จุดเริ่มต้น ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เตยตัดสินใจออกเดินทางไกล ๆ โดยไม่มีผู้ปกครองไปคุม 555 ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่าเตยเพิ่งเรียนจบหมาด ๆ หลังจากได้งานทำยังไม่ถึง 4 เดือน ก็ได้เวลาเที่ยวแล้วลิสต์รายการสถานที่น่าเที่ยวไหลเข้ามาเต็มหัว หนึ่งในนั้นคือ “ทะเลหมอก” สถานที่ที่อยากมาสัมผัสตั้งแต่สมัยประถม ( จากวันนั้นจนวันนี้ก็ยังไม่เคยมาเลยสักครั้ง 555 ) ภายในเวลาวันหยุดเพียงหนึ่งวันกับการไปทะเลหมอก แน่นอนค่ะว่าเราต้องเลือกจังหวัดที่ใกล้เรามากที่สุด เมื่อขอบเขตการไปเที่ยวรอบนี้ชัดเจนขึ้น ก็ได้เวลากางแผนที่และหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่จนแล้วจนรอดก็ยังเลือกไม่ได้สักที ต้องยอมรับอย่างนึงเลยว่าเตยไม่ถนัดเรื่องแผนที่ตั้งแต่ตอนเรียน พูดกันตามตรงคือหลับทุกคาบเมื่อต้องเรียนวิชาในตระกูลสังคม 5555 .... “ไปเขาค้อกันไหม” เสียงของพี่มาร์คดังขึ้น และนั้นคือจุดเริ่มต้นของทริป 2คน 1คัน 1วันที่ เขาค้อ "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" 05-Dec-2018 วันหยุดที่เรารอคอยก็มาถึง ตรวจความเรียบร้อยของพี่หมี ( รถของพี่มาร์ค แต่เราตั้งชื่อให้ว่าพี่หมี ) ทุกอย่างโอเคไม่มีปัญหาก็ได้เวลาออกเดินทาง เราออกเดินทางกันตั้งแต่เที่ยงคืน ขี่รถตาม GPS มาเรื่อย ๆ จนเข้าจังหวัด “เพชรบูรณ์” ใกล้ทะเลหมอกขึ้นมาอีกนิด ใจเราก็เต้นตุ้บ ๆ แรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความตื่นเต้น แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น …. เราหลง 55555 ใช่ค่ะ ทุกคนอ่านไม่ผิด เราหลงกันจริง ๆ GPS ทำพิษซะแล้ว ไม่รู้ว่า GPS พาเราอ้อมไปส่วนไหนของจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่ถือเป็นการหลงที่คุ้มค่านะคะ เพราะ GPS พาเราผ่านอุโมงค์ต้นไม้ เส้นมวกเหล็ก-วังม่วง เหมือนได้ที่เที่ยวเพิ่ม ติดแค่ตอนนี้เป็นเวลา ตีสามกว่า ๆ ข้างทางนี้มืดจนเรียกว่าดำสนิทไม่เห็นวิวแม้แต่น้อย แต่ที่เราสองคนสัมผัสได้เลยคืออากาศค่ะ อากาศเย็นจับจิตจับใจมากกกก ขนาดเตยกับพี่มาร์คใส่เสื้อการ์ด(เสื้อตามรูปด้านบน เป็นเสื้อสำหรับเซฟตี้ร่างกายจากการขับขี่รถ) ยังสัมผัสได้ถึงความเย็นชนิดที่สั่นเล็ก ๆ ทีเดียว GPS คงอยากพาเรามาเรียกน้ำย่อย ก่อนจะถึงเขาค้อจริง ๆ 5555 ในที่สุดก็ถึงเขาค้อ(GPS พาเรามาจนได้ 55) บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก แม้แอบผิดหวังเล็ก ๆ เพราะไม่ได้เจอทะเลหมอกเยอะ ๆ เท่าที่หวัง แต่ก็เรียกว่าคุ้มค่ากับการนั่งรถกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อมาที่นี่ค่ะ อากาศตอนที่เรามาถึงที่นี่อยู่ประมาณ 15 –17 องศา สำหรับเตย เตยว่าเป็นอุณภูมิกำลังดีนะ ไม่ร้อนเกิน ไม่หนาวไป บวกกับลมพัดเบา ๆ ต้นไม้เขียว ๆ อากาศสดชื่น วิวสวย ๆ บอกเลยนะคะว่าหายเหนื่อย หายเมื่อยกันเลยทีเดียว นั่งมองทะเลหมอกตรงหน้า สัมผัสอากาศเย็น ๆ ได้ซักสองชั่วโมง เสียงน้ำย่อยก็เริ่มออกมาทักทาย ได้เวลาข้าวเช้าแล้ว “กินอะไรดี” คำถามยอดฮิตก็ดังขึ้น “นั่นสิ กินอะไรดี” คำตอบยอดฮิตก็ดังตามมาติด ๆ "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" สุดท้ายก็มาลงเอยที่ไข่กระทะ อาหารง่าย ๆ ที่ทำให้เราสองคนรอดตายไปอีกมื้อ ( ฮ่าฮ่าฮ่า ) กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตยกับพี่มาร์คก็ตัดสินใจเดินทางกันต่อ โดยเลือกที่จะไปทุ่งกังหันลม โดยทุ่งกังหันลมนั้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงเขาค้อมากนัก ขับรถเพียงไม่กี่นาทีก็มาถึง กังหันลมอันใหญ่ ๆ ถูกเรียงรายเต็มทั่วทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ แต่ขอแนะนำให้มาช่วงเช้าหรือเย็นจะดีกว่านะคะ เพราะที่นี่เป็นทุ่งโล่ง ๆ มีร่มเงาของต้นไม้แค่บางช่วงเท่านั้น แต่ในเมื่อเราสองคนมากันแล้ว ถึงจะเแวะมาเวลาเที่ยงเกือบบ่าย ที่แดดกำลังแรงเต็มทีก็ตาม ก็ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้รูปกันมาค่ะ "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" เดินเล่นถ่ายรูปกันได้สักพักเตยกับพี่มาร์คก็เดินมาแวะที่ร้าน "กระท่อมกังหันลม" เป็นร้านเล็ก ๆ ที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ร้านนี้เป็นคาเฟ่ มีอาหาร และเครื่องดื่มดับร้อนเยอะแยะเลยค่ะ เตยไม่ได้สั่งอาหารนะคะ สั่งแค่น้ำกันคนละแก้ว รสชาติดีเลย แถมร้านก็น่ารักมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้ด้วยค่ะ "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" ระหว่างรอน้ำที่สั่งไป ก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ๆ เตยชอบรูปนี้มากเลยค่ะ เป็นรูปที่ถ่ายผ่านหน้าต่างของทางร้านโดยจะมองเห็นวิวทุ่งหญ้าด้านนอก เตยว่าน่ารักดี "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" ทางร้านมีชั้นสองนะคะ สามารถขึ้นมานั่งทานอาหาร หรือแวะมานั่งเล่น ถ่ายรูปเล่นก็ได้ค่ะ มุมสวยมาก สามารถมองเห็นทุ่งกันหันลมด้วย อย่างที่บอกเสียดายที่เตยกับพี่มาร์คมาตอนกลางวัน ทำให้แดดแรงมาก ถ้ามาช่วงเช้าหรือช่วงเย็นน่าจะได้รูปสวย ๆ แสงดี ๆ กลับไปเยอะเลยค่ะ "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" หลังจากนั่งพักชมนกชมไม้ ได้สักพักใหญ่ ก็ได้เวลาที่เราสองคนต้องกลับกันแล้ว ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เราสองคนออกเดินทางด้วยกัน ถึงแม้เตยจะไม่ได้เห็นทะเลหมอกเยอะอย่างที่ใจหวัง แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นทริปที่เตยสนุก และตื่นเต้นสุด ๆ เลยค่ะ ทั้งลุ้นตอนหลงทาง ไหนจะลุ้นว่าจะเห็นทะเลหมอกหรือป่าว ทริปหน้าเตยกับพี่มาร์คจะออกเดินทางไปไหน จะสนุก จะหลง จะตื่นเต้นแค่ไหน ฝากติดตามด้วยนะคะ ❤️❤️❤️