เพลงกล่อมลูก: บทเพลงแห่งความรักจากก้นบึ้งของหัวใจแม่กล่าวกันมาว่า บทเพลงที่เก่าแก่และมีอายุยาวนานมากที่สุด นับตั้งแต่ที่มนุษย์ยังไม่มีภาษาพูด และยังไม่รู้จักการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรก็คือ “เพลงกล่อมลูก” ซึ่งแม้จะมีวิวัฒนาการมาจากการเห่กล่อมด้วยกิริยาท่าทาง ได้แก่ การโอบอุ้มหรือโอบกอดลูกอย่างรักใคร่ทะนุถนอมและส่งเสียงอือ ๆ ออ ๆ อยู่ในลำคอ กระทั่งพัฒนามาเป็นเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ที่ฟังดูคล้ายกับเสียงดนตรี จนในที่สุดเมื่อเริ่มมีภาษาพูด เพลงกล่อมลูกแบบง่าย ๆ ก็บังเกิดขึ้นแตกต่างกันไปตามภาษาพูดของแต่ละชนชาติ และวิวัฒนาการเรื่อยมาจนปัจจุบัน ดังนั้น ถ้าจะถามว่าเพลงกล่อมลูกมาจากไหน คำตอบที่ดีที่สุดก็น่าจะมาจาก “ความรักจากก้นบึ้งของหัวใจแม่” นั่นเองรูปภาพจาก : https://pixabay.com/th/เพลงกล่อมเด็กหรือเพลงกล่อมลูกถือเป็น “วรรณกรรมมุขปาฐะ” หมายถึง วรรณกรรมที่มีการถ่ายทอดกันมาโดยการบอกต่อ ทำให้ลักษณะของเพลงกล่อมลูก จึงเป็นเพียงกลอนชาวบ้านที่ไม่มีฉันทลักษณ์ที่เป็นแบบแผนแน่นอน อาศัยว่ามีสัมผัสคล้องจองกันบ้าง ซึ่งบางครั้งบางถ้อยคำก็อาจไม่มีความหมายใด ๆ เลย แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรมพื้นบ้าน และเอกลักษณ์ของชุมชนในแต่ละท้องถิ่น แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการสะท้อนถึงความรักความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูกรูปภาพจาก : https://pixabay.com/th/ลักษณะของเพลงกล่อมเด็กหรือเพลงกล่อมนอน โดยทั่วไปจึงมีท่วงทำนองที่เนิบช้า เน้นเสียงทุ้มเย็นและไพเราะอ่อนหวาน ยึดคำแต่ละคำให้เชื่อมกลืนกันไปไม่ให้มีเสียงสะดุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เด็กได้นอนหลับสนิทที่จะส่งผลดีต่อพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ส่วนชื่อเรียกและเนื้อร้องจะแตกต่างกันไปตามบริบทของท้องถิ่น โดยในภาคกลางจะมีเพลงกล่อมลูกที่รู้จักกันดีคือ เพลงกาเหว่า เพลงวัดโบสถ์ และเพลงขนมแฉ่งม้า ส่วนภาคเหนือจะเรียกเพลงกล่อมลูกว่า “เพลงอื่อลูก” เน้นใช้เสียงสูงต่ำตามเสียงของวรรณยุกต์เป็นสำเนียงของทางภาคเหนือ มักขึ้นต้นเพลงด้วยคำว่า “สิกจุ้งจาโหน” หรือคำว่า “อื่อจา” มีเพลงกล่อมที่สำคัญคือ เพลงสิกก้องก๋อ เพลงสิกจุ่งจา และเพลงฝนตกสุยสุย เป็นต้นรูปภาพจาก : https://pixabay.com/th/สำหรับเพลงกล่อมลูกของภาคอีสาน จะมีลักษณะเด่นที่เนื้อหาซึ่งบ่งบอกถึงความจริงใจและความสนุกสนาน ลีลาเรียบง่าย ใช้กลุ่มเสียงซ้ำ ๆ กันทั้งเพลง การใช้ถ้อยคำจะมีเสียงสัมผัสคล้ายกลอนสุภาพทั่วไป แต่เป็นคำพื้นบ้านที่มีความหมายในเชิงสั่งสอนลูกหลานด้วยความรักความผูกพัน มักเรียกเพลงกล่อมลูกว่า “เพลงนอนสาหล่า” หรือ “นอนสาเดอ” โดยมีเพลงกล่อมที่สำคัญคือ เพลงก่อมลูกและเพลงนอนสาเด้อ ส่วนเพลงกล่อมลูกในภาคใต้นั้น จะมีสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งมีทำนองและลีลาเด่นเป็นของตนเอง มักขึ้นต้นเพลงด้วยคำว่า “ฮา เอ้อ” หรือมีคำว่า “เหอ” แทรกอยู่ในวรรคแรกของบทเพลงเสมอ การขับกล่อมจะเป็นไปอย่างช้า ๆ เหมือนภาคอื่น มักเรียกเพลงกล่อมลูกว่า “เพลงชาน้อง เพลงเปล เพลงน้องนอน หรือเพลงร้องเรือ” และมีเพลงกล่อมที่สำคัญคือ เพลงรอกไต่ราวรูปภาพจาก : https://pixabay.com/th/แม้บทเพลงกล่อมเด็กหรือเพลงกล่อมลูกในแต่ละท้องถิ่นจะมีคำร้องและทำนองที่แตกต่างกันอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อแน่ว่าเหมือนกันคือเป็นบทเพลงที่แสดงถึงอารมณ์ ความรัก และความผูกพันระหว่างแม่กับลูกที่มีต่อกันอย่างซาบซึ้งบทความโดย : punpun_storyขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ : ภาพหน้าปก โดย blankita_ua / ภาพประกอบที่ 1 โดย darkside-550 / ภาพประกอบที่ 2 โดย darkside-550 / ภาพประกอบที่ 3 โดย 12019 / ภาพประกอบที่ 4 โดย GeorgeB2 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !