ท่ามกลางความหวั่นวิตกของประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลได้เอามาตรการขั้นสุดมาใช้แล้ว นั่นคือ การปิดเมือง รวมถึงตลาดสด ห้างสรรสินค้า คงไว้แต่ร้านขายยาและร้านอาหาร ที่อนุญาตให้ซื้อกลับบ้านได้ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกจนทำให้ผู้คนเกิดการกักตุนสิ่งของที่จำเป้นต่อการยังชีพ แต่ในมุมกกลับ มีอีกอาชีพหนึ่งที่สวนกระแส และตอบโจทย์ในสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี นั้นก็คือ รถขายกับข้าวสำเร็จรูป รวมทั้งผัก ผลไม้ และอาหารสด ซึ่งมีทั้งรถกระบะ รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง หรือรถเข็นที่เร่ขายไปตามหมู่บ้าน ตรอก ซอยต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เก็บตัวอยู่ในบ้านช่วงนี้ได้มากทีเดียว ก่อนนี้ที่เราอยู่แถวบ้านซึ่งไกลจากร้านค้า และตลาดหลายกิโลเมตร ไปมาก็ลำบาก โชคดีมีรถเร่ขายกับข้าว หรือที่รู้จักกันว่า รถพุ่มพวง ที่เข้ามาขายในหมู่บ้าน ซึ่งจะเอาผักสด ผลไม้ เนื้อสด แบ่งใส่ถุงห้อยตามข้างรถ และกำหนดราคาสินค้าแต่ละอย่างไว้ชัดเจน สะดวกทั้งคนซื้อและคนขาย เวลาคิดเงินหากอยากได้อะไรนอกเหนือจากที่พ่อค้าแม่ค้าเอามาก็สั่งได้เลย นับว่าเป็นการบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากตลาดได้ดีมาก ในปัจจุบัน รถเร่ขายกับข้าวได้มีการพัฒนานอกเหนือจากการขายอาหาร โดยมีรถเร่ขายสินค้าสิ่งของเครื่องใช้ มีทั้งของใช้ในครัวเรือน เสื้อผ้า รองเท้าก็มี รถพุ่มพวงมาจากไหน? จุดกำเนิดของรถพุ่มพวง นี้ เกิดขึ้นมานานแล้วประมาณปี พศ.2531-2534 เป็นช่วงที่ธุรกิจการจัดสรรที่ดินเฟื่องฟู เมื่อมีการตัดถนนสายใหม่ ๆ มีแคมป์คนงานก่อสร้างในโครงการจัดสรร แต่ไม่มีแหล่งที่ซื้อสินค้า รถพุ่มพวงจึงเป็นตลาดขายสินค้าให้กับคนงานเหล่านี้ และในปี พ.ศ 2532 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเริ่มเข้ามาในประเทศไทย ทำให้ร้านโชห่วยที่มีอยู่เดิม มีการปรับตัวโดยบางคนก็ไปขายของแบบรถเร่ และจากการที่ไปเร่ขายในพื้นที่ไกลและยังไม่มีชุมชน รถเร่จึงมี “โทรโข่ง” ประกาศให้รู้ว่า ตลาดสดเคลื่อนที่กำลังมา นอกจากเสียงประกาศก็จะเปิดเพลงลูกทุ่งควบคู่ไปด้วย ตอนนั้นเพลงของพุ่มพวงได้รับความนิยม เลยได้ยินเพลงพุ่มพวงจากรถขายกับข้าวมากเป็นพิเศษ จึงเป็นอันรู้กันว่าถ้าได้ยินเพลงพุ่มพวงแสดงว่ารถขายกับข้าวมาแล้ว และคำว่า “พุ่มพวง” ก็ไปสอดคล้องกับของที่ขายด้วยการห้อยเป็นพุ่มเป็นพวงพอดี รถพุ่มพวงเป็นที่นิยมในวงกว้าง นอกจากชื่อพุ่มพวง ยังมีอีกชื่อว่า รถโตงเตง ซึ่งเป็นชื่อที่คนแถบภาคอีสานตั้งให้ ซึ่งดูจากลักษณะของถุงที่แขวนไว้ที่รถ เวลารถวิ่งก็จะแกว่งไปมาโตงเตง คนในแถบภาคเหนือจะเรียกรถพุ่มพวงนี้ว่า กาดอ๊อดอ๊อด เพราะเวลาที่ไปขายกับข้าวจะมีลำโพงหรือบีบแตรเป็นสัญญาณให้คนแถวนั้นว่ารถขายกับข้าวมาแล้วนะ บางพื้นที่รถขายกับข้าวก็มีบริการคล้ายเดลิเวอรี่ วันไหนอยากกินอะไรพิเศษก็โทรไปสั่งตามเบอร์ที่ให้กันไว้ได้เลย ไม่เพียงแต่มีรถเร่เท่านั้น ยังมีเรือขายกับข้าวให้กับคนที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำ ช่วงนั้นยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่พอเกิดเหตุการณ์ฟองสบู่แตก ในปี พ.ศ. 2539 – 2540 รถขายกับข้าวก็เริ่มคึกคักได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ แผงลอยหรือรถเข็น ปรับเปลี่ยนมาใช้กระบะแทน ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้ารถกับข้าว จะเป็นสามีภรรยา หรือบางคันก็เป็นญาติกัน โดยแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะเป็นคนขายและใครจะขับรถ ทำไมต้องห้อยของเป็นพุ่มเป็นพวง เพราะว่าพื้นที่ท้ายรถกระบะมีจำกัด หากวางของซ้อนกันมากเกินไปจะทำให้สินค้าบางอย่างเสียหายได้ จึงต้องแบ่งของเป็นถุงๆ ห้อยไว้ ซึ่งช่วยในการแยกประเภทของสินค้าให้หาง่าย และยังง่ายต่อการคิดราคาอีกด้วยนะ เวลาขายจะมีสองรอบคือ รอบเช้า บางคันก็วิ่งตั้งแต่ตี 5 - 10.00 น. รอบบ่าย ตั้งแต่ 15.00-19.00 น. หรือแล้วแต่จะกำหนดเอง มีทั้งลูกค้าประจำและหน้าใหม่มาอุดหนุนกันเนือง ๆ ในยุคก่อนมีรายได้ไม่ต่ำกว่าแสนบาทต่อเดือน แต่ในปัจจุบันเฉลี่ยแล้วมีรายได้เฉลี่ย 3 - 4 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งก็นับว่าอาชีพนี้ยังได้รับความนิยมไม่เปลี่ยนแปลง กลุ่มเป้าหมายของรถกับข้าวจะเป็น แม่บ้าน คนที่เดินทางไม่สะดวก ผู้สูงวัย ตามหมู่บ้านจัดสรร และย่านชุมชน ไปจนถึงคนงานก่อสร้างตามไซต์งานและโรงงาน และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนอยู่ในบ้านเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส รถขายกับข้าวน่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าใช้บริการนอกจากผู้ให้บริการรับส่งอาหารเดลิเวอรี่ค่ะ... ข้อมูลอ้างอิง 1.งานวิจัยเรื่อง “รูปแบบและการให้บริการของ ‘รถพุ่มพวง’ ของต่อพัฒนาการของชุมชนบ้านจัดสรร” โดย รศ. ยุวดี ศิริ 2.งานวิจัยเรื่อง “พัฒนาการของที่ดินจัดสรร-การจัดสรรที่ดินที่ส่งผลต่อการกำหนดรูปแบบสาธารณูปโภคและ สาธารณูปการของโครงการจัดสรรตั้งแต่ พ.ศ. 2490-2530” โดย รศ. ยุวดี ศิริ ภาพประกอบจาก Phitsanulok Hotnews โดยได้รับการอนุญาตให้ใช้ภาพเรียบร้อยแล้ว ภาพปกจาก https://www.pexels.com/photo/woman-selling-fruits-2883704/