อื่นๆ
ชายไร้สีกับปีแสวงบุญ...หนังสือที่ทำให้คุณรู้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ใดที่สูญเปล่า

หนังสือที่อยู่ในมือของฉันตอนนี้คือ “ชายไร้สี กับปีแสวงบุญ" จากผลงานของนักเขียนชื่อดัง ฮารูกิ มูราคามิ
เรื่องราวของชายหนุ่มที่มีอดีตอันโหดร้ายจากการถูกขับไล่ออกจากกลุ่มเพื่อนสนิทที่ตนรักมากที่สุดในสมัยมัธยมปลาย ทสึคุรุฝังใจว่าการที่เขาถูกขับไล่ออกจากกลุ่มเป็นเพราะเขาคือ “ชายไร้สี”
ในกลุ่มของเขาประกอบด้วยชื่อของเพื่อนที่แปลความหมายเป็นสีต่าง ๆ อย่างสองหนุ่มน้ำเงิน,แดง และสองสาวขาว,ดำ
ทสึคุรุเป็นคนเดียวในกลุ่มที่มีชื่อซึ่งไม่สามารถแปลเป็นสีได้
หลังจากถูกขับไล่ออกจากกลุ่มโดยไร้เหตุผล เขาใช้ชีวิตอย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ และว่างเปล่า ไม่มอบความสัมพันธ์สนิทสนมให้ใครเกินเหตุ ราวกับว่าบาดแผลครั้งนั้นยังตราตรึงในหัวใจของเขา
ชีวิตของทสึคุรุดำเนินมาในทำนองนี้จนอายุ 36 ปี กระทั่งได้มาพบกับ “สาละ” หญิงสาวแก่วัยกว่าสองปี ผู้ซึ่งมาเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล
สาละชี้ให้เห็นถึงบาดแผลที่ถูกกลบฝังในใจทสึคุรุ “มันยังคงอยู่ และยังอยู่หากไม่ชำระบาดแผลนี้” เธอกระตุ้นเตือนให้เขาออกตามหาความจริงถึงสาเหตุที่ถูกขับไล่ออกจากกลุ่ม ตามหาความจริงที่เขาเพียรกลับฝังไว้นับสิบปี
Advertisement
Advertisement
เรื่องบางเรื่อง…แม้เราจะแกล้งมองไม่เห็นเพียงใด แต่บาดแผลยังคงอยู่
ตอนจบของหนังสือเล่มนี้ทิ้งท้ายชวนค้างคาใจ
สุดท้ายแล้วทสึคุรุจะเป็นผู้ชายที่สมหวังหรือเปล่า ?
นั่นเป็นคำถามที่วนเวียนทิ้งค้างอยู่ในหัวหลังจากอ่านจบ
มีหลายๆ คน ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับตอนจบของหนังสือเล่มนี้ว่า ตอนจบของเรื่องนี้เป็นปลายเปิด เพราะผู้อ่านรู้จักกับสาละจากมุมมองของทสึคุรุและไม่ได้รู้จักเธอจากมุมมองอื่นเลย แต่ถึงอย่างไรก็รู้สึกเต็มร้อยว่าทสึคุรุจะดำเนินชีวิตไปได้ถึงแม้จะถูกสาละปฏิเสธก็ตาม
พี่สาวผู้อ่านแล้ว และยังค้างคาใจกับตอนจบหนังสือเล่มนี้ถามฉันว่า
“คิดอย่างไรกับตอนจบ คิดว่าทสึคุรุสมหวังหรือเปล่า ?”
“ไม่รู้สิ เดาไม่ได้เลย”
“ถ้าทสึคุรุผิดหวังก็น่าสงสารนะ”
“ไม่หรอก คิดว่าไม่น่าสงสาร อีกอย่างคิดว่าสาระของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าสุดท้ายแล้วทสึคุรุจะสมหวังกับสาละหรือเปล่าน่ะ”
Advertisement
Advertisement
“ยังไง ?”
“การที่ทสึคุรุจะสมหวังกับสาละหรือเปล่านั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่สำคัญกว่าคือสิ่งที่สาละได้มอบให้ทสึคุรุต่างหาก สาละทำให้เขาเปิดแผลที่พยายามปกปิด ซุกซ่อนอยู่ในใจ แผลที่ทสึคุรุทำเป็นมองไม่เห็น แต่แท้จริงแล้ว เลือดก็ยังไหลอยู่ตลอดเวลา เมื่อสาละเข้ามากระตุ้นเตือนให้เขาสางปมยุ่งเหยิงในใจของเขา ก็เหมือนบาดแผลที่ติดค้างในใจของเขามาสิบปีได้รับการรักษา และนั่นก็มีค่ามากพอแล้ว นี่คือสิ่งสำคัญที่สาละได้มอบให้ทสึคุรุ ไม่ว่าเธอจะเลือกเขาหรือไม่”
หลาย ๆ ครั้งเรามักมองแต่ผลลัพธ์ในทุกความสัมพันธ์ เรากล่าวโทษ ร้องไห้ เสียใจเมื่อความรักไม่เป็นไปอย่างที่หวัง จริงอยู่...ท้ายที่สุดผลลัพธ์คือการต้องจากกัน แต่สิ่งที่มีค่ามากกว่าคือช่วงเวลาดี ๆ ที่ได้อยู่ร่วมกัน ต่างฝ่ายต่างสร้างความทรงจำดีและร้ายให้แก่กัน เป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์ ทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าล้มเหลวหรือเลิกรา ไม่มีสิ่งใดที่เรียกได้ว่าสูญเปล่า
Advertisement
Advertisement
"ทุกสิ่งไม่ได้เลือนหายไปกับกระแสแห่งกาลเวลา พวกเราในตอนนั้นเชื่อมั่นในบางสิ่งอย่างจริงจัง มีตัวตนที่จะเชื่อมั่นในบางสิ่งอย่างจริงจังได้ ความรู้สึกเช่นนั้นจะไม่มีวันเลือนหายไปไหน"*
ความสัมพันธ์บางความสัมพันธ์จบลงแล้ว
แต่ความทรงจำและความคิดถึงจะคงอยู่ตลอดไป
* จากหนังสือชายไร้สีกับปีแสวงบุญหน้า 306
ความคิดเห็น
