ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีทำให้ชีวิตเรารวดเร็วจนเกินไป บางครั้งเราก็อยากหยุดใช้ชีวิตแบบช้า ๆ ดูบ้าง เพื่อที่จะมีเวลาทบทวนชีวิตของตัวเอง เมื่อปลายปี 2562 เราเลยวางแผนหาที่พักผ่อนช่วงวันหยุดปีใหม่ อยากจะไปสูดอากาศดี ๆ รับลมหนาวแบบไม่ต้องขึ้นเหนือ หาข้อมูลจนเจอว่ามีที่น่าสนใจ ตอบโจทย์แบบที่เราต้องการ แถมอากาศก็ดีทั้งปี สถานที่นั้นก็คือ "บ้านร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก" หมู่บ้านร่องกล้า อยู่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ติดกับอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หมู่บ้านนี้เป็นชุมชนที่มีเผ่าม้งและคนไทยอยู่อาศัย ทำให้มีวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างสองชนเผ่า พื้นที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยประมาณ 1,400 เมตร สภาพอากาศเย็นทั้งปี พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกพืชผลเมืองหนาว เช่น สตรอว์เบอรี่ กะหล่ำปลี แครอท ฟักทอง เป็นต้น ในตอนนั้นเรารู้ข้อมูลแค่ว่า บ้านร่องกล้า เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขึ้นรถเพื่อไปชมภูลมโล ในเทศกาลของดอกพญาเสือโคร่งบาน เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี และในช่วงที่เราไปตรงกับวันปีใหม่พอดี ซึ่งในทุก ๆ ปี ดอกพญาเสือโคร่งจะยังไม่บาน มันจะบานช่วงกลางเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ แล้วแต่สภาพภูมิอากาศในช่วงนั้น ๆ แต่ปีนี้ 2563 เป็นปีที่โชคดีสำหรับเรามาก ๆ เพราะวันที่ไปถึงบ้านร่องกล้า คือช่วงที่ดอกพญาเสือโคร่งกำลังเบ่งบานเต็มที่ ปีนี้บานเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2562 ภาพแรกที่จำได้ตอนขับรถเข้าไปในหมู่บ้าน เห็นสะพานเข้าหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีต้นพญาเสือโคร่งออกดอกสีชมพู และมีบ้านเรือนเรียงราวขึ้นไป ตามระดับลดหลั่นของภูเขา ช่างเป็นหมู่บ้านที่แสนจะน่ารักโรแมนติค แถมอากาศก็เย็นสบาย อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส ได้เห็นด้วยตาของตัวเองจริง ๆ เลยค่ะ ในส่วนของที่พัก เราจองที่พักผ่านบ้านตานวยโฮมสเตย์ เราแจ้งจำนวนคนที่จะพัก กับวันเข้าพัก แล้วเขาจะเป็นคนหาบ้านพักที่เหมาะกับคณะของเราให้ ที่พักจะเป็นแบบโฮมสเตย์ มีหลากหลายแบบ หลายราคา แบบพัก 3 - 4 คน หรือจะมาคณะใหญ่ 10 คนขึ้นไปก็มี โดยบ้านพักจะมีของใช้พื้นฐานไว้ให้ เช่น ที่นอน ผ้าห่ม หมอน กาน้ำร้อน ห้องน้ำในตัว เรียบง่ายตามสไตล์ของโฮมสเตย์ ในส่วนของอาหารการกิน ที่เห็นจะมีร้านอาหารเล็ก ๆ อยู่ไม่กี่ร้าน แต่ที่เราพัก อยู่ใกล้กับร้านกาแฟบ้านตานวย ที่นี่จะมีเครื่องดื่ม และอาหารขาย เป็นอาหารตามสั่งทั่วไป ผัดผักอร่อยดี ไข่เจียวบ้านร่องกล้า ก็อร่อยมาก คงเป็นเพราะวัตถุดิบผักที่ใช้สดใหม่จึงหวานกรอบ และที่พลาดไม่ได้ เมนูเครื่องดื่มขึ้นชื่อของที่นี่คือ "กาแฟขี้ชะมด" ทุกคนลองมาชิมได้นะคะ ราคาแก้วละ 300 บาท ไม่แพงเลยถ้าเทียบกับที่อื่นๆ และในตอนกลางคืนเราสามารถโทรสั่งหมูกระทะมากินหน้าบ้านพักก็ได้ด้วย แถว ๆ นั้น มีขายอยู่หลายเจ้าเลยค่ะ (เราไปช่วงเทศกาลปีใหม่ทำให้มีของขายเยอะกว่าปกติ) ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยว จุดเด่นของที่นี่ และหลาย ๆ คนคงเคยได้ยิน "ตลาดนัดเด็กดอย" ทางหมู่บ้านจะจัดสถานที่ไว้ให้เด็ก ๆ ชาวเขา เอาผลผลิตทางการเกษตรของชาวไทยภูเขาเผ่าม้งในหมู่บ้าน มาขายหลากหลายอย่าง เช่น ผักและผลไม้เมืองหนาว ของที่ระลึกท้องถิ่น เป็นต้น อย่าลืมมาซื้อของช่วยเด็ก ๆ กันนะ (เท่าที่หาข้อมูลมา ตลาดนัดเด็กดอยจะเปิดเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตอนที่เราไปเป็นช่วงที่ดอกพญาเสือโคร่งบาน ทางหมู่บ้านได้ติดไฟใต้ต้นดอกพญาเสือโคร่งในตอนกลางคืนด้วย สวยไปอีกแบบดีค่ะ ข้างหลังตลาดนัดเด็กดอย จะเป็นสวนสน มีเปลผูกไว้กับต้นไม้ มีชิงช้าให้นั่งไกวเล่น มีที่นั่งให้เราได้พักผ่อน หากได้หนังสือสักเล่ม หรือได้ใช้เวลาทบทวนกับตัวเอง เป็นเวลาที่ดีไม่น้อยเลยนะคะนอกจากนั้น เรายังสามารถเดินดูรอบ ๆ หมู่บ้านได้ด้วย นอกจากได้รับอากาศดี ๆ มีดอกพญาเสือโคร่งบานทั้งหมู่บ้าน ก็จะมีสวนดอกไม้ สวนสตรอว์เบอรี่ สวนกะหล่ำปลี แล้วแต่ฤดูกาลว่าชาวบ้านจะปลูกอะไร ถึงแม้ทางเดินจะขึ้นเนินบ้าง ลงเนินบ้าง ก็ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว เห็นมีพื้นที่กางเต้นท์ได้ด้วยนะคะ เพื่อน ๆ สามารถสอบถามศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในชุมชนบ้านร่องกล้าได้เลย *หากต้องการไปดูดอกพญาเสือโคร่ง ควรไปช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ควรหาข้อมูลในแต่ละปี เนื่องจากดอกพญาเสือโคร่งจะบานปีละครั้งตามสภาพภูมิอากาศ ควรตรวจสอบก่อนการเดินทาง แต่ถ้าไปหาอากาศเย็นสบาย ที่นี่อากาศดีทั้งปีแน่นอนค่ะ การเดินทาง รถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด สามารถขึ้นได้สองฝั่ง จากฝั่ง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หรือทางฝั่ง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทางหล่มสักจะใช้เส้นทางเดียวกันกับขึ้นมาภูทับเบิก ทางจะคดเคี้ยวสูงชันกว่าฝั่งนครไทย เพื่อน ๆ สามารถเปิด google map ศึกษาเส้นทางตามที่สะดวกได้เลย สุดท้ายนี้ เราคิดว่าบ้านร่องกล้า ถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูหนาว ถึงแม้ดอกพญาเสือโคร่งจะไม่บาน ก็ยังเหมาะที่จะเลือกมาพักผ่อนหาความสงบให้กับตัวเอง อยากให้ทุกคนได้ลองมาใช้ชีวิตช้า ๆ ที่บ้านร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก กันสักครั้ง สถานที่ที่อากาศดีทั้งปี ผู้คนก็อัธยาศัยน่ารัก มีวัฒนธรรมเอกลักษณ์แบบเฉพาะถิ่น และยังเป็นการช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นให้มีรายได้อีกทางนึงด้วย คนที่ไปเยือนบ้านร่องกล้าต้องตกหลุมรักหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขานี้อย่างแน่นอน รูปภาพประกอบบทความ โดยผู้เขียน