เมื่ออายุย่างเข้าหลักเลขสาม สาว ๆ หลายคนคงจะรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายและผิวพรรณนั้นเปลี่ยนไป หลัก ๆ เลยก็คือ ต่อมน้ำมันบนใบหน้าของเราไม่ทำงานเยอะเท่าแต่ก่อน ทำให้ผิวเริ่มแห้งง่ายขึ้น ปรากฏริ้วรอยเหี่ยวย่นจาง ๆ บางคนที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งบ่อย ก็จะเจอฝ้ากระและเม็ดสีไม่สม่ำเสมอ ที่รักษาหายไปได้ยากกว่าตอนยังวัยรุ่น แถมโลกการทำงานก็ช่างโหดร้าย ทำให้สาวออฟฟิศต้องนอนดึก ดื่มคาเฟอีน ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมออีก ฮือ...เป็นเสียแบบนี้ ปล่อยไว้นานคงไม่ไหว ขอพึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงความงามมาเป็นตัวช่วยหน่อยนะคะ สำหรับของที่เลือกมาในวันนี้ ทั้งหมด 4 รายการ เราได้ทดลองใช้มาต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 รู้สึกว่าชอบเป็นพิเศษ ราคาย่อมเยาคุ้มกับคุณภาพ และหาซื้อได้ง่ายตามร้านเครื่องสำอางและร้านขายยาทั่วไป (ตอนนั้นเราซื้อจากร้านวัตสันค่ะ) จึงจะขอรีวิวทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ แต่โดยรวมข้อเสียมันเล็กน้อยมากเลย แนะนำให้ลองทุกตัวค่ะ 1. Olay Regenerist Micro Sculpting Cream ยกให้เป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ ที่สุดแห่งความว้าว มีสารสำคัญทุกชนิดในระดับเดียวกับเคาน์เตอร์แบรนด์หรู ๆ แต่ราคาแสนถูกกว่ามากมาย เช่น โปรตีนอะมิโนเปปไทด์ ซ่อมแซมผิว, ผลคารอป ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก, สารสกัดน้ำมันมะกอก ต้านอนุมูลอิสระและพาครีมแทรกซึมลึก, ไนอาเซนาไมด์ (เป็นรูปหนึ่งของวิตามินบี 3) ลดรอยบวมแดง สิว รูขุมขนกว้าง ฯลฯ สรุปคือมีสารบำรุงผิวทุกด้านเลยค่ะ แต่จะเน้นช่วยเรื่องริ้วรอยเป็นหลัก ให้ความชุ่มชื้น กระชับ นวลเนียน โบกก่อนนอนมันช่วยลดอายุได้จริง คือตั้งแต่สัปดาห์แรก ตีนกาเราที่เริ่ม ๆ จะเป็น มันเลือนหายไปเลยค่ะทุกคน! ตื่นมาทุกเช้ารู้สึกผิวหน้านุ่มแต่ไม่เหนอะหนะ แต่งหน้าก็ง่าย เราคิดว่าจะเป็น loyal customer ซื้อใช้ไปตลอดเลยค่ะ ข้อเสีย เนื้อสัมผัสเวลาทาเสร็จสักพัก ถ้าบังเอิญไปถูโดน บางทีจะหลุดออกมาเป็นเหมือนขี้ยางลบ คิดว่าถ้าใครชอบแบบใส ๆ ซึม ๆ น่าจะลองผลิตภัณฑ์ตระกูลนี้ตัวที่เป็นน้ำเซรั่มนะคะ ราคา 999 บาท (แต่มีโปรโมชั่นลดราคาบ่อย) ซื้อได้ที่ https://www.watsons.co.th/โอเลย์รีเจนไมโครสคัสปติ้งครีม-50ก./p/BP_210695 2. SoS Hyaluron X3 Concentrate Serum จิ๋วแต่แจ๋ว คือนิยามของน้อง Stories of Skin หรือที่คนญี่ปุ่นเขาเรียกว่า เอสึโอเอสึ เป็นเซรั่มใสขวดน้อยน่ารัก พกพาสะดวก กลางวันใช้ทาเตรียมผิวก่อนเริ่มลงเครื่องสำอาง ส่วนกลางคืนก็ไว้ทาก่อนนอนก่อนจะทาไนท์ครีม เพิ่มกำลังความนุ่มฟูให้ผิวของเรา จุดแข็งที่เราชอบมาก ๆ คือมันใช้คุ้ม เนื่องจากสามารถทาได้ทุกส่วน ไม่ว่าทาริมฝีปากให้กลับมาอวบอิ่ม ลิปสติกติดทน หรือทาเล็บและจมูกเล็บ ข้อศอก เข่า หนังศรีษะ รอบดวงตา อารมณ์คล้าย ๆ ยาครอบจักรวาลเลยค่ะ และไม่เหนียวไม่มัน เพราะทาปุ๊บซึมแห้งไปเลยทันที ที่สำคัญ ไร้สีไร้กลิ่น คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบาย ข้อเสีย นอกจากเรื่องล็อคความชุ่มชื้น สร้างผิวอิ่มน้ำ ไม่เห็นผลด้านอื่นเลยค่ะ ดังนั้นนับว่าดี แต่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์จำเป็น ถ้าสาว ๆ ไม่ได้มีปัญหาหน้าแห้งมาก อยากประหยัดหรือตัดขั้นตอนการบำรุงให้เร็วขึ้น ก็ข้ามตัวนี้ไปได้ ทาครีมเฉย ๆ พอ อีกอย่าง แบรนด์นี้เคลมว่าสามารถใช้เซรั่มหยดผสมกับรองพื้นหรือเครื่องสำอางอื่น ๆ แต่เราว่าไม่เวิร์คเสมอไปค่ะ มันทำให้เนื้อของรองพื้นบางตัวเละไปเลย ราคา 199 บาท ซื้อได้ที่ https://www.watsons.co.th/เอะสึ-โอ-เอะสึ-ไฮยาลูรอน-เอ๊กซ์-3-คอนเซ็นเทรท-เซรั่ม-10มล./p/BP_280388 3. Bioderma Sensibio H2O มาต่อกันที่แบรนด์กอบกู้ผิวในตำนาน เจ้าขวดฟ้าฝาเขียวที่ช่วยชีวิตสาว ๆ หลายต่อหลายคนมาตั้งแต่สมัยสิวบุกช่วงวัยรุ่น จนกระทั่งเข้าวัย 30 ก็เปลี่ยนมาใช้สีชมพูกันนะคะ มันเป็นคลีนซิ่งวอเตอร์สูตรไมเซล่า แต่เชื่อหรือไม่ว่าเป็นสกินแคร์สายบำรุงด้วยล่ะ เพราะว่านอกจากสามารถเช็ดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางออกได้เกลี้ยงแล้ว น้ำใช้เป็นโทเนอร์กับสเปรย์เซ็ตเครื่องสำอางได้ในตัวไปเลย คงค่า ph เป็นกรดอ่อน ๆ เหมือนสมดุลผิวธรรมชาติ ยังสามารถสร้างชั้นฟิล์มไฮโดรไลปิด (ปกติต่อมเหงื่อและต่อมน้ำมันจะผลิตออกมาคลุมหนังกำพร้าของเราบ้าง) เพื่อปกป้องผิวจากแบคทีเรีย เชื้อรา และทำให้ผิวอ่อนนุ่ม บางวันเราขี้เกียจมาก ๆ สารภาพว่ากลับมาบ้านก็เช็ดเครื่องสำอางด้วยตัวนี้แล้วนอนเลยค่ะ ไม่ต้องล้างน้ำตามหรือทำอะไรเลย หน้าก็ยังไม่พังแน่ะ! แหม ของเขาทรงอิทธิฤทธิ์จริงอะไรจริง เราเห็นว่าเหมาะจะนำติดตัวไปทริปนั่งเครื่องบินที่ไม่มีน้ำล้างหน้า หรือสถานที่คลุกฝุ่นนอนกลางดินกินกลางทรายด้วยค่ะ เช็ดและบำรุงพร้อมกันทีเดียวจบ ข้อเสีย เนื่องจากใช้กับสำลีแผ่นเช็ดหน้า ถ้าสาว ๆ เช็ดถูรุนแรงเกินไป หรือชุบสำลีไม่เปียกชุ่มพอแล้วมันฝืด ก็อาจทำให้ผิวหน้าเหี่ยวย่นได้ ราคา 390 บาท ซื้อได้ที่ https://shop.bioderma.co.th/shop/by-category/cleansing/sensibio-h2o-100-ml.html 4. Facy Aloevera Snail Soothing Facial Tissue Mask ตอบโจทย์ผิวสาววัย 30 ที่ต้องการทั้งความชุ่มชื้นล้ำลึก และการบรรเทาผลกระทบจากแสงแดดซึ่งทำร้ายเราได้มากกว่าเมื่อก่อน เพราะว่ามาสก์ตัวนี้มีทั้งสารสกัดสควอเล็นจากอ้อย ว่านหางจระเข้ และเมือกหอยทาก วันไหนเราไปออกแดดมานี่ กลับมาแค่แปะหน้าก็ผ่อนคลายฟิน ๆ เลยค่ะ ผิวหายแสบ หายหยาบกร้าน รู้สึกว่าช่วยให้หน้าไม่คล้ำแดดด้วย ถือเป็น After-sun product ที่ได้ผลดี สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของมาสก์นี้คือว่า มันสามารถสมานแผลให้หายเร็ว ดังนั้นเราเป็นแผลสิว หรือมีรอยผิวถลอกจากการล้วงแคะแกะเกา แปะแล้ววันรุ่งขึ้นแผลจะดีขึ้นมากเลยค่ะ ลดอาการอักเสบลุกลาม สำหรับคนมือซนอย่างเราก็เลยถูกใจ เพราะอายุมากขึ้นแล้วแผลต่าง ๆ มันหายเองช้าลงจริง ๆ นะ ข้อเสีย ส่วนตัวนึกไม่ออกค่ะ แต่มีเพื่อนเราหลายคนไม่ยอมใช้ เพราะเห็นเจ้าหอยทากแล้วขยะแขยง แหะ ๆ แบรนด์อาจจะต้องปรับเปลี่ยนภาพบนซองหน่อยค่ะ ราคา 59 บาท ซื้อได้ที่ https://www.tops.co.th/en/facy-aloevera-snail-soothing-facial-tissue-mask-21g-8857100131330 เปรียบเทียบเนื้อสกินแคร์ทั้ง 4 ตัว ตามภาพนี้นะคะ เราคัดมาเป็นเนื้อใสทั้งหมดเลย ไม่มีแต่งสีสวยงามแบบของวัยรุ่นแล้ว เพราะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใหญ่ และก็สรุปวิธีใช้งานให้ดูง่าย ๆ ค่ะ อย่างไรก็ดี สาว ๆ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายนอกแล้ว ก็ต้องบำรุงจากภายในเช่นเดียวกันนะคะ รับประทานอาหารสดใหม่ที่มีสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีวิตามิน และเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนกับคอลลาเจนสูง รวมถึงดื่มน้ำ ออกกำลัง และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อคงความงามอ่อนเยาว์ตามธรรมชาติอยู่เสมอ ขอให้ช่วงเลขสามของทุกคนเต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จค่ะ รูปภาพประกอบทั้งหมด โดยนักเขียน