อื่นๆ
... วิญญาณ...ล่ารัก...

แผ่นหยกเป็นรูปวงรีขนาดเท่าฝ่ามือ ด้านหน้า ถูกแกะสลักเป็นรูปใบหน้าหญิงสาว อีกด้านหนึ่ง ถูกแกะเป็นรูปชายหนุ่ม ด้านที่เป็นหน้าหญิงสาว เห็นชัดว่าลายที่แกะสลักนั้นแกะรูปหน้าหญิงสาวที่สวยงาม ลายเส้นยังคงเด่นชัด หากแต่ด้านหลังลายเส้นลางเลือน ดูออกแต่โครงหน้าว่าเป็นผู้ชาย และน่าจะเป็นชายหนุ่ม อยู่ในช่วงชีวิตเดียวกันกับหญิงสาวคนนั้น
แผ่นหยกแผ่นนี้ สิงห์ได้รับการยืนยันมาแล้วว่าอยู่ในช่วงกรุงศรีอยุธยา แต่เขาในฐานะนักโบราณคดี ต้องค้นคว้าข้อมูลให้มากกว่านี้ เพื่อการศึกษาในด้านอื่นๆต่อไป
อานนท์ กับทรงพล เพื่อนร่วมงานของสิงห์มองแผ่นหยกนั้น อย่างไม่สนใจอะไรนัก มองแค่เป็นของเก่า ที่ต้องนำมาศึกษาเพราะเป็นงานที่จะต้องทำ แต่สิงห์กลับรู้สึกว่าภาพสลักของหญิงสาวนั้นช่างงดงาม อานนท์เห็นสิงห์มองแผ่นหยกอย่างสนใจมากๆ ก็อดจะแหย่ไม่ได้ว่า...คืนนี้หญิงสาวในแผ่นหยก...จะมาหา...
Advertisement
Advertisement
สิงห์นำแผ่นหยกกลับมาที่ห้องพัก วางบนโต๊ะทำงานอย่างระมัดระวัง สิ่งหนึ่งในความรับผิดชอบของเขาก็คือ จะต้องทำให้ชิ้นงานที่อยู่ในความรับผิดชอบไม่มีอะไรเสียหาย...
“มันเป็นของของเจ้า....”
เสียงที่ดังขึ้นเป็นภาษาจีน สิงห์ไม่ได้เรียนภาษาจีนมา แต่เขาเข้าใจได้ทันที ราวกับเป็นภาษาของเขา ไม่เพียงแต่สิงห์เข้าใจข้อความนั้น แต่ความรู้สึกก็เกิดขึ้นในจิตใจด้วยว่า เขาเป็นเจ้าของแผ่นหยกชิ้นนี้
สิงห์วางแผนหยกไว้ที่เดิม และเตรียมตัวที่จะเข้านอน เพราะดึกมากแล้ว เมื่อเขาเปิดประตูห้อง จะเข้าไปที่เตียง เขาก็ต้องชะงักกึก เมื่อเห็นร่างผู้หญิงคนหนึ่ง ในชุดกี่เพ้าแบบโบราณ นั่งอยู่บนเตียงนอนของเขา หญิงสาวใบหน้าสวยจ้องมาที่เขา สีหน้าบึ้งตึง แล้วร่างนั้นก็หาบวับไป
สิงห์ไม่ใช่คนกลัวผี แต่ก็ถึงกับผงะด้วยความตกใจ...เมื่อเขาเพ่งมองอีกครั้ง ก็พบว่าที่เตียงว่างเปล่า...ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น...ตาฝาด...เขาบอกตัวเองอย่างนั้น แล้วเข้านอนไปตามปกติ
Advertisement
Advertisement
ตลอดระยะเวลาหลายวัน...สิงห์หาข้อมูลเรื่องแผ่นหยกรูปหญิงชายคู่นั้น...เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ยาก...เขาได้ยินเสียงพูด ทั้งเสียงของผู้หญิง เสียงของผู้ชาย...เสียงของผู้คน ทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก ผ่านเข้ามาในความรู้สึกของเขาอย่างมากมาย ทำให้เขาเข้าใจทุกอย่าง...
ร่างของหญิงสาว...ปรากฏขึ้นที่ริมหน้าต่าง มองตรงมาที่สิงห์...ด้วยความเข้าใจภาษาจีนได้อย่างมหัศจรรย์ เขารู้แล้วว่าเธอชื่อจาง ลี่...หญิงสาวที่มีความงามสมดั่งคำแปลของชื่อ เธอเป็นคนรักของ หวัง เหล่ย หนึ่งในขุนนาง ที่เดินทางมากับขบวนเรือสำเภา เพื่อมาทำการค้าในราชอาณาจักรไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา
ก่อนเดินทางหวัง เหล่ย สั่งแกะสลักแผ่นหยก ด้านหนึ่งแกะสลักเป็นรูปเขา อีกด้านหนึ่งเป็นรูปจางลี่ และให้เธอไว้เป็นที่ระลึกก่อนออกเดินทาง โดยบอกว่าทันทีที่เขากลับมา เขาจะแต่งงานกับเธอ เขาให้สัญญาว่าจะไม่นอกใจเธอ จางลี่ขอให้เขาสาบานว่า ถ้าผิดคำพูด เขาจะต้องตาย และไม่ว่าชาติใด ภพใด ดวงวิญญาณของเธอจะติดตามหาเขาให้พบ เพื่ออยู่เคียงข้างกันตลอดไป...
Advertisement
Advertisement
สิงห์ตะลึงงันกับสิ่งที่รับรู้ได้ในความรู้สึกของเขา...ใบหน้าของเขาซีดเผือด...เมื่อตระหนักได้ว่า ตัวเขาเองคือ หวัง เหล่ย ชายหนุ่มผู้ทรยศกับรักแท้ของจาง ลี่
ในอดีตนั้น...เมื่อเดินทางออกมาจากแผ่นดินใหญ่ เขาไม่เคยได้กลับไปอีกเลย เพราะแต่งงานกับหญิงไทย และได้ข่าวในอีกหลายปีต่อมาว่าจาง ลี่ฆ่าตัวตาย เมื่อรู้ว่าเขาเปลี่ยนใจไปจากเธอ
“ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องทำตามคำสาบาน” เสียงดุดันของจาง ลี่ ดังขึ้น
“ไม่...ผมไม่ใช่...หวังเหล่ย...ผมชื่อสิงห์...”
น้ำเสียงของสิงห์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ข้ายังไม่เคยเอ่ยชื่อหวังเหล่ย...แต่เจ้าก็รู้นี่...ถึงเวลาของเจ้าแล้ว...”
จางลี่หยิบมีดที่ซ่อนไว้ในเสื้อขึ้นมา
“เจ้าจะตายเช่นเดียวกับข้า”
สิงห์พยายามอ้าปากจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ปากเขาไม่สามารถอ้าได้ มันเหมือนมีใครเอามือมาปิดปากเขาไว้ และเข้าไม่สามารถจะหยุดยั้งมือของเขา ที่เอื้อมไปหยิบมีดปอกผลไม้ที่โต๊ะได้ สิ่งที่เขาทำก็คือ เมื่อจางลี่ยกมีดขึ้นสูง มือของเขาก็ยกขึ้นตาม และด้วยความรวดเร็ว
มือที่กำมีดก็ปักฉึกที่หน้าอกตัวเอง!
สิงห์เจ็บปวด แต่ไม่มีเสียงร้องหลุดออกมา ร่างของเขาไปกองอยู่ที่พื้น เลือดไหลนองพื้น เขาสิ้นใจ ตาเบิกโพลง อยู่ตรงนั้น
วิญญาณของสิงห์ลอยออกมาจากร่าง จางลี่ยิ้มแล้วยื่นมือไปตรงหน้า สิงห์ยิ้มให้ แล้วเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้ แล้วร่างทั้งสองก็เลือนหายไป พร้อมๆกับที่แผ่นหยกด้านที่เป็นรูปชายหนุ่ม ลายเส้นปรากฏเป็นรูปหน้าของสิงห์อย่างชัดเจน...
ขอบคุณต้นฉบับภาพ :: Bride and Breakfast HK
ดัดแปลงโดยโปรแกรม :: PhotoScape
ความคิดเห็น
