถหลังนี้กันได้บริเวณศาลาด้านหน้าขวามือของพระอุโบสถเลยค่ะทุกท่านสามารถเขียนชื่อ นามสกุลของตนเองและครอบครัวลงบนแผ่นกระเบื้องดินเผาได้ อานิสงส์การถวายกระเบื้องให้วัดคือประกอบการใดก็ไร้อุปสรรค มีอำนาจบารมี เกิดชาติใดก็มีคนนับถือ อยู่เย็นเป็นสุขมีความร่มรื่นดังกระเบื้องที่มุงกันความทุกข์ร้อนใจค่ะด้วยพุทธลักษณะที่งดงามผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานจึงมีราคาประเมินในตลาดค้าพระสูงมากพร้อมทั้งมีขนาดไม่ใหญ่มากคือหน้าตักกว้าง 48 เซนติเมตรและมีส่วนสูง 68 เซนติเมตร ทำให้เคยมีประวัติการเข้ามาลักลอกโจรกรรมหลวงพ่อดำออกไปถึง 3 ครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะถูกอัญเชิญตามกลับมาได้ทุกครั้งจนเป็นข่าวดังไปยุคหนึ่งพร้อมทั้งมีการลือว่าคนที่ขโมยมักมีอันเป็นไปได้รับเรื่องทุกข์สุดสาหัสทุกคนเลยค่ะ ยิ่งทำให้ชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาเคารพเลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าเดิมในสมัยรัชกาลที่ 3 เจ้าสัวเนียมพ่อค้าชาวบางกอกเชื้อสายจีนได้มาเป็นแม่กองควบคุมงานอิฐเพื่อนำไปสร้างศาสนสถานในกรุงเทพมหานครเห็นวัดนี้ทรุดโทรมจึงบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถอีกครั้งโดยตกแต่งรอบซุ้มหน้าประตูวัดประตูหน้าต่างด้วยปูนปั้นรวดลายดอกไม้อ่อนช้อยงดงามตามที่นิยมในยุคนั้น และยังสร้างเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองสูง 7 เมตรไว้นอกอุโบสถทั้งสี่มุมซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่เดิมมีสีขาวด้านในสภาพผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานทำให้เกิดการแตกหักบ้างจนพวกพวกเรายังสังเกตเห็นว่าองค์เจดีย์ก่อด้วยอิฐมอญสีแดงส้มด้านในที่เคยถูกผลิตในย่านนี้ค่ะ ต่อมาวัดแสงสิริธรรมจึงมีสถานะเป็นวัดโบราณที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรในพื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน 55 ตารางวา และสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี ได้ดำเนินการบูรณะอุโบสถอีกครั้งในปี พ.ศ. 2545ศูนย์อาหารวัดแสงสิริธรรมอยู่ด้านข้างของพระอุโบสถฝั่งซ้ายมือมีชาวบ้านในท้องถิ่นเปิดร้านขายอาหารภายในวัดใกล้ ๆ ท่าน้ำเจ้าพระยาอย่างร้านอาหารตามสั่ง ร้านอาหารอีสาน ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านเครื่องดื่มเย็นหรือน้ำปั่นทุกท่านสามารถแวะอุดหนุนได้ในราคาเป็นกันเองหากมาในวันเสาร์อาทิตย์จะมีร้านขายผักผลไม้มาเพิ่มเติมด้วยนะคะ หากคุณผู้อ่านที่น่ารักแวะมาย่านปากเกร็ดนนทบุรีเมื่อไหร่มูนาขอแนะนำให้ลองมาเยือนวัดแสงสิริธรรมอีกหนึ่งวัดที่มีมนต์ขลังฝั่งตรงข้ามเกาะเกร็ดผู้คนไม่พลุกพล่านมีบริการเรือข้ามฟากเจ้าพระยาหรือจะให้อาหารปลาทำทานที่ท่าน้ำของวัดชิล ๆ อิ่มบุญ อิ่มกาย อิ่มใจ มูทั่วไทยไปกลับเรานะค้า ปีนี้ปีไหนก็ขอให้ชีวิตปัง ๆ ทรงพลังกันถ้วนหน้าเลยจ้าเวลาทำการ: ทุกวัน 07.00 - 16.00 น.ที่ตั้ง: ซ.บ้านท่าอิฐ-บ้านไทรม้า ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พิกัดภาพปก/ประกอบ: ผู้เขียน (Moona K)ติดต่อพูดคุยกับผู้เขียนได้ที่: Facebook Fanpage: Moona Kติดต่อบริการเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัดรอบเกาะเกร็ด: 081 854 8818 (คุณพรเทพ)บทความอื่น ๆ ในปากเกร็ดที่แนะนำโดยผู้เขียน (มูนาพาไปมู)วัดฉิมพลีสุทราวาส สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรีวัดไผ่ล้อม@เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี อีกหนึ่งวัดดีที่ควรมาเยือนวัดเสาธงทอง ขอพรศาลสองกุมารใต้ต้นยาง 200 ปี @เกาะเกร็ด จ.นนทบุรีวัดบางจาก จ.นนทบุรี ก็มีวัดดังเสริมดวงให้ปังต้องมนต์ขลังเมืองปากเกร็ดวัดเชิงเลน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีวัดดีที่ปีนี้หรือปีไหนต้องมาไหว้ขอพรพุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์ (กราบหลวงพ่อเสือที่เลื่องลือความศักดิ์สิทธิ์) อ.เมือง จ.นนทบุรี เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !