"ข้าวผัดใบชะคราม" ขึ้นชื่อมาก หลายๆคนคงสงสัยว่า ใบชะครามเป็นแบบไหน แล้วเอามาทำข้าวผัดได้ด้วยเหรอ ? วันนี้เราจะพาทุกๆท่าน ไปชมและชิม ข้าวผัดใบชะครามนี้กันที่ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งที่แห่งนี้ มีพื้นที่ติดชายหาด ที่มีชื่อว่า หาดบางเกตุ และอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ ข้าวผัดใบชะครามที่เป็นเมนูเด็ดของชาวบ้านที่นี่นั่นเองครับ ชะคราม เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตได้ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล มีน้ำเค็มขึ้นถึง แพร่กระจายไปทั่วในแถบจังหวัดที่ติดกับทะเล เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มักพบได้มากตามขอบบ่อนาเกลือ หรือชายฝั่งทะเล ซึ่งที่บ้านบางเกตุนี้ เราจะพบชะคราม ขึ้นอยู่ทั่วไป เป็นพืชที่ชาวบ้านเค้านำมาทำเป็นอาหารในพื้นถิ่นมานานแล้วครับ ต้นชะครามนี้ จะมีความสูงประมาณ 0.3-1.5 เมตร ลักษณะคล้ายกับต้นโรสแมรี่ มีลำต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่จะมีมีสีน้ำตาลอมแดงเรื่อหรือสีแดงเรื่อ เมื่อนำมาทำอาหาร จะมีความ กรอบ ตามด้วยรสเค็ม มัน และกลิ่นของน้ำทะเล ปนอยู่ด้วย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ใบชะคราม เวลาที่เราจะนำใบชะครามนี้ไปปรุงอาหารนั้น จะต้องรูดใบออกจากก้าน ส่วนที่กินได้คือใบและยอดอ่อนของมัน “ชะคราม” จะเกิดได้ทั่วไปตามพื้นที่ที่มีน้ำทะเลเข้าถึง แต่ความเค็มของดินในพื้นที่นั้นๆ ก็แตกต่างเช่นกัน จึงส่งผลต่อรสของชะคราม เพราะเมื่อดินเค็มมากชะครามก็จะเค็มเช่นกัน หากพื้นที่ไหนดินเค็มน้อยชะครามก็จะมีรสเค็มอ่อนๆ ปนหวานติดปลายลิ้นด้วย ซึ่งชะครามที่บ้านบางเกตุนี้ จะมีรสเค็มพอดี ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะนำไปใส่ไข่เจียวแล้วทอด โดยไม่ต้องใส่น้ำปลา โดยจะนำชะครามมาล้างและขยำในน้ำจืด เพื่อลดความเค็มลง และนำไปเป็นส่วนผสมของข้าวผัด เมื่อเอาทั้งสองอย่างมาทานร่วมกัน บอกได้คำเดียวว่าอร่อย ซึ่งชาวบ้านนิยมนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู เพื่อเพิ่มรสเค็มให้แก่อาหาร อาทิ แกงส้ม แพนงหมู-เนื้อ มัสมั่น แกงหอยแครง แกงปู รวมถึงรับประทานเป็นผักสดคู่กับน้ำพริกหรืออาหารอื่นๆอีกด้วย นอกจากนี้ ใบชะครามยังมีสรรพคุณทางยาสมุนไพร ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคโกโนเรียรักษาโรคคอพอก กระตุ้นระบบประสาท บำรุงสายตา แก้อาการตามัวได้ด้วยนะครับ เห็นประโยชน์และสรรพคุณต่างๆในใบชะครามแล้ว ในส่วนของรสชาติอาหารที่ทำจากใบชะคราม ก็เด็ดไม่แพ้กันเลย ขอบอกว่า ถ้ามีโอกาส ให้ลองมาทานอาหารที่ทำจากใบชะคราม ที่บ้านบางเกตุ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี กันได้นะครับ เครดิตภาพทั้งหมด : ถ่ายโดย "ทิดเจิด" (ผู้เขียนเองจร้า)