สวัสดีค่ะเพื่อนๆ...วันนี้ขอแนะนำหนังสือ ที่พาเราเข้าสู่ความดีงามในจิตใจ พร้อมความหวังที่สว่างไสวไม่แพ้กัน "ให้ความหวังนำทางเรา""อย่างไหนจะดีกว่ากันคะ ระหว่างการอดทนอยู่กับความว่างเปล่า หรือการย้ายไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น""ไม่มีอะไรดีกว่ากันหรอก เราตัดสินใจเลือกอะไรสิ่งนั้นมันคงดีเสมอ ถ้าเรามีความอดทนมากพอ" ให้ความหวังนำทางเรา เป็นเรื่องราวของนักวิจัยสาวชาวไทย ที่ออกเดินทางเพียงลำพังเพื่อสำรวจชีวิตผู้คนในเมืองต่างๆ หลังประสบภัยพิบัติสึนามิที่ญี่ปุ่นในปี 2011 ท่ามกลางซากปรักหักพัง ที่ดูเหมือนไม่มีความหวังอะไรในนั้น แต่กลับมีเรื่องราวที่ซาบซึ้ง น่าประทับใจ และแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรม, ความเข้มแข็ง, ความมั่นคงในจิตใจของชาวญี่ปุ่น และการใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความหมายและมีความหวัง "จะข้ามฝั่งน้ำตา อย่ามัวละล้าละลัง ร้อยคำถาม ล้านความผิดหวัง คำตอบก็ยังอยู่ที่ใจ" สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือความมีน้ำใจของชาวญี่ปุ่น ที่แม้จะอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก แต่ชาวญี่ปุ่นยังมีจิตใจที่งดงามต่อเพื่อนมนุษย์เสมอ แม้กับคนที่พวกเขาไม่รู้จักมาก่อน ดังเช่น คุณนายฮอนมะที่ทำข้าวปั้นห่อสาหร่ายให้นักวิจัยสาวนำติดตัวไปกินระหว่างทาง เมื่อครั้งที่เธอหลงทางจนมาเจอคุณนายฮอนมะ ก่อนจะเดินทางไป "เกาะทะจิโระชิมะ" หรือ "เกาะแมว" ซึ่งบนเกาะนั้นไม่มีร้านอาหารอยู่เลย ข้าวปั้นของคุณนายฮอนมะ เป็นแรงบันดาลใจให้เธอตั้งใจว่าต้องกลับมาเขียนชื่นชมในความมีน้ำใจของคุณนายฮอนมะให้ผู้คนได้รับรู้ว่า "แม้เราต้องสูญเสียอะไรในชีวิต ขอให้ยังคงความดีงามในหัวใจ ขอให้ความหวังสว่างไสวไม่แพ้กัน" ข้าวปั้นคุณนายฮอนมะ เป็นเรื่องที่เราซาบซึ้งและประทับใจที่สุด และมีอีกหลายเรื่องในหนังสือเล่มนี้ ที่ให้แง่คิด ให้มุมมองที่ดีในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในตอนที่เรารู้สึกว่า ชีวิตนี้ช่างไม่มีความหวังอะไรซะเลย อีกตอนหนึ่งที่เราอ่านแล้วรู้สึก มีพลัง มองเห็นแสงสว่าง และมีความหวังขึ้นมาจับใจ คือ "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้ยอมแพ้ มนุษย์ถูกทำลายได้ แต่ไม่แพ้ ไม่สิ้นหวัง ไม่ยอมแพ้ และไม่จำนนต่อโชคชะตา และนั่นจะพาชีวิตมนุษย์เล็กๆ คนหนึ่ง ไปสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ได้..." เราเชื่อว่า...แสงสว่างแม้เพียงเล็กๆ ในที่มืด แต่ก็สว่างพอที่ความหวังจะเกิดขึ้นได้ หากแสงสว่างเล็กๆ เหล่านั้นรวมกันเป็นแสงนำทาง ส่องทางให้กัน มีความรัก ความเข้าใจ ความเห็นใจ ความห่วงใย ความช่วยเหลือเกื้อกูล ตามกำลังความสามารถ ไม่ยอมจำนนต่อความยากที่ผ่านเข้ามา แสงสว่างเล็กๆ เหล่านั้น ก็จะพาเราก้าวข้ามผ่านช่วงเวลามืดมิดนี้ไปได้ด้วยกัน กับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราในตอนนี้ เราอยากชวนเพื่อนๆ ให้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้กัน เป็นกำลังใจให้กันและกัน และเริ่มต้นใหม่ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง คงไว้ซึ่งความดีงาม อย่างมีความหวังไปด้วยกัน "เดินบนทางที่เลือก ต่อให้เหนื่อยก็มีความสุข ต่อให้สูญเสียก็ยังภูมิใจ ว่าเราไม่ได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตา""ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่ทุกคนสามารถนำส่วนที่ดีของตนเองมาร่วมมือ ร่วมแรงกัน ทำสิ่งที่ดี เพื่อสังคมได้""เราจะเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งจากตรงนี้ ไปสู่อะไรก็ตามแต่ที่วันเวลาจะนำมา และขอให้ความหวังนำทางเรา" ขอให้มีความสุขกับการอ่านหนังสือเล่มนี้ สะสมแสงสว่างและมีความหวังอยู่เสมอนะคะติดตามแฟนเพจผู้เขียนได้ที่ : facebook.com/angrindiary