ได้เวลาหันหลังให้กับคอมพิวเตอร์ชั่วคราว แล้วหันหน้าให้กับธรรมชาติ ป่าเขา และความหนาวเย็นของหน้าฝน กับทริปกางเต็นท์ เล่นหมอก ชมดอกไม้ ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก เส้นทางจากตัวเมืองพิษณุโลก มุ่งตรงสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ทางหลวงหมายเลข 2331 อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ระยะทางโดยประมาณ 130-140 กม. ใช้เวลาขับขึ้นเขาก็ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ (ด้วยความเร็วปกติ ไม่ได้ขับเร็วมากนะ) ถนนค่อนข้างดี สะดวก ใช้รถเก๋งเล็กๆขึ้นได้สบายเลย ระหว่างทางขึ้นจะมีจุดแวะพักชมวิวสวยๆ ให้เราได้แวะพักรถกันซักนิดก่อนไปถึงทางเข้าอุทยานฯ ว่าแล้วก็ต้องจอดกันสักหน่อย...จากจุดชมวิวนี้ เราจะสามารถมองเห็นเมืองพิษณุโลกและอำเภอนครไทยที่เป็นวิวแห่งธรรมชาติได้ชัดเจนมากๆ หากใครพกกล้องส่องทางไกลมาคงได้เห็นความสวยงามชัดกว่าเดิม เพราะเราจะได้เห็นวิวเต็มๆ แบบ 180 องศาเลยทีเดียวจ้า เมื่อเข้ามาถึงปากทางเข้าอุทยาน เราจะต้องซื้อบัตรเข้ากันก่อน (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชม) โดยมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ เข้ามากล่าวทักทายด้วยถ้อยคำที่สุภาพมากๆ สอบถามว่าเราเข้ามาเยี่ยมชมอุทยานฯ หรือว่าต้องการพักผ่อนค้างคืน และมาทั้งหมดกี่คน โดยอัตราค่าเข้าอุทยานฯ มีดังต่อไปนี้นะ นักท่องเที่ยวชาวไทย / เด็ก 20 บาทต่อคน / ผู้ใหญ่ 40 บาทต่อคน ค่ารถยนต์เข้าไปกางเต็นท์ 30 บาทต่อคัน คุ้มค่ะ กับค่าธรรมเนียมเข้าชมของอุทยานฯ เพราะรายได้ทั้งหมดนี้ ทางอุทยานฯก็ได้นำไปใช้ประโยชน์ปรับปรุงซ่อมแซม โดยเฉพาะห้องน้ำซึ่งห้องน้ำที่นี่ขอบอกว่าสะอาดมากจริงๆ ดูเป็นสัดส่วน และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด และแล้ว...เราก็เข้ามาถึงภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตอนนี้เวลาประมาณ 11.00 น. มีฝนตกจากบริเวณรอบๆ อากาศครึ้มสบาย และจู่ๆ ก็มีหมอกไอความเย็นลอยอยู่เต็มไปหมด มันช่างฟินอะไรขนาดนี้นะ นี่เราอยู่สวิตเซอร์แลนด์รึป่าวเนี่ย ยืนยิ้มท่ามกลางเขาป่าต้นสนที่ขึ้นเรียงรายเต็มไปหมด ที่อุทยานฯ มีพื้นที่ให้เรากางเต็นท์ได้กว้างขวางมากๆ เราสามารถเลือกสถานที่ได้ตามสบายในบริเวณที่เจ้าหน้าที่อนุญาต เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบกางเต็นท์นอนใกล้คนอื่น (เทียบกับลานกางเต็นท์ที่อื่น ที่มีเต็นท์เรียงติดๆ กัน ถ้าเต็นท์ไหนนอนกรน รับรองคุณคงไม่ได้นอนยันเช้า) เพราะเราคิดว่า กว่าเราจะมีเวลาได้หยุดงาน การมาพักผ่อนหย่อนใจแบบนี้ เราต้องการความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง ความฟินมันอยู่ที่ เราได้มีพื้นที่ในการปิ้งย่าง ทำอาหารกินร่วมกันกับครอบครัว และเด็กๆ สามารถวิ่งเล่นได้ในละแวกใกล้ๆ ดังนั้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านี้แหละ เป็นสถานที่ที่เราเลือกมาเป็นประจำทุกปีเลยจริงๆ และตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ 14.00 น. ก็ยังคงมีหมอกและอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน เราเริ่มกางเต็นท์ และนำอุปกรณ์การปิ้งย่างออกมาทำกินกัน บางคนก็นอนหลับพักผ่อน บางคนก็เดินถ่ายรูปธรรมชาติสวยๆ และตอนนี้ก็เริ่มมีเต็นท์อื่นๆ เข้ามาจับจองพื้นที่กันบ้างแล้ว ส่วนเรานั้นรับหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กค่ะ (หน้าที่ทำกับข้าวเป็นของผู้ชายแล้วสมัยนี้ ฮ่าๆ) เราไปพาเด็กๆ เดินเล่น ถ่ายรูป กันดีกว่า อากาศเริ่มเย็นลงนิดๆ อุณภูมิน่าจะอยู่ที่ 19-20 องศา ถือว่าไม่ได้หนาวสั่นอะไรมากมาย กำลังเย็นสบายเลยล่ะค่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อน พอตกเย็นซักประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป มันก็เริ่มหนาวอยู่เหมือนกันนะ เพราะมีฝนตกปรอยๆ ลงมาด้วย และก็ถึงเวลาอาบน้ำกัน ห้องน้ำที่อุทยานฯ ค่อนข้างสะอาดค่ะ แยกสัดส่วนอาคารห้องน้ำชาย-หญิงชัดเจน ข้างในคล้ายๆ ห้องน้ำตามปั๊มน้ำมันนะ มีกระจกบานใหญ่ๆ ให้ยืนแต่งหน้า มีอ่างล้างหน้าให้ยืนแปรงฟันสะดวกดี มีเต้าเสียบปลั๊กอยู่หน้าห้องน้ำ ถ้าใครอยากไปยืนชาร์ตแบตโทรศัพท์ก็ได้ ข้างในมีฝักบัวและก๊อกน้ำให้เราเลือกใช้ได้ น้ำที่นี่ค่อนข้างเย็นมากๆ ด้วย (ไม่มีน้ำอุ่นนะจ๊ะ) เราว่าน้ำที่นี่สะอาดนะ ห้องน้ำก็ไม่มีกลิ่นเหม็นด้วย แต่ที่เลี่ยงไม่ได้คือ แมลงเพลี้ยตัวน้อยๆ ซึ่งก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร แค่เราเดินเข้าไปมันก็บินหนีแล้ว ฮ่าๆ เสียดายรูปห้องน้ำไม่มี เพราะเราลืมถ่ายจริงๆ เลยขอบรรยายให้เห็นภาพก็แล้วกันนะ เวลา 19.30 น. ฝนตกลงมาแบบชุ่มฉ่ำ แต่ไม่หนักมาก เราอุตส่าห์พกไฟระยิบระยับมาเพื่อประดับเต็นท์ แต่ก็อย่างว่า นี่มันหน้าฝนนี่นา เราไม่สามารถติดไฟได้เลย มีแต่แสงไฟจากตะเกียงที่เปิดใช้งานได้ตอนนั่งกินหมูย่างกัน แต่เท่านี้ก็มีความสุขล้นเหลือแล้วค่ะ และเมื่อถึงเวลา 21.00 น. กิจกรรมทุกอย่างของทุกเต็นท์จะต้องเงียบสงบลง เนื่องด้วยกฏของอุทยานฯ ที่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ทุกเต็นท์ไม่ส่งเสียงดังรบกวนกัน ซึ่งทุกเต็นท์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในคืนนี้ (ก็ฝนมันตก คงต้องนอนซุกในผ้าห่มอย่างเดียวแหละ) ก่อนเข้านอน อย่าลืมเก็บอาหารให้เรียบร้อยนะคะ ที่อุทยานฯ จะมีน้องหมาตัวน้อยๆ วิ่งเล่นในนี้ด้วย บอกแค่นี้คงเข้าใจกันนะจ๊ะ เช้าแล้วจ้า เมื่อคืนนอนหลับสบายมากๆ นอนฟังเสียงฝนตกกระทบลงบนเต็นท์เปาะแปะทั้งคืน มันเพลินและมีความสุขดีจริงๆ เอาจริงๆ นะ หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ อิอิ เช้ามาก็ยังคงมีหมอกหนาปกคลุมพื้นที่เต็มไปหมด มีเสียงเปิดซิปจากเต็นท์อื่นๆ ตื่นออกมาสูดอากาศยามเช้ากันแล้ว ใครที่ยังอยากนอนหลับ ก็ปล่อยให้นอนต่อไป (ก็อากาศดีแบบนี้ จะให้ทำอะไรล่ะคะ ฮ่าๆ) ส่วนเราขอออกมาเดินสูดอากาศดีกว่า เวลา 09.00 น. ยังคงไม่มีแสงแดดออกมาในตอนนี้ บรรยากาศดีโคตรๆ และตอนนี้ท้องก็เริ่มร้องดังแล้วค่ะ เดินเล่น แกว่งแขน แกว่งขา ถ่ายรูปไปเพลินๆ แล้วก็เดินกลับมาเต็นท์ทำอะไรกินกันดีกว่า ความจริงแล้ว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านั้น มีสถานที่ให้เราไปเที่ยวชมอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลานหินแตก ลานหินปุ่ม โรงเรียนการเมืองทหาร กังหันน้ำ หรือหากใครที่ชอบการผจญภัยก็ต้องไปพิชิต ผาชูธง ซึ่งเราการันตีเลยว่ามันดีจริงๆ ทริปนี้ ไม่ได้มีอะไรมากมายเลยจริงๆ ค่ะ เน้นการพักผ่อนอย่างเดียว ในฐานะคนทำงานออฟฟิศ ทำงานประจำแบบเรา การละทิ้งจากโลกแห่งความวุ่นวาย พับหน้าจอคอมพิวเตอร์และอีเมล มานอนสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่บนยอดเขาเช่นนี้ แค่นี้ ก็ถือว่าเป็นการชาร์ตแบตร่างกายที่ดีที่สุดแล้วค่ะ เพราะการอยู่กับธรรมชาติ มันทำให้เราได้เติมเต็มพลังแห่งชีวิต เพื่อนๆ ว่ามั๊ยคะ หากเพื่อนๆ ต้องการเข้ามาพักที่นี่ละก็ สามารถเข้าไปเช็ครายละเอียด หรือสอบถามได้ที่ โทรศัพท์ : 081 596 5977 E-mail : phuh-055@hotmail.co.th สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ : AIS, TRUE, DTAC สถานที่ติดต่อ : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตู้ ปณ. 3 อ.นครไทย จ.พิษณุโลก 65120 ข้อมูลอุทยานฯ จาก http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1048 อย่าลืมติดตามทริปผจญภัยของเราในบทความหน้านะคะ บ๊าย บาย รูปภาพโดยนักเขียน : Suchtaew