อื่นๆ

อาถรรพณ์เบี้ยแก้เขมร

602
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อาถรรพณ์เบี้ยแก้เขมร

ใคร ๆ ก็รู้ว่าพี่วุฒิแกเป็นสายบุญแต่ไม่ใช่สายมูเตลู นอกจากรอยสักอักขระโบราณแปลก ๆ บนแขนซ้าย  ที่แกเคยเล่าว่าไปสักตามเพื่อนที่สำนักสักยันต์แห่งหนึ่งตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว ก็ไม่เห็นว่าแกจะเชื่อถือเรื่องคาถาอาคมหรือพกพาเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลอะไรอีก   

แต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง  แกไปรู้จักหลวงพ่อพระเกจิรูปหนึ่งที่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์อำเภอข้างเคียง  ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหาของท่านจัดทำ Facebook fanpage นำเสนอประวัติ วัตรปฏิบัติ รวมถึงวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง นัยว่าเป็นการเผยแพร่บารมีหลวงพ่อรูปนั้น

โดยตามข้อมูลที่ปรากฎ  หลวงพ่อมีภูมิลำเนาและอุปสมบทแถวภาคอีสานตอนล่าง ไม่ไกลจากชายแดนไทย - กัมพูชา  ก่อนจะจาริกข้ามจังหวัดและภูมิภาค  มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว  และดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในพระเกจิสายเขมรที่มีอยู่ไม่มากนักในพื้นที่นัั้น 

Advertisement

Advertisement

พี่วุฒิแกสนใจปฏิปทาของหลวงพ่อรูปนั้นขึ้นมาอย่างน่าพิศวง  ถึงขนาดขับรถข้ามอำเภอเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตรไปยังสำนักสงฆ์ดังกล่าว  เพื่อพบเจอตัวจริงของหลวงพ่อ  ทั้งที่เส้นทางไปสำนักสงฆ์นั้นทั้งไกล  หนทางซับซ้อน และยังค่อนข้างทุรกันดาร

ความน่าพิศวงอีกประการหนึ่งเมื่อพี่วุฒิไปถึง คือ เหมือนว่าหลวงพ่อท่านจะรู้ล่วงหน้าถึงการมาของพี่วุฒิ  ทั้งที่ไม่เคยติดต่อนัดหมายไว้ก่อน  ท่านทักทายโอภาปราศรัยเสมือนว่ารู้จักพี่วุฒิมานาน  และก่อนกลับ ท่านได้มอบเครื่องรางของขลังให้พี่วุฒิ เป็นเบี้ยแก้ตัวใหญ่ ที่ท่านบอกว่าสร้างขึ้นตามตำราเขมร อันได้ชื่อว่ามีพลังแรง โดยท่านกำชับให้พี่วุฒิพกติดตัวหรือเก็บไว้ไม่ให้ห่างตัว

กลับมาถึงบ้าน ด้วยความที่พี่วุฒิแกไม่ใช่สายพกเครื่องรางของขลังอย่างที่บอก ประกอบกับขนาดของเบี้ยแก้ตัวนั้นค่อนข้างใหญ่กว่าเบี้ยแก้ทั่วไป  ทำให้ไม่สะดวกกับการพกพา  แกจึงไม่ได้พกเบี้ยแก้นั้นติดตัว  แต่ก็ได้วางไว้ใกล้ตัวตามที่หลวงพ่อบอก โดยวางไว้บนโต๊ะโคมไฟข้างเตียงนอนของแก

Advertisement

Advertisement

หลังจากนั้นไม่นาน  ก็เกิดเรื่องราวแปลก ๆ ขึ้นกับพี่วุฒิ ในระหว่างนอนหลับ  แกรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้  ทั้งที่ตอนกลางวันแกก็ยังมีอาการเป็นปกติ  ยิ่งไปกว่านั้น  บางคืนแกฝันแปลก ๆ เห็นแม่น้ำกว้างใหญ่ที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว และมีบางสิ่งกระชากแขนแกลงไปในน้ำ ดำผุดดำว่ายอยู่จนเหนื่อยเพื่อเอาตัวรอดจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก 

เช้าวันนั้นเมื่อตื่นขึ้นมา พี่วุติสังเกตเห็นรอยช้ำบนแขนซ้ายเหนือรอยสักของตน  มีลักษณะเป็นรอยหยักถี่ ๆ เป็นวงรีเรียวยาว เหมือนรอยฟันของสัตว์บางชนิด  ตอนแรกก็ยังไม่รู้สึกเจ็บปวด  แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา แขนข้างนั้นก็มีอาการบวมแดง เส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมาอย่างชัดเจน  ทีแรกพี่วุฒิคิดว่าแกคงไปโดนแมลงหรือตัวอะไรกัดต่อยโดยไม่ทันระวังและไม่รู้ตัว  แต่ก็ยังชะล่าใจไม่ไปหาหมอ  จนเมื่ออาการบวมแดงและเส้นเอ็นปูดโปนนั้นลุกลามหนักขึ้นเรื่อยๆ  แกจึงไปให้หมอตรวจ ซึ่งก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ  และหมอก็ยังไม่อาจวินิจฉัยได้ว่า  อาการดังกล่าวเกิดจากอะไร

Advertisement

Advertisement

จู่ๆ พี่วุฒิก็เกิดเอะใจขึ้นมาว่า รอยปริศนาบนแขนซ้ายซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการประหลาดที่เกิดขึ้น  เป็นรอยที่มีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับปากเบี้ยแก้ที่หลวงพ่อให้มา  แกถึงกับขนลุกซู่เมื่อจินตนาการไปว่า เบี้ยแก้ตัวนั้นอาจมีชีวิต และรอยประหลาดบนแขนของเขาอาจเป็นรอยฟันของเบี้ยแก้ตัวนั้น  แกจึงรีบหยิบมันออกไปเก็บใส่ลิ้นชักโต๊ะข้างนอกห้องนอน ใส่กุญแจล็อคไว้อย่างแน่นหนา เหมือนขังสัตว์ดุร้ายไว้เพื่อรอเอาไปปล่อยทิ้ง

คืนนั้น พี่วุฒิรู้สึกปวดแขนซ้ายที่บวมแดงนั้นมากขึ้นกว่าทุกวัน  และเส้นเอ็นที่ปูดโปนนั้นก็เหมือนจะขยายขนาดขึ้นราวกับจะปริแตกออก  ซ้ำร้ายยังรู้สึกคันยุบยิบเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างในเส้นเอ็นนั้น  ในขณะที่หูก็แว่วได้ยินเสียงเขย่าลิ้นชักโต๊ะตัวที่เขาเก็บเบี้ยแก้ไว้  ด้วยอาการต่างๆ ทั้งทางกายและอารมณ์หวาดผวา  ทำให้พี่วุฒิตัดสินใจขับรถออกจากบ้านกลางดึก ไปยังโรงพยาบาลในตัวเมืองเพื่อตรวจอาการที่แขน  หมอตัดสินใจผ่าตัดด่วนเพราะเห็นว่าอาการหนักมาก  แล้วสิ่งที่ทำให้ทั้งหมอและพยาบาลเกิดอาการขนพองสยองเกล้าไปตามๆกัน คือ เมื่อผ่าตัดแขนที่บวมแดงนั้นแล้วพบว่า สิ่งที่คิดว่าเป็นเส้นเอ็ดปูนโปนขึ้นมานั้น  แท้จริงคือซากปลาไหลตัวเล็ก ยาว ที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วห้องผ่าตัด...

พี่วุฒิใช้เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดไม่นานนัก  เขาไม่มีอาการผิดปกติใดๆเกิดขึ้นอีก  แต่รอยสักอักขระโบราณบนแขนซ้ายจางหายไปอย่างน่าประหลาด ซึ่งต่อมาพี่วุฒิได้รับคำบอกเล่าจากเพื่อนที่เป็นคนชวนเขาไปสักยันต์ดังกล่าวเมื่อหลายปีก่อน  ว่าปัจจุบันสำนักสักยันต์ดังกล่าวถูกปิดไปแล้ว เจ้าสำนักหนีหายไปไม่รู้ชะตากรรม มีเสียงเล่าลือว่า  แท้จริงแล้วเจ้าสำนักเป็นหมอผีที่คลั่งไคล้ลัทธิมนต์ดำ  มักจะทดลองอาคมของตน  โดยเล่นของใส่ลูกค้าที่ไปสักยันต์ผ่านทางรอยสัก แล้วฝังของอาคมของตนลงในร่างกายของผู้ที่ตนสักให้  เพื่อนของผุ้วุฒิเองก็เพิ่งได้รับการแนะนำให้ไปกราบพระเกจิรูปหนึ่งที่สำนักสงฆ์ในอำเภอข้างเคียงเพื่อถอนอาคมและมนต์ดำที่แฝงอยู่กับรอยสัก  โดยหลวงพ่อรูปนั้นได้ให้วัตถุมงคลแก่เพื่อนของพี่วุฒิ มาเพื่อรักษาตัวและป้องกันมนต์ดำ

เมื่อพี่วุฒิขอดูวัตถุมงคลนั้นก็ถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาอีกครั้ง  เมื่อพบว่า  มันคือเบี้ยแก้ที่มีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับเบี้ยแก้ตำราเขมรที่เขาได้รับจากหลวงพ่อนั่นเอง...  

ขอบคุณต้นฉบับภาพประกอบจาก Pixabay.com โดย Stux

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์