คนเป็นป้าอย่างดิฉัน เมื่อถึงวันหยุด ( ก่อนจะเกิด COVID ๑๙ ) ก็จะหาสถานที่พาหลานฝาแฝดน้องเก้ากับน้องสิบไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา ส่วนใหญ่สถานที่ที่ดิฉันเลือกก็คือวัดและวัดที่ตั้งใจจะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวในครั้งนี้ ก็คือวัดปัญญานันทาราม ซึ่งตั้งอยู่ที่คลองหก อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี วัดนี้มีบรรยากาศของการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะกับผู้คนทุกเพศทุกวัย และน่าสนใจสำหรับเด็ก ๆ มาก โดยเฉพาะห้องที่จัดแสดงภาพปริศนาธรรม 3 มิติ ซึ่งอยู่ด้านล่างของเจดีย์พุทธคยา เปิดให้ชมฟรีทุกวัน เวลา 8.30 - 17.00 น. ภายในห้องติดเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย มีภาพปริศนาธรรม 3 มิติมากมาย วาดเรียงรายคดโค้งตามลักษณะห้องเป็นวงกลม แต่ละภาพจะมีความหมายแฝงไปด้วยคติธรรมสอนใจ ซึ่งเป็นการสอดแทรกหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างชาญฉลาด ภาพถ่ายโดยผู้เขียน พวกเราเมื่อมาถึงวัดก็พากันเข้าไปในห้องภาพปริศนาธรรม 3 มิติ วูบแรกที่สัมผัสคือจิตใจสงบเย็นทั้งๆ ที่มีผู้คนมากมายและมีเสียงดังบ้างเบาบ้างจากหลากหลายเสียงในห้อง ผู้ใหญ่จะเดินดูภาพอย่างเพ่งพินิจพิจารณาอ่านข้อความที่เขียนกำกับไว้ เด็กวัยรุ่นก็จะยิ้มแย้มแจ่มใสผลัดกันถ่ายภาพบ้าง เซลฟี่บ้าง โพสต์ท่าทางตามสมัยนิยมดูน่ารักไม่เคอะเขิน ส่วนเด็ก ๆ จะวุ่นวายนิดหน่อย ทั้งวิ่งวน ล้มลุกคลุกคลานเล่นกับภาพ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ....ส่วนน้องเก้ากับน้องสิบ ดูตื่นเต้นดีใจ น้องจะวิ่งไปถ่ายรูปกับภาพปริศนาธรรมและบอกป้าว่า....น้องคิดอะไร น้องได้อะไรจากภาพเหล่านั้น... ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพสะพาน มีความหมายถึงความไม่ประมาทในชีวิต น้องเก้ากับน้องสิบบอกว่า .. การเดินบนสะพานน่ากลัวมากต้องค่อย ๆ เดิน นั่นคือต้องมีความระมัดระวัง สอดคล้องกับคำสอนของภาพ “อย่าประมาท” นั่นเอง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพเงินที่หลุดร่วงจากตู้เซฟ ความหมายปริศนาธรรม คือความโลภ ความไม่รู้จักพอ น้องเก้ากับน้องสิบบอกว่าเงินเป็นของมีค่า ถ้าเก็บของคนอื่นได้ก็ต้องคืนเจ้าของ ถ้าเป็นของเราต้องเก็บให้ดี นั่นคือรู้จักค่าของเงิน และไม่คิดเอาของคนอื่นมาเป็นของตน ซึ่งเป็นความคิดจากประสบการณ์ตามวัย ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพไฟที่กำลังลุกไหม้ หมายถึงความโกรธจะเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างให้วอดวายได้ เราจึงไม่ควรโกรธ ควรรู้จักดับไฟในอารมณ์ น้องเก้ากับน้องสิบบอกว่า... ถ้าเกิดไฟไหม้ เราต้องช่วยกันดับไฟและไม่ให้ไฟไหม้ตัวเราด้วย เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมีจิตอาสาและการรู้จักเอาตัวรอด ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพคิงคองขู่คำราม ทุบทำลายข้าวของ หมายถึงความกลัวทำให้เกิดการทำลายล้างอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีสติ ขาดการยั้งคิด น้องเก้ากับน้องสิบจะมองเห็นถึงปลายเหตุตามประสาเด็ก คือความเกรี้ยวกราด การอาละวาดของคิงคอง ต้องระวังตัวให้ดี หลบให้พ้นและไม่ต่อสู้กับคิงคองเพราะจะมีอันตรายต่อตัวเราเอง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพควายไถนาบนพื้นดินที่แห้งแล้งแตกระแหง ความหมายของภาพคือความยากลำบากที่คนต้องพบเจอในชีวิต น้องเก้ากับน้องสิบเมื่อเห็นภาพนี้ สิ่งแรกที่น้องแสดงออก ... คือความมีน้ำใจ ความสามัคคี และเสียสละแรงกาย โดยการวิ่งไปช่วยกันจับคันไถและบอกป้าว่า “ เราต้องช่วยควายที่น่าสงสาร ” ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพงูอ้าปากกว้าง ปริศนาธรรมหมายถึงการอยู่ให้เป็นเหมือนลิ้นในปากงู แต่สิ่งที่น้องรับรู้ตามวัยคือความน่ากลัว ต้องหลีกเลี่ยงให้พ้น ภาพนี้ทำให้ป้าประทับใจมาก เพราะพอน้องสิบวิ่งไปนอนหลอกล่องู น้องเก้ารีบวิ่งไปจับขาน้องสิบดึงออกมา ด้วยกลัวว่าน้องจะถูกงูกิน นั่นคือ ความรัก ความห่วงใยของพี่ที่มีต่อน้อง การไปวัดครั้งนี้ แม้น้องเก้ากับน้องสิบจะกลั่นกรองความรู้ที่ได้รับออกมาเป็นความคิดที่ตรงกับปริศนาธรรมบ้าง ไม่ตรงบ้าง แต่ทุกอย่างที่ได้มา มันคือความสุข ความสนุกสนาน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และที่สำคัญที่สุดภาพปริศนาธรรม 3 มิติที่นี่สามารถหล่อหลอมให้เกิดความรู้สึกนึกคิดดีๆ ดึงดูดให้ใกล้ชิดพุทธศาสนาได้มากขึ้น นับเป็นกุศโลบายที่ได้ผล ทำให้เด็กๆ ซึมซับสิ่งที่ดีงามมาได้ด้วยความเต็มใจ ว่างๆ อย่าลืมพาลูกหลานไปเรียนรู้อย่างมีความสุข สนุกกับแหล่งเรียนรู้ภาพปริศนาธรรม ๓ มิติ ที่วัดปัญญานันทารามกันนะคะ ภาพถ่ายทั้งหมดโดยนักเขียน