กลับแล้วกับ EP.2 ค่ะ จากการเตรีมตัว การเลือกที่เรียน และการหาที่ซุกหัวนอน เราจะออกไปแตะขอบฟ้ากันค่ะ เรื่องของเรื่องคือไปในช่วง หน้าร้อน (Summer term) พอดีเช็คอากาศของโอเรกอนแล้ว เป็นรัฐที่ไม่หนาวมาก ไม่ร้อนมาก(มั้ง) แต่ฝนตกบ่อยๆ ขั้นตอนต่อไปมาเล่าแบบเป็นหัวข้อสนุกๆตามนี้แล้วกันค่ะออกสุดโลกกว้างกันเถอะถึงเวลาเตรียมตัวจัดกระเป๋า ก็ต้องเช็คดูภาพอากาศของรัฐที่เราจะไปอยู่ ในส่วนของรัฐโอเรกอน (Oregon State) อากาศคือไม่ร้อนมาก (แต่คนทางโน้น 32 องศาเซลเซียสก็บอกว่าร้อนมากลงมาอยู่ไทยแลนด์สิ) ฝนตกแบบน่ารำคาญ และอากาศไม่หนาวมาก ดังนั้นเสื้อผ้าจากไทยได้อยู่ แต่ไปซื้อที่นู้นก็มีร้านลดราคาเยอะมากๆ ก็เตรียมไปเลยค่ะ เสื้อผ้าเน้นกางเกงยีนส์ ไซส์คนไทยตัวเล็กๆคือหายากนิดนะคะ แต่ส่วนตัวใส่ไซส์เขาได้ค่ะ ในไซส์ XSและSหรือไซส์เด็ก 14และ16 ทำให้เราดูผอมทันที หนังสือช่วยในการเรียนบางเล่มพกไปก็ดีค่ะ แต่ทุกวันนี้ อากู๋ช่วยทุกสิ่งสบายมาก เครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ ครีมทางตัวเอาไปแต่พอดี ขอกินเอเชียเดี๋ยวนี้หาง่ายค่ะ ไม่ต้องกลัวอด ขนาดไปตอนโน้นยังมีเยอะมากเลย ไม่ต้องกังวัลว่าจะหากินยากขนาดปลาร้ายังมีขายเลยขอบอกไปเรียนแล้วได้อะไรมาถึงก็ได้สนุกสนานสำรวจการเดินทางและรายงานตัวกับ International student center หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ ก็เริ่มเรียนค่ะ การเรียนคือเหมือนกับมหาวิทยาลัยในไทย เรียนตามตาราง เดินแต่ละตึก และแต่ละ Campus เลย เลือกเรียน Marketing สนุกมากค่ะ ที่นี่เน้น Project base เลย ทำ Business Plan, Marketing Plan, Advertising Project อื่นที่ทำได้จริง Products จริง (สมัยนั้นนะทุกคน) สิ่งแรกที่รู้คนไทยมาเรียนที่นี่ PCC น้อยมาก เพราะมีตั้ง 4 Campuses มีคนไทย10คน แต่การอยู่ที่นี่ เราจะฝึกภาษาเลยไม่ค่อยเห็นด้วยในการรวมตัวแล้วคุยภาษาไทย ดังนั้นแนะนำค่ะว่าเราควรมีเพื่อนแบบนานาชาติไปเลย ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียตนาม แม็กซิกัน และ อเมริกันไปเลยค่ะ ไปเรียนสิ่งแรกเราได้คือการใช้ชีวิตแบบอิสระและต้องจัดการชีวิตตัวเองทั้งหมดใครไม่เคยก็ได้แข็งแกร่งตอนนี้แหละได้รู้จักการทำงานแบบ American Style คือไม่อ้อมโลก ตรงประเด็นไปเลย รู้เลยว่าอยากได้อะไร แบบไหนไม่ต้องร่ายยาวค่ะ และอีกอย่างคือ ทำงานแบบมีตารางกำหนด ถ้าช้าคือพลาดแล้วจะโดนว่าไม่รู้จักเหรอว่ากำหนดคือเป็นกำหนด (ไม่เคยโดนว่านะเพราะเป็นคนทำเสร็จก่อน) การเรียนและทำงานที่อเมริกาทำให้เป็นคนทำงานไวเขียนทุกอย่างแบบตรงประเด็นจนบางทีทำงานบริษัทไทยก็ทำให้คนงงกับเราได้เช่นกัน แต่ก็ไม่คิดจะเปลี่ยน ทุกวันนี้ก็ทำงานบริษัทต่างประเทศมา80%ของชีวิตการทำงานเช่นกันค่ะ ถามว่่าถ้าเราว่างๆก็เที่ยวในเมือง Portland หรือส่วนตัวคือ ทำอาสาสมัครค่ะ ในห้องสมุด และ พิพิธภัณฑ์เด็ก ช่วยฝึกภาษาเราและสนุกด้วย ทำให้เราปรับตัวได้เร็วยิ่งขึ้นจริงๆนะมาหางานทำและฝึกงานกันเรียนได้สักพัก 1เทอมก็มองหางาน On Campus ค่ะ อเมริกาคือเด็กต่างชาติทำงานคือ ในที่เรียนเท่านั้นจ้า ค่าแรงขั้นต่ำของที่ Oregon คือ US$8/ ชม. แต่โชคดีได้งานที่ Computer Lab ได้ที่ US$8.50/ ชม. แถมระหว่างทำงานทำการบ้านได้ด้วยดีงามสุดจริงค่ะอ๋อ การที่เราได้ทำงานทำให้เราได้มีบัตร Social Security ID card ดังนั้นต้องยื่นภาษีแต่ได้คืนหมดทุกยอดที่จ่ายให้รัฐ (State Taxes) แต่ภาษีของรัฐบาลกลาง(Federal Texas)ไม่ได้คืนนะคะ ทางInternational Student Center จะช่วยเราในการยื่นภาษีด้วยค่ะว่าจะกรอกยังไงเอกสารอะไรบ้าง เรางานที่Computer Labs จนเกือบเรียนจเลย ทำไม่ไม่ทำงานจบเพราะอะไรเหรอเราได้สมัครฝึกงานไว้ก่อนจบ เพราะหลักสูตรที่เรียนคือได้ Optional Practical Training (OPT) ในส่วนของการฝึกงาน เราก็ขอคำปรึกษาจากอาจารย์แนะแนวและให้คำปรึกษาในอาชีพ อาจารย์จะช่วยแนะนำว่าที่ไหนเปิด และก็ได้ที่ฝีกงาน จนได้ทำงานจริงๆค่ะ ขั้นตอนการสมัครขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันที่มีการทำCo-opกันไหม หรือจะส่งเมลล์สมัครตรงกับที่เขาเปิดอยู่ก็ได้ ถ้าได้ที่ไหนก็แจ้งอาจารย์ผู้ให้คำปรึกษาเลยค่ะลองสมัครไปหลายที่มากๆค่ะ มีสัมภาษณ์เหมือนเราสมัครงานปกติ แต่ การทำCV ของที่อเมริกาคือ ไม่ต้องใส่รูปไม่ต้องบอกข้อมูลส่วนตัวเช่น เพศ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง ที่อยู่ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ข้อมูลให้ติดต่อกลับเช่นเบอร์โทรศัพท์ อีเมลล์ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานและทักษะที่มีในตำแหน่งที่เราสมัครสำคัญมากค่ะ กิจกรรมเพื่อชุมชนเป็นส่วนที่เขาก็สนใจเพราะเขาจะรู้ว่าเราอยู่กับคนหมู่มากได้ (จากเจ้านายที่รับเราบอกมา) ตำแหน่งที่ได้ฝึกงานคือ Marketing Support ที่ Intel corporation ซึ่งท้าทายมากค่ะเพราะทำ Marketing OEM การทำงานคือ ต้องดูแลคู่ค่า จัดอบรมเพื่อให้ข้อมูลกับคู่ค้า และทำ Events แบบ Global Schedules ดูแล้วตอนนี้เยอะกว่าวันในปฎิทินอีก แต่สนุกมากๆเช่นกัน จนได้ทำแบบ Fulltime เกือบ 2 ปีหลังจากฝึกงานค่ะ จะบอกเลยว่าได้เรียนรู้อะไรมากมายจริงๆจาการทำงานที่นั้นและงานที่ทำแบบ Technology Base ทุกอย่างตรวจสอบได้หมดเลยค่ะกลับไทยแลนด์ทำไมนะมาถึงจุดที่หลายคนสงสัยว่ากลับมาทำไมงานการก็มี ประเด็นหลักคือที่บ้านอยากให้กลับเลยกลับ แต่มองอีกแบบกลับมาก็ได้รับรู้บรรยากาศอีกแบบ ทำให้เรารู้ว่าทางโน้นการเรียนรู้ให้เราได้นำเสนอความคิดที่หลากหลายและสาร้างสรรค์แบบไม่มองว่าเราเป็นตัวประหลาด ซึ่งก็มองว่ามันดีมากจริงๆ เพราะเราได้ คิดนอกรอบมาก จนให้ความรู้ที่ได้มาทำงานปัจจุบันนี้ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานทันสมัยมากขึ้นในยุค 5G แต่ความรู้ที่ได้มาตั้งแต่ยุค 2G ก็นำมาใช้ได้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านมาถึง EP.2 ค่ะ ขอสรุปจากประสบการณ์ในการไปเรียนที่โน้น ทำให้เราได้เติบโต เรียนรู้ และเพิ่มทักษะในการใช้ชีวิต สิ่งนี้ทำให้เราพัฒนาแบบก้าวกระโดดจริงๆ ใครไม่เชื่อลองนะคะ แล้วจะรู้เลยว่านี้แหละของจริง https://intrend.trueid.net/post/332121 รูปภาพทั้งหมดโดยครีเอเตอร์เองเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !