สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราจะพาไปเดินเที่ยวงานพระนครคีรี จ.เพชรบุรีกันค่ะ งานพระนครคีรีเป็นงานประจำปีของจังหวัดเพชรบุรี โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-26 มีนาคม 2566 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 36 แล้วค่ะ ภายใต้ชื่องาน “เยือนถิ่นเมืองพริบพรี สดุดีจอมราชัน แดนสร้างสรรค์อาหารไทย” วิธีการเดินทางเที่ยวงานพระนครคีรี รถยนต์ – ระยะทางประมาณ 140 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง พิกัด > Google Mapรถไฟ – เลือกตารางเดินทางได้จาก การรถไฟแห่งประเทศไทยรถตู้ – สามารถขึ้นรถได้หลายจุด เช่น ขนส่งผู้โดยสารหมอชิต(จตุจักร), ขนส่งผู้โดยสารสายใต้เก่า, ขนส่งผู้โดยการสายใต้ใหม่, ขนส่งผู้โดยสารเอกมัย-หัวหิน (BTSเอกมัย)พื้นที่จัดงานแบ่งเป็น 3 โซนโซนที่ 1 บริเวณพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนครคีรี (บนเขาวัง)เราสามารถขึ้นไปเที่ยวด้านบนเขาวังได้ 2 ทาง คือ เดินขึ้นทางด้านหน้าเขาวัง หรือจะรถรางไฟฟ้าก็ได้ค่ะ ซึ่งวันที่เราไปเราเลือกขึ้นรถราง ค่าตั๋วเที่ยวละ 40 บาท (สำหรับผู้ใหญ่) สามารถซื้อตั๋วแบบไป-กลับจากจุดขายตั๋วด้านล่าง (ราคาถูกกว่าซื้อเที่ยวเดียว) หรือจะซื้อแค่ขาไปอย่างเดียวก็ได้ ขากลับถ้าจะลงด้านบนก็มีจุดจำหน่ายตั๋วอยู่ค่ะ ช่วงงานพระนครคีรีรถรางไฟฟ้าขยายเวลาการให้บริการจนถึงสี่ทุ่มค่ะ ปกติจะปิดเร็วกว่านี้ตามเวลาทำการของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เขาวังเมื่อถึงด้านบนก็เดินชมบรรยากาศยามเย็นของโบราณสถานพระนครคีรี เราขึ้นไปถึงด้านบนช่วงประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งปกติข้างบนนี้ถ้าไม่มีงานประจำปีจะเปิดให้เข้าชมแค่ช่วงเวลา 08:30-16:00 น. เรียกว่าถ้าอยากจะขึ้นมาชมบรรยากาศเขาวังยามค่ำคืนก็ต้องรองานประจำปีอย่างงานพระนครคีรีเท่านั้นค่ะ ซึ่งจุดหลักๆที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็จะเป็นบริเวณยอดเขาทั้ง 3 ยอด ประกอบไปด้วย ภูเขายอดกลางคือ พระธาตุจอมเพชร ฝั่งทิศตะวันออกจะเป็น วัดมหาสมณาราม และวัดพระแก้วน้อย ที่มีเจดีย์แดงที่นักถ่ายภาพนิยมมาเก็บภาพพลุในช่วงงานพระนครคีรีค่ะทางด้านทิศตะวันตก จะเป็นกลุ่มอาคารและกลุ่มพระที่นั่งมีทั้ง พระที่นั่งสันถาคารสถาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท พระที่นั่งราชธรรมสภา และ หอชัชวาลเวียงชัย ค่ะเราเดินเล่นไปเรื่อยๆ ยิ่งตกเย็นคนเริ่มหนาตาขึ้นค่ะ พอฟ้าเริ่มมืด ดวงไฟที่ประดับไว้ตามต้นลีลาวดีก็สว่างไสวไปทั่วยอดเขา ตัดกับท้องฟ้ายามเย็น เป็นภาพที่สวยงามจริงๆ บริเวณลานกิจกรรมการแสดงด้านบนพระนครคีรีมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีสลับสับเปลี่ยนไปแต่ละวันตลอดการจัดงาน มีสาธิตการทำขนม อาหารพื้นบ้าน และยังมีให้ชิมฟรีด้วยค่ะ โซนที่ 2 บริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ร.4เมื่อเราเดินชมบรรยากาศด้านบนเสร็จก็สามารถเดินลงมาทางด้านหน้าเขาวังได้ค่ะ อาจจะสวนทางกับคนที่ใช้วิธีเดินขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะจุดหมายเราจะเดินไปชมงานที่โซนด้านล่าง ซึ่งโซนบริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ จะมีร้านสินค้า OTOP มีบูทของหน่วยงานราชการมาออกร้าน และยังมีเวทีกลาง การแสดงดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงโขน งานสกุลช่างเมืองเพชร มาโชว์อยู่ตรงจุดบริเวณนี้ด้วยค่ะโซนที่ 3 บริเวณสนามหน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศตรงจุดนี้จะมีร้านค้า ร้านจำหน่ายอาหารการกินตลอดทาง โดยเค้าปิดถนนไม่ให้รถเข้า ทำให้เดินได้โดยไม่ต้องระวังรถ แต่คนก็จะเยอะหน่อยต้องค่อยๆเดิน ซึ่งนอกจากถนนเส้นนี้จะจำหน่ายอาหารทั่วไปแล้ว ยังเป็นพื้นที่จัดแสดงค่ายรถยนต์เหมือนงานมอเตอร์โชว์ย่อมๆ ด้วยค่ะเดินจนเมื่อยก็ใกล้เวลา 3 ทุ่มที่เค้าจะมีการจุดพลุกันแล้วค่ะ เตรียมตัว เตรียมกล้องให้พร้อม หามุมยอดฮิตที่จะได้เห็นพลุบนยอดเขาวังครบองค์ประกอบ เราเองเป็นคนพื้นถิ่นเพชรบุรี เรียกว่าแต่ละปีก็เฝ้ารองานประจำปีอย่างงานพระนครคีรี เพราะชอบดูพลุนี่แหละค่ะเค้าจุดได้ยิ่งใหญ่อลังการไม่ทำให้ผิดหวังสักปี แต่ละปีก็มีสีสัน ลวดลายต่างกันออกไป โดยพลุจะจุดวันละ 1 รอบช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มของทุกวัน กินระยะเวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ สามารถรับชมพลุได้ทั้งจากบริเวณด้านล่าง หรือจะรอชมพลุบนยอดเขาวังด้านบนก็ได้ความสวยงามในมุมมองที่ต่างกันค่ะหวังว่ารีวิวเที่ยวงานพระนครคีรี จ.เพชรบุรี นี้จะเป็นโยชน์กับเพื่อนๆ ที่จะมาเที่ยวงานเที่ยวงานพระนครคีรีในปีต่อๆไปนะคะ เพราะปีนี้อาจจะไม่ทันแล้ว เพราะเค้าจัดงานระหว่างวันที่ 17-26 มีนาคม 2566 ค่ะ พลาดปีนี้ไม่เป็นไร ปีหน้าเค้าก็จัดอีกในช่วงเวลาประมาณเดียวกันนี้ สามารถติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวเพชรบุรีได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ :)เครดิตภาพปกและภาพทุกภาพ ถ่ายโดยผู้เขียนส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้