สวัสดีครับ กระผม ส.อ.อัศวนนท์ กุลฉวะ แอดมินเพจประวัติศาสตร์ สำหรับวันนี้ ก็เช่นเคยครับ ผมจะมานำเสนอบทความเกี่ยวกับพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งในเขตพระราชฐานฝ่ายใน แห่งพระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีประวัติการก่อสร้างตามควรที่จะเป็นไปได้ดังต่อไปนี้ ตามมาอ่านกันเลยครับ (ข้อความด้านล่างเป็นการเรียบเรียง ผสมข้อสันนิษฐานส่วนตัวจากหลักฐานเท่าที่ค้นคว้าศึกษามาได้ มิได้คัดลอกเว็บไซต์อื่นแต่อย่างใด) (ภาพโมเดล พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งตั้งอยู่กลางเกาะในเขตพระราชฐานชั้นใน ในพระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยา จัดแสดงที่ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ถ่ายภาพโดย เจ้าของบทความ) ซึ่ง นิโกลาส์ แชรแวส ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ฯ ได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยาไว้ดังนี้ ซึ่งมีความที่กล่าวถึงพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ ไว้ด้วยดังนี้ พระที่นั่งองค์ที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินอยู่ที่ลานชั้นในสุด เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ ทองคําที่ประดิดประดับไว้ให้รุ่งระยับอยู่ในที่ตั้งพันแห่งนั้น เป็นที่สังเกตได้โดยง่ายจากพระที่นั่งองค์อื่นๆ สร้างเป็นรูปกากบาท หลังคา พระที่นั่งประดับฉัตรหลายชั้นอันเป็นเครื่องหมายหรือตราแผ่นดิน กระเบื้องที่ใช้มุงนั้นทําด้วยดีบุก งานสถาปัตยกรรมที่ปรากฏอยู่ทุกด้าน ทุกมุมนั้นงดงามมาก พระที่นั่งที่ประทับของสมเด็จพระราชินี พระราชธิดาและพระสนม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พระที่นั่งที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินนั้นดูจากด้านนอกแล้ว ก็เห็นว่างดงามดี หันหน้าเข้าสู่อุทยานทํานองเดียวกัน ทางเดินนั้นมีลําคู ตัดผ่านเป็นตาหมากรุก เสียงน้ําไหลรินเชื้อเชิญบุคคลที่นอนอยู่บนสนาม หญ้าเขียวขจีที่ขอบคันคูนั้นให้เคลิ้มหลับเป็นที่ยิ่งนัก" (ต้นฉบับฝรั่งเศส แปลโดย สันต์ ท. โกมลบุตร) สรุป ตามที่นิโกลาส์ แชรแวส ได้พรรณนาไว้นี้ ก็แสดงว่า พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์นี้ก็สร้างมาแล้วตั้งแต่ครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนารายณฯ(แบบจำลองพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ ในหนังสืออยุธยามรดกโลก อบจ.พระนครศรีอยุธยา)ลักษณะพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ ในเอกสารคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม (บทความในย่อหน้านี้ใช้อักขระ สะกดแบบดั้งเดิม) อนึ่งพระที่นั่งบัญญงครัตนาศนมหาปราสาทนั้น เปนยอดมณฑปยอดเดียว มีมุขโถง ยาวออกมาจากมุขใหญ่ทั้งสี่ด่าน มุขโถงทั้งสี่ทิศนั้น มีพระแท่นแว่นฟ้าบุษบกตั้งในมุขโถงทั้งสี่มีเกย น่ามุขโถงมีบันใด นาคราช ข้างเกยทั้งสี่เกย มีกำแพงแก้วล้อมรอบชาลาพระมหาปราสาท แล้วมีสระล้อมรอบกำแพงแก้วชาลาพระมหาปราสาททั้งสี่ด้าน สระกว้างด้านละ ๖ วา ในสระระหว่างมุขโถงมุมพระมหาปราสาท ด้านเหนือนั้นมีพระตำหนักปลูกปักเสาลงในสระด้านเหนือหลังหนึ่งห้าห้อง ฝากระดานเซียนลายรดน้ำทองคำเปลวพื้นทารักมีฉ้อฟ้าหางหงษมุขซ้อนสองชั้น มีพระบัญชรลูกกรงเหลก ระเบียงชานเฉลียงรอบนั้นมีลูกมะหวดกลึงล้อมรอบ มีตะพานลูกกรงค่ามมาจากพระมหาปราสาทถึงพระตำหนักๆ นี้เปนที่มีเทศนาพระมหาชาติคำหลวงทุกปีมิได้ขาด ในสระหว่างมุขโถงด้านใต้นั้น ปลูกพระที่นั่งปรายเข้าตอกหลังหนึ่ง เสาลงในสระหลังคามีฉ้อฟ้าหางหงษมุขซ้อนสองชั้น ฝาไม่มี มีแต่ลูกกรงมะหวดรอบพระเฉลียง เสารายทารักเซียนทองคำเปลวลายทรงเข้าบิณฑ์มีกาพพรหมศรกริมวินต้นเสาปลายเสา มีตะพานลูกกรงข้ามมาจากพระมหาปราสาทถึงพระที่นั่งปรายเข้าตอก พระที่นั่งปรายเข้าตอกนี้ สำหรับเสดจทรงประทับโปรยข้าวตอก พระราชทานปลาหน้าคนแลปลากะโห้ ปลาตะเพียนทองแลปลาต่างๆ ในท้องสระ ในระหว่างมุมมุขโถงด้านตระวันออกนั้น ปลูกเปนพระที่นั่งทอดพระเนตรดาวเสาลงในท้องสระ ไม่มีหลังคา มีแต่พื้นแลลูกกรมมะหวดรอบ มีตะพานข้ามสระออกมาจากมุมมาพระมหาปราสาท ถึงพระที่นั่งทรงดาวๆ นี้สำหรับทอดพระเนตรดาว แลทอดพระเนตรสุริยุปปราคาแลจันทรุปราคา ชีพ่อพรหมณทำพิธีถวายน้ำกรดน้ำสังข์ในวันสุริย จันทร } เมื่อโมกขบริสุทธิบนพระที่นั่งทรงดาวทุกคราวไป ในท้องสระระหว่างมุมมุขโถงด้านตระวันตกนั้น ปลูกเปนตะพานพระฉนวน มีหลังคาร่มตะพานข้ามออกมาจากพระมหาปราสาท เสาตะพานพระฉนวนนั้น ระยะห่างๆ แต่พอเรือน้อยพายลอดได้ใต้ตะพานๆ ข้ามมาขอบสระถึงพระที่นั่งทรงปืน เปนตึกใหญ่มีฉ้อฟ้าหางหงษมุขศร (ซ้อน) เปนท้องพระโรงสำหรับเสดจออกว่าราชการแผ่นดิน พระราชวงษาแลข้าทูลลอองธุลีพระบาทเข้าเฝ้าพระกรุณา ในพระที่นั่งทรงปืนท้ายสระ ขอบสระนั้นมีกำแพงแก้วสูง ๖ ศอก ล้อมรอบสระมีประตูสี่ด้านสระ ในกำแพงแก้วขอบสระข้างใน มีถนนเดินได้รอบสระ บนกำแพงแก้วรอบสระนั้นมีซุ้มโคมห่างคืบหนึ่งรอบกำแพงสระเปนซุ้มโคมพันหนึ่ง สำหรับตามไฟในการพิธีวิสาขะบูชากลางเดือนหกในท้องสระนั้นน้ำใสสอาดไหลเข้าออกได้ ไม่เน่าเหมนเปนที่น่าชมเชย (หอสมุดแห่งชาติ) พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ ในมุมมองพระยาเสือ จากเพลงยาวพระยาเสือ (พระนิพนธ์ในสมเด็จฯกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท)สืบทรงวงศ์กษัตริย์มาช้านานแต่บุราณแล้วไม่นับพระองค์ได้พระที่นั่งซึ่งตั้งอยู่ข้างในมีสระชลาลัยชลธีชื่อที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ที่ประพาสมัจฉาในสระศรีทางเสด็จเสร็จสิ้นสารพันมีเป็นที่กษัตริย์สืบมาก็สูญสิ้นศรีมลายหายหมดจะปรากฏสักสิ่งไม่มีว่าอันถนนหนทางมรรคาคิดมาก็เสียดายทุกสิ่งอันประวัติการใช้งานพระที่นั่ง สรุปเองโดยเจ้าของบทความรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช- สร้างพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์- ใช้รับรองเลี้ยงดูคณะราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งกรุงฝรั่งเศสรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา- เสด็จประทับที่พระที่นั่งองค์นี้จวบจนสวรรคต ณ พระที่นั่งองค์นี้ และประดิษฐานพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งองค์นี้รัชกาลสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ (พระเจ้าเสือ)- เสด็จมาประทับเป็นบางคราวรัชกาลสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๙ (พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ)- ทรงโปรดประทับพระที่นั่งองค์นี้เป็นอันมาก จึงเป็นที่มาของการขารพระนาม พระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ หรือ ท้ายสระ- สวรรคต และตั้งพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งองค์นี้รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ - มาประทับเป็นครั้งครา สลับกับพระที่นั่งทรงปืน จวบจนสวรรคต- ใช้ตั้งพระบรมศพ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ คู่กับ พระพันวัสสา (น้อย) พระมเหสี ซึ่งสวรรคตไล่เลี่ยกัน หลักเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๓๑๐- โดนข้าศึกเผาทำลายเสียหาย- ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการรื้ออิฐภายในมณฑลกรุงเก่า และพระที่นั่งในพระราชวังโบราณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ก็โดนรื้อเอาอิฐจากส่วนผนังทั้งหมดไป ทำให้เหลือเฉพาะแค่ส่วนฐานพระที่นั่งอย่างที่เห็นในปัจจุบัน พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ในปัจจุบัน- พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ในปัจจุบันเหลือเพียงส่วนฐานและกำแพงแก้วบางส่วน- ปัจจุบันพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์อยู่ในเขตพระราชวังโบราณทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ อยู่ในกำกับดูแลของสำนักอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สังกัดสำนักศิลปากรที่ ๓ กรมศิลปากร(สภาพ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ในปัจจุบัน ภาพถ่ายโดยเจ้าของบทความ) แหล่งข้อมูลอ้างอิง- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ(เจิม)- คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม- หนังสือประวัติศาสตร์ ธรรมชาติและการเมือง แห่งราชอาณาจักรสยาม (ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ฯ)- เพลงยาวพระยาเสือ หอสมุดแห่งชาติ