อาหารไทยมีหลายอย่างที่สามารถรับประทานเป็นกับข้าว หรือกับแกล้มได้ในเวลาเดียวกัน จะว่าไปแล้วคนส่วนใหญ่ชอบอาหารรสจัดจ้าน ซึ่งช่วยเจริญอาหารได้ดี โดยเฉพาะอาหารประเภทปิ้งย่าง พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด รับประทานกับผักสด ๆ เรียกว่าแซ่บเสียจนเอาอะไรมาแลกก็ไปยอม และครั้งนี้ผู้เขียนขอนำเสนอเมนูเด็ด จนเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วไป ผู้เขียนเคยทำมาแล้วจึงได้ทำการแจกสูตร เมนูเสือร้องไห้ รับรองว่าทำแล้วแซ่บจนลืมอิ่ม อีกทั้งวิธีการทำก็ง่าย ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เสือร้องไห้ คือ การนำเนื้อวัวตรงส่วนอกที่มีส่วนติดมัน มาแล่เป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปย่างบนเตาไฟจนสุกพอดี หรือบางคนก็จะย่างแบบน้ำตก คือกึ่งสุกกึ่งดิบก็ได้ แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล นอกจากสูตรการหมักแล้ว ผู้เขียนยังแจกสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดแบบแซ่บ ๆ สำหรับรับประทานคู่กับเสือร้องไห้ ว่าแล้วเรามาทำกันเลยค่ะ เนื้อวัวส่วนอกสำหรับทำเสือร้องไห้ วัตถุดิบและส่วนผสม ส่วนผสมของเนื้อหมัก เนื้อวัวส่วนหน้าอกติดมัน 500 กรัม น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมหมักเนื้อ วัตถุดิบและส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำตาลโตนดบด 1 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ เนื้อมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำอุ่น 3 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 1 หัว พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศ 1 ลูก ผักชีใบเลื่อยหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ ผักสดสำหรับเป็นเครื่องเคียง ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว การหมักเนื้อ 1. นำเนื้อวัวมาล้างแล้วแล่ออกเป็นชิ้นขนาดความหนา 1 เซนติเมตร ใส่ชามไว้ 2. นำน้ำตาลโตนดมาโขลกด้วยครกให้แตก จากนั้นตักใส่ถ้วยเอาไว้ หมักเนื้อ 3. นำน้ำปลาเทใส่ลงไปในถ้วยน้ำตาลโตนด ผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทลงไปชามเนื้อ คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน 4. นำเนื้อที่หมักไปแช่ในตู้เย็นตรงช่องธรรมดา แช่เอาไว้ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ระหว่างที่รอให้เนื้อเข้ากับเครื่องปรุง เรามาทำน้ำจิ้มแจ่วกันเลยค่ะ การทำน้ำจิ้มแจ่ว 1. นำข้าวสารไปคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนเหลืองหอม จึงตักออกมาแล้วใส่ลงไปในครก ข้าวคั่วในกระทะ 2. ตำข้าวคั่วให้ละเอียด จากนั้นตักใส่ถ้วยเอาไว้ ตำข้าวคั่ว 3. นำเนื้อมะขามเปียกใส่ลงไปในถ้วย แล้วเอาน้ำอุ่นเทลงไป แช่สักพัก จากนั้นบดด้วยช้อน เพื่อให้ได้น้ำมะขามเปียกตามที่ต้องการ 4. ล้างมะเขือเทศให้สะอาด แล้วหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ หรือจะซอยให้ละเอียดก็ได้ จากนั้นนำไปใส่ถ้วยพักไว้ 6. ล้างหอมแดง พร้อมกับหั่นเป็นแว่น ๆ และนำไปใส่ถ้วย 7. ล้างต้นหอมกับผักชีใบเลื่อยให้สะอาด แล้วหั่นฝอย ใส่ถ้วยพักไว้ 8. นำถ้วยใบขนาดกลาง ๆ มา 1 ใบ จากนั้นใส่น้ำตาลทราย น้ำตาลโตนด น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก ผสมรวมกัน ชิมรสตามต้องการ 9. ใส่ข้าวคั่ว คนให้ผสมกัน ตามด้วยมะเขือเทศที่หั่นเอาไว้ ผสมเข้าด้วยกัน และโรยด้วยต้นหอมซอย ผักชีใบเลื่อยซอย แล้วตักใส่ถ้วยแบ่ง เตรียมเสิร์ฟ ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว สามารถเพิ่มได้ตามความต้องการ ว่าชอบให้รสใดนำก็ใส่รสนั้น มากกว่าอัตราส่วนที่ให้ไว้ น้ำจิ้มแจ่ว การย่างเนื้อ 1. ติดเตาถ่าน เกลี่ยไฟให้ทั่วถึง โดยใช้ไฟอ่อน ๆ ไม่ร้อนมาก จากนั้นนำเนื้อที่หมักวางลงตะแกรงเหนือเตาไฟ ค่อย ๆ ย่างอย่างใจเย็น จนเนื้อสุกตามต้องการ ย่างเนื้อ 2. นำเนื้อที่ย่างไปหั่นบนเขียง แล้วจัดใส่จาน 3. เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วและผักสด เสือร้องไห้กับน้ำจิ้มแจ่ว เคล็ดลับ บางคนบอกว่าเนื้อวัวเหนียว แต่เรามีวิธีที่จะไม่ให้เนื้อเหนียว นั่นก็คือ แล่เนื้อสวนทางกับลายเนื้อ โดยให้เส้นใยขาดออกจากกัน เนื้อจึงไม่เหนียว การหมักเนื้อ จะต้องขยำเนื้อกับส่วนผสมให้เข้ากัน โดยขยำนาน ๆ ให้เนื้อนิ่ม แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเอาไว้ ก่อนจะนำไปย่าง ถ้าจะย่างให้หอม ควรนำใบตองไปวางเอาไว้บนตะแกรงแล้ววางชิ้นเนื้อทับลงไป กลิ่นของใบตองเมื่อถูกไฟจะมีความหอม และเนื้อไม่ถูกไฟทำให้ไม่ไหม้ อีกทั้งน้ำของเนื้อกับส่วนผสมที่ไหลออกมาไม่หยดลงบนถ่าน กลิ่นจะคลุกเคล้าอยู่บนใบตอง เพิ่มความหอมและอร่อยยิ่งขึ้น เป็นไงคะเมนูเสือร้องไห้ ทำได้ไม่ยากเลย เมื่อทำเสร็จแล้ว อร่อยเด็ด และแซ่บจนลืมอิ่มเลยค่ะ ลองทำกันนะคะ จรรยา เลิศพงษ์ไทย รูปหน้าปก และรูปประกอบบทความ เป็นรูปของผู้เขียน สูตรเด็ด เคล็ดลับความอร่อย ติดตามได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !