คติความเชื่อในการสร้าง”พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์” ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เพชรบูรณ์ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน พระพุทธรูปสีขาว ๕ พระองค์ ประทับนั่งซ้อนกัน อยู่บนฐานดอกบัว โดยสร้างไล่ระดับขนาดขององค์พระซึ่งเริ่มจากขนาดเล็กและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนถึงขนาดใหญ่ที่สุดองค์ที่ ๕ อันเป็นองค์สุดท้าย เมื่อมององค์พระจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการ สูงเด่นสง่า ขณะที่ บริเวณโดยรอบนั้นก็แวดล้อมด้วยทัศนียภาพของภูเขาที่ตั้งตระง่านสวยงามเป็นฉากอยู่เบื้องหลัง นอกจากจะชื่นชมความงามทางพุทธศิลป์แล้ว เราก็อดสงสัยถึงความหมายของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ว่าคืออะไร ในการทำความเข้าใจเรื่องนี้ เราจะพิจารณาคติความเชื่อในการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ ได้แก่ ๑. คติความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้าที่มาจากคัมภีร์พระไตรปิฏก เมื่อศึกษาพระไตรปิกฏเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ ฉบับมหาจุฬาฯ ในหมวดหมู่ที่เป็นขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ กล่าวถึงพุทธวังสะ-จริยาปิฎก จะพบว่า มีจำนวนพระพุทธเจ้า และพระนามมีอยู่ ๒๕ พระองค์ ที่พระโคดมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ และมีพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ที่ปรากฏในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา หากมุ่งประเด็นไปที่พระพุทธรูปที่สร้างมาจากความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ณ วัดผาซ่อนแก้วแห่งนี้หมายความว่าพระพุทธรูปที่เรียกกันว่าพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ที่ตรัสรู้ในภัทรกัปป์ปัจจุบันนี้ ได้แก่ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ พระโคตมะ และพระเมตเตยยะ หรือพระศรีอริยเมตไตรย์ ข้อมูลอ้างอิงจาก URL : พระพุทธเจ้าในคัมภีร์พระไตรปิฏก ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ๒. คติความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้ามาจากตำนาน เรื่องราวพระพุทธเจ้าห้าพระองค์นี้มีเล่าไว้ในตำนานพื้นบ้านมาตั้งแต่อดีตกาล ดังปรากฏว่ากาลครั้งหนึ่ง มีแม่กาเผือกได้ออกไข่มาห้าใบ อยู่มาวันหนึ่งนั่นเอง ปรากฏว่าได้เกิดพายุพัดรังกาของแม่กาตัวนั้นแตกกระจัดกระจายไปหมด เมื่อแม่กาบินกลับรัง แต่ไม่พบรัง จึงตรอมใจตาย แล้วไปเกิดเป็นท้าวพกาพรหม ส่วนไข่ห้าใบทั้งหมดเล่านั้น ได้ตกลงไปในน้ำ แม่สัตว์ห้าชนิด คือ ไก่ นาค เต่า โค และสิงห์ นำไปไข่เหล่านั้นไปฟูมฟักดูแลจนออกมาเป็นทารกห้าคนซึ่งทั้งหมดคือผู้จะได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปป์นี้ พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จึงมีนามเนื่องด้วยแม่สัตว์ชนิดนั้นๆ คือพระกกุสันธะ (กุกกุฏ-ไก่) พระกัสสปะ (กัจฉปะ-เต่า) พระโกนาคม (นาค) พระศากยโคคม (โค) และพระศรีอาริยเมตไตรย์ (สีห์/สิงห์) เมื่อพิจารณาจากเรื่องเล่าตามตำนานแล้ว ก็คือเป็นการผสมผสานความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้าที่มาจากคัมภีร์พระไตรปิฏกดังที่กล่าวมาแล้วข้อมูลอ้างอิงจาก URL : พระพุทธเจ้าในตำนานพื้นบ้าน นอกจากนั้น ในกัปป์นี้ชื่อว่า ภัททกัปป์ เป็นกัปป์ที่เจริญที่สุดเพราะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกนี้ถึง 5 พระองค์ จึงเป็นที่มาของ คำว่า "นโมพุทธายะ" “นะ คือ พระกกุสันโธ” “โม คือ พระโกนาคมโน” “พุท คือ พระกัสสโป” “ธาคือ พระโคตโม” “ยะ คือ พระศรีอาริยเมตไตรโย” คำเหล่านี้ถือว่าเป็นคาถาที่ใช้สืบต่อกันมา ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมื่อพิจารณาแล้ว พบว่า พระพุทธรูปสีขาวที่เราเห็นก็หมายถึงเรื่องราวของพระพุทธเจ้าที่ปรากฏตามความเชื่อของชาวพุทธเราไม่ว่าจะมาจากคัมภีร์พระไตรปิฏกหรือตำนานนั่นเอง ทีนี้วิธีที่เราจะกำหนดว่า บรรดาพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ที่ประทับนั่งซ้อนกัน จะรู้ได้อย่างไรว่าองค์ไหนเป็นองค์ไหน ลองมาดูการ กำหนดพุทธลักษณะกันเลย เป็นการง่ายหากเริ่มจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุด คือ พระศรีอาริยเมตไตรย์ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องซึ่งหมายถึงพระโพธิสัดว์ศรีอาริยเมตไตรยเชื่อกันว่าเป็นพระอนาคตพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ห้าในภัทรกัปป์ ที่จะมาอุบัติขึ้นในอนาคต ที่นีเราไล่เลียงขนาดใหญ่สุดลงมาจนถึงองค์ที่เล็กที่สุด ก็จะทราบพระนามของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ได้ครบทั้งหมด องค์ที่ 1 พระกกุสันธพุทธเจ้า องค์ที่ 2 พระโกนาคมนพุทธเจ้า องค์ที่ 3 พระกัสสปพุทธเจ้า องค์ที่ 4 พระศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า องค์ที่ 5 พระอริยเมตตรัยพุทธเจ้าข้อมูลอ้างอิงจาก URL : พระอริยเมตตรัยพุทธเจ้า หากผู้อ่านสนใจที่จะเดินทางไปกราบนมัสการพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์และชมความงามทางพุทธศิลป์ขององค์พระ ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม ณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ควรแต่งกายให้เรียบร้อยสุภาพ และประพฤติกิริยาให้เหมาะสม ไม่ส่งเสียงดังภายในวัด โดยทางวัดได้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ ๘.๐๐ น. – ๑๗.๐๐ น. ข้อมูลอ้างอิงจาก URL : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว