แดงคนเฝ้านก รอยยิ้มส่งแทนคำทายทักมาจากในบ้าน...ก่อนที่แขกหน้าใหม่อย่างผมจะทันก้าวลงจากรถ พี่แดงก็เดินมารอต้อนรับผมอยู่ที่ข้างประตูแล้ว... “สวัสดีครับ..พี่แดง....” เราทักทาย และแนะนำตัวกันนิดหน่อย ก่อนที่จะได้รับการเชื้อเชิญเข้าไปนั่งหลบร้อนในบ้าน...บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของ..‘นก’ พี่แดง...อดีตนักล่าปลาฉลามแห่งท้องทะเลเมืองเพชรบุรี ล่ามากจนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต้องเข้ามาทำความรู้จัก และพยายามขอร้องอยู่นานกว่า..นักล่าอย่างพี่แดงจะวางฉมวก มาจับกล้องส่องนกแทน ทำไมพี่ถึงกล้าทิ้งอาชีพตัวเอง.....คือคำตอบที่ผมอยากทราบ... “การจับปลาฉลามเป็นอาชีพของพี่...เหตุที่เลือกจับปลาใหญ่ เพราะจะได้ไม่ต้องไปแย่งกันจับปลาเล็กอย่างคนอื่นเขา รายได้เราก็ดีกว่า..ได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะคู่แข่งน้อย”....ก่อนที่จะปล่อยเสียงหัวเราะแบบเขินๆออกมา.. แต่พี่ก็หยุด...และทิ้งรายได้... “กลุ่มนักอนุรักษ์หลายกลุ่มเข้ามาหาพี่..มาจากใต้ก็มี..กลุ่มGreenpeace ก็มา แรกๆพี่ก็แค่ฟังๆนะ..มันอาชีพเรานี่นา..จะให้เลิกแล้วไปทำอะไรกินว่าไหม..แต่พอนานวันเข้า สิ่งที่นักอนุรักษ์มาคุยกับเรา เอาเรื่องผลกระทบเกี่ยวกับระบบนิเวศมาให้เราศึกษา เริ่มเห็นว่าเป็นปัญหาจริงๆขึ้นมา เราก็ได้มีโอกาสทบทวน เป็นช่วงที่ป่วยออกเรือไม่ได้พอดี คิดทบทวนอยู่นานนะ เพื่อนๆที่ทำประมงด้วยกันก็บ่นเรื่องของทรัพยากรทางทะเลลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย รายได้หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ สุดท้ายพี่ก็แขวนฉมวก..เลิกเลย” แล้วพี่ทำอะไรต่อครับ “เก็บขยะ.....เก็บขยะที่ลอยมากับร่องน้ำหน้าบ้านนี้หล่ะ..แล้วก็เอาถุงไปแขวนตามบ้านต่างๆในละแวกเดียวกัน ให้เขาทิ้งพวกขยะที่สามารถขายได้ แล้วนำไปขาย ต่อมาก็เริ่มทำกลุ่มธนาคารปูกับเพื่อนที่เป็นชาวประมงด้วยกัน ก็พออยู่ได้นะ รายได้ไม่ดีเหมือนเก่า” ก็ยังไม่เกี่ยวข้องกับการที่ไปเฝ้านกอยู่ดีนะพี่ “เรื่องนี้ถือเป็นความบังเอิญที่โชคดีของพี่นะ อยู่มาวันนึงทางสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทยเข้ามาที่บ้านพี่ มาคุยกันเรื่องสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ โดยมีประเด็นของนกอพยพและนกประจำถิ่นบริเวณพื้นที่แหลมผักเบี้ย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศในพื้นที่บ้านเราได้เป็นอย่างดี เขาก็เสนอให้พี่เป็นผู้ช่วยสังเกตุการณ์ และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์นกต่างๆที่เข้ามาในพื้นที่แหลมผักเบี้ย พี่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อบ้านของเรา อีกอย่างเหมือนการไถ่โทษที่ทำความเสียหายให้กับระบบนิเวศเอาไว้พอสมควรก็เลยเข้ามาทำหน้าที่นี้” ภาพที่คนแหลมผักเบี้ยเห็นพี่แดงในปัจจุบัน จากเดิมมือถือฉมวก กลับกลายมาเป็นมือถือกล้อง ทุกเช้าพี่แดงจะออกพื้นที่กับมอเตอร์ไซต์คู่ใจ แบกขาตั้งกล้องซอกแซกไปตามคันนาเกลือ เพื่อส่องนกคอยถ่ายภาพ เก็บรายละอียด นับจำนวนของนกแต่ละชนิด แล้วพี่รู้จักนกแต่ละชนิดหรือครับ “ไม่รู้จักเลย...” ก่อนปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “ทางสมาคมอนุรักษ์นกฯ มีเอกสาร หนังสือ ตำรา เกี่ยวกับนกชนิดต่างๆมาให้เราศึกษา พาไปอบรม เรียกว่าเริ่มต้นเป็นนักเรียนอีกครั้งตอนแก่...ก่อนลงสนามจริง แรกๆก็ทำๆไปนะ คล้ายๆทำงานประจำ แต่พอนานวันเข้ามันกลายเป็นความรัก ความผูกพันขึ้นมาโดยเราเองก็ไม่รู้ตัว วันไหนหากไม่ได้ไปเฝ้าดูเจ้านกพวกนั้นรู้สึกเหงาๆ บอกไม่ถูก” แหลมผักเบี้ยมีนกสายพันธุ์อะไรที่เข้ามาบ้าง “มีมากพอสมควรนะ ยกตัวอย่างที่เราเห็นบ่อยๆนะ มีนกกรีดน้ำ , นกพงปากยาว , นกยางโทงใหญ่ , นกอีเสือหลังแดงตะโพกเทา , นกแอ่นทุ่ง , นกแอ่นทุ่งใหญ่ , นกกินเปี้ยว , นกแอ่นตาล , นกเค้าดินทุ่งเล็ก , นกชายเลนปากโค้ง นกกาบบัวอี และอีกมากโขแต่ยกเป็นตัวอย่างไว้ประมาณนี้พอนะ ส่วนนกอพยพย้ายถิ่นบางตัวมาแล้วหลงรักแหลมผักเบี้ยมาสร้างครอบครัวใหม่ไม่ยอมกลับก็มี ” จากสิ่งที่ไม่เคยรู้จักกลับกลายมาเป็นความรักและผูกพัน จากเรื่องราวเล็กๆที่สามารถนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการนำไปสู่การวางกรอบในการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต ในช่วงเช้ากระทั่งสายๆ หากใครมีโอกาสได้ใช้เส้นทางแหลมผักเบี้ย หากพบเห็นพี่แดงก็อย่าลืมหาโอกาสแวะทักทายกันบ้างนะครับ หรือใครจะขอติดสอยห้อยตามพี่แดงไปเฝ้านกด้วยกัน พี่แดงก็ไม่ขัด ผมเองลองไปเฝ้านกกับพี่แดงมาแล้ว เป็นการฝึกสมาธิอีกแบบ ต้องนิ่ง เงียบ จ้องและจดข้อมูลที่ได้มาอย่างละเอียด ลืมไปเรื่องหนึ่ง เพราะพี่แดงทิ้งอาชีพชาวประมง รายได้เสริมอีกทางที่พี่แดงมีไว้บริการคือการพานักท่องเที่ยวลงเรือ ไปเฝ้าดูนกที่ปากอ่าว โดยจะไปเป็นหมู่คณะ หรือไปเชิงเดี่ยวก็ได้ เรื่องราคาสามารถคุยกับพี่เขาได้ หรือใครต้องการมาพักแบบโฮมสเตย์พี่แดงเขาก็มีบริการ ใครสนใจสามารถโทรสอบถามราบละเอียดได้โดยตรงครับที่ เบอร์โทร ๐๘๗ ๒๒๓ ๕๒๕๐ เรื่องราวของพี่แดงอาจแลดูง่ายๆ แต่นั่นคือความเสียสละที่พี่แดงให้ต่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศของบ้านเรา แดงคนเฝ้านกจึงไม่ใช่แค่เพียงการเฝ้านก แต่เป็นเสมือนผู้ที่คอยเฝ้ารักษาทรัพยากรธรรมชาติแทนเราอีกหลายคนที่หลงลืม และเผลอทำลายโดยไม่รู้ตัว