คนไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างชาติไทย ประเพณี วัฒนธรรม ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีมาจากศาสนาอื่นบ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อย อีกทั้งความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิตในประจำวัน ตลอดจนความทุกข์ เดือดเนื้อร้อนใจ เรามักมีที่พึ่งโดยอาศัยหลักธรรม คำสอนทางพระพุทธศาสนา มาดับทุกข์นั้น ๆ แต่รากฐานทางพุทธศาสนาเริ่มต้นมาจาก พระศาสดา คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกาศศาสนาพุทธ ให้ชาวโลกได้ประจักษ์ ณ แดนชมพูทวีป ซึ่งปัจจุบันก็คือแถบประเทศอินเดียนั่นเอง หลายคนอาจจะเห็นว่าไกลตัวเพราะอยู่ต่างประเทศ แต่ปัจจุบันประเทศไทยมีสังเวชนียสถานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าอยู่หลายที่ หนึ่งในนั้นคือ วัดปัญญานันทาราม ที่เราจะพาไปเยี่ยมชมกันในครั้งนี้นั่นเอง วัดปัญญานันทาราม ตั้งอยู่ที่ ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี การเดินทางในวันนี้เราใช้รถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากที่พักอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก ขับรถประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง อากาศไม่ถึงกับร้อนมาก แต่แดดก็ค่อนข้างแรงพอสมควร เมื่อเข้ามาภายในบริเวณวัด สิ่งที่โดดเด่นและเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็ปรากฎกับสายตา พุทธคยาจำลอง หนึ่งในพุทธสถานแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สวยงาม เข้มขลัง เสมือนจริง ณ วัดปัญญานันทารามนั้น มีสังเวชนียสถาน จำนวน 4 ตำบล ตอนแรกก็งงว่า 4 ตำบลคืออะไร ด้วยความที่ไม่ค่อยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติมากนัก ท่านผู้รู้ที่ประจำอยู่บริเวณทางเข้าพุทธคยาจำลอง ได้เมตตาให้คำอธิบาย คำว่า 4 ตำบลก็คือ สังเวชนียสถาน 4 แห่ง ที่ทำให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า มีดังนี้ ตำบลที่ 1 คือสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า หรือเรียกกันว่า ลุมพินีวัน สัญลักษณ์คือเสาหินอโศก เบื้องหน้าเสาอโศกมีพระพุทธเจ้าน้อยชี้นิ้วขึ้นฟ้า ตำบลที่ 2 คือ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าหรือพุทธคยา ไฮไลท์ของที่นี่นั่นเอง จุดนี้เป็นจุดที่มีพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยว นิยมมาถ่ายรูปและเยี่ยมชมมากที่สุด และมีการนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์จนทำให้วัดปัญญานันทารามเป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้านในจะมีพระพุทธรูปที่มีชื่อว่าพระพุทธเมตตา เป็นประธานอยู่ด้านในให้กราบสักการะ และบริเวณชั้นล่างของพุทธคยายังจัดแสดงภาพ 3 มิติ ที่สวยงามและสอดแทรกคติธรรมทางพระพุทธศาสนา ให้ประชาชนได้อ่านศึกษาและเสพงานศิลป์อีกด้วย มาต่อกันที่ตำบลที่ 3 สถานที่แสดงปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า จุดนี้จะอยู่ด้านในของวัด บริเวณลานหินโค้ง ซึ่งลานหินโค้งนี้จะใช้จัดกิจกรรมทางศาสนาของวัด เช่น กิจกรรมเข้าวัดวันอาทิตย์ ฟังธรรมเทศนา หรือพิธีบวชต่าง ๆ บริเวณนี้จะมีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา เป็นประธานอยู่ตรงศูนย์กลางลานหินโค้ง ที่รายล้อมไปด้วยร่มไม้คล้ายอยู่ในป่าสมัยพุทธกาล จบจากจุดนี้ เราไม่ได้ไปตำบลที่ 4 สถานที่แห่งการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เพราะไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงจุดใดของวัด แต่ทราบจากท่านผู้ให้คำแนะนำที่เราเจอตั้งแต่ทางเข้าว่า ตำบลที่ 4 นี้ มีพระพุทธรูปปางปรินิพพานของพระพุทธเจ้าให้กราบสักการะ และระลึกถึงคุณแห่งพระพุทธเจ้า ซึ่งแสดงให้เห็นสัจธรรมที่ว่า แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ก็ไม่สามารถอยู่เหนือกฎนี้ได้ ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา ที่วัดปัญญานันทารามแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมที่สงบ สัปปายะ เพราะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ขณะที่เราไปเยี่ยมชม ก็มีพุทธศาสนิกชนมาปฎิบัติธรรมจำนวนมาก การมาวัดปัญญานันทารามในครั้งนี้ แตกต่างจากการไปวัดอย่างที่ผ่าน ๆ มา ที่ส่วนมากเข้าไปไหว้พระ ทำสังฆทาน หยอดตู้บริจาค เติมน้ำมันตะเกียง หรือขอพรพระเพื่อให้ประสบแต่ความโชคดี แต่สถานที่นี้มีหลายอย่างให้เราใช้สติพิจารณามากกว่านั้น ถือเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาสมดังชื่อวัด คือ วัดปัญญานันทาราม สถานที่ที่ทำให้เกิดปัญญา Cr : ภาพประกอบโดยนักเขียน Empty Ao