ในวัยเด็กทุกคนมีความฝัน ตั้งแต่เข้าเรียนชั้นอนุบาล คุณครูก็มักจะถามเด็ก ๆ ว่าโตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรตำรวจ ทหาร พยาบาล คุณหมอ คุณครู อาชีพในสายงานราชการมักจะถูกกล่าวถึงเป็นลำดับต้น ๆเมื่อโตขึ้น หลาย ๆ คนไปถึงฝั่งฝันตามที่ตนเองอยากจะเป็น ในขณะที่เด็ก ๆ จำนวนไม่น้อยก็ลืมความฝันตัวเองไปในยามที่โตขึ้น และแยกย้ายไปประกอบอาชีพอื่น ๆ อีกมากมายนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่มุ่งมั่นที่จะสอบงานราชการ ด้วยเหตุผลนานัปการ ทั้งความมั่นคง สวัสดิการในการดำรงชีพที่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยให้ตนเองหรือคนในครอบครัวได้วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเส้นทางสู่การเป็นข้าราชการพลเรือนกันภาพจาก pixabay.com ๑. เราจะต้องศึกษาจบในด้านใด ?เราต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่า อาชีพข้าราชการพลเรือน มีหลากหลายตำแหน่งมาก มีอยู่ในทุกกระทรวง ทุกกรม หรือแม้แต่ตามองค์กรอิสระต่าง ๆฉะนั้นเราจะต้องมีเป้าหมายในตัวเองก่อนว่า เราอยากทำงานราชการในสายไหน เช่น ถ้าอยากเป็นนักการฑูต ก็อาจจะต้องเรียนคณะทางด้านภาษาหรือรัฐศาสตร์ ถ้าอยากเป็นข้าราชการในกรมป่าไม้ เราก็อาจบะต้องเรียนทางด้านวนศาสตร์ อย่างนี้เป็นต้น ๒.หลังจากเรียนจบแล้วต้องทำอย่างไรต่อ?หลังจากจบการศึกษาแล้ว อันดับแรก เราจะต้องลงสมัครสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ภาค ก. ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เปิดรับสมัครสอบในทุก ๆ ปี ซึ่งเราสามารถเลือกสอบได้ทั้งหมด ๔ ระดับ ตามวุฒิที่เราเรียนจบได้แก่ ระดับ ๑) ปวช. ๒) ปวท.หรือ ปวส. ๓) ปริญญาตรี และ๔) ปริญญาโทรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครสอบสามารถเข้าดูได้ที่ http://job.ocsc.go.th/เมื่อสอบภาค ก. ผ่านแล้ว ทางสำนักงานก.พ. จะออกใบรับรองซึ่งถือเป็นใบเบิกทางก้าวแรกที่จะทำให้เราสามารถสมัครเข้าสอบแข่งขันในตำแหน่งข้าราชการพลเรือนซึ่งเราสนใจต่อไปได้ ๓. หลังจากสอบภาค ก ผ่านแล้วต้องทำอย่างไรต่อ ?หลังจากสอบภาค ก ผ่านแล้ว เราจะต้องรอข่าวประกาศรับสมัครสอบจากหน่วยงานราชการที่เราสนใจ โดยที่เราอาจกดติดตามข้อมูลในเพจ facebook ที่เกี่ยวข้องกับการสอบราชการ หรือตามเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ต่อมาหากหน่วยงานราชการเปิดรับสมัครสอบ ก็จะระบุประเภทตำแหน่ง ลักษณะงานคุณสมบัติของผู้สมัคร คุณวุฒิทางการศึกษาที่สมัครสอบได้ภาพจาก pixabay.com โดยการสอบในครั้งนี้จะเป็นการสอบความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่งหรือเรียกสั้น ๆ ว่า ภาค ข.การสอบภาค ข นี้จะเป็นการสอบเกี่ยวกับความรู้ในด้านงานที่เราจะต้องเข้าไปปฏิบัติจริง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคณะที่เราได้เล่าเรียนมา ลักษณะข้อสอบก็อาจมีทั้งปรนัยหรืออัตนัยก็ได้ ซึ่งหากสอบผ่านภาค ข แล้วก็จะมีสิทธิเข้าสอบภาค ค ซึ่งเป็นด้านสุดท้ายสำหรับนักล่าฝันทุกท่านภาพจาก pixabay.com ๔. การสอบภาค ค คืออะไร ?การสอบภาค ค คือ การสอบความเหมาะสมกับตำแหน่ง หรือเรียกง่าย ๆ ว่าสอบสัมภาษณ์นั่นเองด่านสุดท้ายนี้ จะเป็นด่านที่คณะกรรมการได้พูดคุยสอบถามเรา เพื่อทดสอบไหวพริบปฏิภาณ อารมณ์ ทัศนคติ และได้เห็นบุคลิก ท่าที การพูดจาของเรา ว่าเป็นอย่างไร พร้อมกับให้คะแนนในส่วนนี้ ๕.หลังจากสอบภาค ค เสร็จแล้วทำอย่างไรต่อ ?ภายหลังสอบภาค ค เสร็จแล้ว หน่วยงานที่เปิดสอบก็จะดำเนินการรวมคะแนนในส่วนของภาค ข และ ภาค ค (ไม่รวมภาค ก ด้วย เพราะภาค ก มีแค่ผ่านหรือไม่ผ่านเท่านั้น)เมื่อรวมคะแนนเรียบร้อยแล้วก็จะขึ้นบัญชีผู้ที่สอบได้โดยเรียงจากผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงที่สุดลงไป จากนั้นหน่วยงานจะเรียกตัวผู้สอบแข่งขันได้มารายงานตัวเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตามอัตรากำลังคนที่หน่วยงานต้องการ ๖. ผู้ที่สอบผ่านแต่ไม่ถูกเรียกบรรจุจะต้องสอบใหม่หรือไม่ ?สำหรับผู้ที่ขึ้นบัญชีสอบผ่านในลำดับหลัง ๆ หากหน่วยงานมีตำแหน่งว่างเพิ่มก็จะเรียกมารายงานตัวเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตามลำดับต่อไป โดยบัญชีผู้สอบผ่านจะมีอายุ ๒ ปีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหากครบกำหนดหน่วยงานก็จะยกเลิกบัญชีผู้สอบผ่านบัญชีเดิม แล้วเปิดรับสมัครสอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งผู้ที่อยู่ในลำดับท้าย ๆ ก็อาจจะต้องลุุ้นกันเหนื่อยหน่อย ระหว่างนี้อาจจะต้องทำบุญบ่อย ๆ และหาสอบในที่อื่นไปด้วยเรียกได้ว่า กว่าจะได้เป็นข้าราชการไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับคนที่มีความตั้งใจ หากเรามีความพยายามความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม