“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564 ชิล ๆ เช่นเดิมเมื่อหนุ่ม-สุทนได้เขียนเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านเช่นเดิม วันนี้ท่องเที่ยวในเทือกเขา "อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า" เขตอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผมเองไปเที่ยวมาเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ได้นำคณะสื่อมวลชนนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเดินทางไปเก็บข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลกอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าการเดินทางไปครั้งนี้ได้ไปพักแรมในอำเภอนครไทยพอรุ่งเช้าเวลา 06.30น. พาคณะสื่อมวลชนขึ้นอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าระยะทางจากอำเภอนครไทยไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าประมาณ 30 ก.ม ถือเป็นยามเช้านั่งรถไปแบบเย็นสบายชิล ๆ โดยเริ่มต้นที่จุดที่ 1 จุดคัดกรองผู้เดินทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ทุกคนต้องฉีดวัคซีนครบ 2 โดส เพื่อป้องกัน covid-19 มีใบรับรองถูกต้องก่อนจะผ่านด่านตรวจสอบเรียบร้อยแล้วขับรถขึ้นเทือกเขาภูหินร่องกล้าผู้เดินทางเข้าอุทยานจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนหรือตรวจเอทีเคแล้วเท่านั้นจุดที่ 2 ชมวิวทิวทัศน์ สวยงามถ่ายภาพโพสต์ท่าตามใจชอบเสร็จแล้วออกเดินทางไปกันต่อครับจุดชมวิวสวยงามจุดที่ 3 บริเวณนี้นักท่องเที่ยวพักแรมด้วยการกางเต็นท์ ใต้ร่มไม้ใหญ่อากาศหนาวเย็นคิคิชอบ ๆ คงถูกใจนักท่องเที่ยวขาชอบก้างเต้นท์แน่นอนครับ แต่คณะสื่อมวลชนมานั่งทานข้าวต้ม ไข่กะทะและจิบกาแฟสดยามเช้าขอบอกอากาศเย็นสบายมาก ๆ ครับ ได้เวลาพอสมควรออกเดินทางไปกันต่อลานกางเต้นท์บริการอาหารเช้า ทามกลางวิวภูเขา อากาศเย็นสบาย ถูกใจสุดสุดครับจุดที่ 4 ดินแดนประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์ในเทือกเขาอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เมื่อคณะถึงทางเข้าดินแดนประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์ก็มีมัคคุเทศก์หรือไกด์ท้องถิ่นรอต้อนรับคือ คุณสิริกานต์ หาญติชกุล เธอเป็นลูกของชาวเขาบนเทือกเขาอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าส่วนหนึ่งได้ความรู้มาจากคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่วัยเด็กจนชำนาญเรื่องราวของท้องถิ่นได้ดีเยี่ยม คุณสิริกานต์ เล่าเรื่องราวให้คณะสื่อมวลชนฟังว่า จุดเริ่มต้นของชาวเขาได้อพยพมาจากเทือกเขาดินแดนประเทศลาวหรือ สปป.ลาว ประมาณปี พ.ศ. 2482 สมัยรัฐบาลท่านจอมพล ป. พิบูลสงคราม เหตุผลที่อพยพเข้ามาเพราะที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีโรงงานผลิตยาแล้วต้องการฝิ่น!!! เป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตยา พอชาวเขารู้ข่าวก็เข้ามาปลูกฝิ่นกันมากบนเทือกเขาแห่งนี้ครั้งกระนั้นยังไม่เป็นอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า คุณสิริกานต์เล่าเรื่องให้ฟังต่อ เมื่อเข้ามาในปี พ.ศ. 2511 เริ่มมี ผกค.หรือพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นมาตั้งฐานปฏิบัติการในบริเวณด้านลานหินปุ่มแล้วแทรกซึมไปในชาวเขาชักชวนให้ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เข้าร่วมกันกับพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยเหตุผลชาวเขาไม่มีข่าวสารแล้วไม่ได้เรียนหนังสือโดยพรรคคอมมิวนิสต์บอกว่าถ้าไม่เข้ารวมกับ ผกค. เราจะขับไร่ออกจากพื้นที่เทือกเขากลับไป สปป.ลาว ด้วยเหตุนี้ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ยอมเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยความจำใจ? ต่อมาทางภาครัฐได้ปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์หมดสิ้น แล้วบริเวณลานหินปุ่มก็กลายเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ที่ ผกค. เคยสู้รบกับกองทัพไทยหรือดินแดนประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์ ทุกวันนี้ถ้าหากท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วไปเที่ยวก็จะเห็นร่องรอยที่หลงเหลือไว้เพื่อการเรียนรู้ เช่น ลานฝึกนักรบ สุสาน สุดแผ่นดินลานหินปุ่มวิวทิวทัศน์สวยงามเหลือเกินหาชมได้ยาก สำหรับ "ลานหินปุ่ม" สันนิษฐานว่าคงเป็นพื้นทรายมูลเมื่อประมาณล้าน ๆ ปี บริเวณนี้น่าจะเป็นทะเลหรืออยู่ใต้น้ำทำให้พื้นทรายเกาะติดกันกลายเป็นหินปุ่ม ๆ เต็มพื้นที่ดูแปลกตาหาชมได้ยากต้องไปเทือกเขาสุดแผ่นดินจุดชมวิวทิวทัศน์ด้านอำเภอนครไทยจังหวัดพิษณุโลก ลานหินปุ่ม มหัศจรรย์ธรรมชาติครับเสร็จแล้วมาอีกจุดที่ ช่องเย็นคือช่องลมพัดผ่านสัมผัสได้ถึงความเย็นสบายทุกเวลา และมาจุดช่องหินแคบ ๆ หรือภาษาชาวเขาเรียก "เปาะหิน" บริเวณนี้มีดอกไม้เรียกดอกสาบเสือเป็นดอกไม้ที่ชาวเขาใช้ดูเวลาสมัยโบราณพอมองดอกสาบเสือและจะรู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว นอกจากนี้มีหินรูปร่างแปลก ๆ ให้เราได้ถ่ายภาพเก็บความประทับใจกันต่อ "ผาหัวใจหิน" และ จุดสุดท้ายบริเวณผาชูธง เป็นชั้นหินสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร มีธงชาติไทยปักหลักอยู่บอกถึงการประสบผลสำเร็จในการสู้รบของดินแดนประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์เมื่อครั้งพรรคคอมมิวนิสต์ยึดพื้นที่ในเทือกเขาแห่งนี้ พอพื้นที่สงบเงียบทุกคนมาพัฒนาประเทศไทยทางภาครัฐก็ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในปี พ.ศ. 2527 เป็นอุทยานแห่งชาติที่ 48 ในพื้นที่ 191,875ไร่ (307ตร.ก.ม) เชื่อมติดกันสามจังหวัดคืออำเภอด่านซ้ายจังหวัดเลย อำเภอนครไทยจังหวัดพิษณุโลกและอำเภอเขาค้อจังหวัดเพชรบูรณ์ ช่องเย็น เย็นตลอดเวลาครับผาหัวใจหินผู้พิชิตผาชูธงน่าสนใจไปท่องเที่ยวเพื่อศึกษาข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และความมหัศจรรย์ของลานหินปุ่ม ช่องผ่านลมพัดเย็น ๆ เขาช่องแคบและผาชูธง มาพักแรมในตัวอำเภอนครไทยเสร็จแล้ว มานั่งจิบกาแฟสดในจุดที่ 4 มีหน้าผาชมวิวทิวทัศน์สวยงามนั่งเล่นเพลิน ๆ หน้าร้านกาแฟพบรัก!!! กาแฟพันธุ์อาราบิก้าซึ่งชาวเขาปลูกกันมากในเทือกเขาอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าพบรักได้ ที่นี่ครับเสร็จแล้วคณะ เดินทางกลับเข้าตัวเมืองพิษณุโลก ขอแนะนำให้พักแรมในอำเภอนครไทยแล้วขับรถยนต์ออกมาเช้า ๆ แบบชิล ๆ ขึ้นอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ท่องเที่ยวให้สุขใจในจังหวัดพิษณุโลกหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 055-252742-3 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30น. ขอขอบคุณ ผอ.ญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอย่างดีเยี่ยม "เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับผอ.ญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลกเรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟสบุ๊ค#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืนวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !