สวัสดีค่ะ วันนี้ Taree จะมาชวนเพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่านเข้าครัวทำอาหารหรูหราระดับภัตตาคาร แต่วัตถุดิบหาได้ง่ายตามตลาดนัด นั่นก็คือ เมนูกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา หรือ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา นั่นเองค่ะ เมนูนี้เป็นเมนูที่มีอยู่ในร้านอาหารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารข้างทางจนถึงระดับภัตตาคารห้าดาว วันนี้จึงมาชวนไปเข้าครัวทำอาหารด้วยกัน แต่เราจะไม่ทำแบบธรรมดาแน่นอน แต่จะมาชวนทำ กะหล่ำปลีสองสีผัดน้ำปลา กัน ทำไมต้องเป็น กะหล่ำปลีสองสีผัดน้ำปลา เพราะปกติเราจะผัดกันแค่กะหล่ำปลีสีเขียวเท่านั้น แต่แฟนตัวยงรายการ มาสเตอร์เชฟอย่างเรา จะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นไหน ๆ ก็จะผัดกะหล่ำปลีละ ผัดสองสีกันไปเลย ทั้งกะหล่ำปลีเขียว และกะหล่ำปลีม่วง แถมกะหล่ำปลีม่วงยังมีวิตามินซีสูงกว่ากะหล่ำปลีเขียวถึงสองเท่าเลยนะคะ ก่อนอื่นมารู้จักความแตกต่างของกะหล่ำปลีทั้งสองสีกันก่อนดีกว่า สิ่งที่ Taree สัมผัสได้ก็คือ กะหล่ำปลีเขียวใบจะบางกว่ากะหล่ำปลีม่วง ส่วนเรื่องรสชาตินั้นต้องคอยชิมกันคะ ว่าแล้วก็ไปดูส่วนผสม และวิธีทำเมนู กะหล่ำปลีสองสีผัดน้ำปลา กันเลย ส่วนผสม และเครื่องปรุง 1. กะหล่ำปลีสีเขียว 1 หัว (เลือกหัวเล็ก ๆ พอค่ะ แต่เลือกหัวที่แน่น ๆ เพราะจะบ่งบอกว่ากะหล่ำปลียังสดอยู่) 2. กะหล่ำปลีสีม่วง 1 หัว (เลือกหัวเล็ก ๆ เช่นกัน เพราะจะนำไปรวมกับสีเขียว) 3. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ (ใครไม่ชอบเค็มก็ลดลงนิดนึงได้นะคะ) 4. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา 7. กระเทียมสับหรือโขลกพอแหลก 3 ช้อนโต๊ะ 6. พริกจินดาแดง และเขียว 3 เม็ด (หากชอบเผ็ดก็เพิ่มได้ ใส่เพื่อเพิ่มรสชาติ และสีสัน) วิธีทำ 1. หั่นกะหล่ำปลีขนาดพอดีคำ (แต่ Taree ชอบชิ้นใหญ่ ๆ ค่ะ เลยหั่นชิ้นใหญ่ไปหน่อย) 2. นำกะหล่ำปลีที่หั่นแล้วไปแช่ในน้ำเย็นจัด เพื่อทำให้กะหล่ำปลีมีความสดกรอบ 3. ทั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน 4. ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอมในกระทะ 5. ใส่กะหล่ำปลีลงไปผัดในกระทะด้วยไฟแรงนิดนึงนะคะ (คล้าย ๆ กับผัดผักบุ้งไฟแดง) 6. ใส่น้ำปลาลงไปให้รอบ ๆ ข้าง ๆ กระทะ แต่อย่าใส่ไปตรงกลางโดยตรง ทิ้งไว้ให้น้ำปลาโดนความร้อนให้น้ำมันหอมก่อน แล้วค่อยผัดกะหล่ำปลีคลุกเคล้ากับน้ำปลา 7. ใส่น้ำตาลลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ ผัดให้เข้ากัน 8. โรยพริกจินดาแดง และเขียวลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดนิดนึง หากไม่ชอบเผ็ดไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะ ผัดให้เข้ากันพอกะหล่ำปลีสุก และนิ่มก็ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย ใส่จานเสิร์ฟเรียบร้อย หน้าตาดูน่ารับประทานในระดับนึงเลยนะคะ มาพูดถึงเรื่องรสชาติกันดีกว่า ที่บอกไว้ที่หน้าปกบทความว่า สองรสชาติในจานเดียวนั้น ก็คือ กะหล่ำปลีเขียว และกะหล่ำปลีม่วงมีรสชาติที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยค่ะ แม้จะผัดอยู่ในกระทะเดียวกันก็ตาม กะหล่ำปลีเขียวจะมีรสสัมผัสที่กรอบกว่า และมีรสชาติเค็มเข้ากับน้ำปลาได้ดีกว่า ส่วนกะหล่ำปลีม่วงใบจะหนา และนิ่มกว่า มีรสชาติที่ออกหวานกว่านั่นเอง หากผู้อ่านท่านใดสนใจในเมนูนี้ สามารถนำไปทำทานกันที่บ้านได้ง่าย ๆ อาจจะปรับสูตร และรสชาติตามสไตล์ที่ตนเองชอบได้เลยค่ะ ภาพประกอบโดยผู้เขียน By...Taree