พาชมความงาม วัดหน้าพระเมรุวันนี้ อยุธยาปลดล็อคแล้วววว เย้ๆๆๆ!!!! ออกไปเที่ยวกันเถอะ!!!! ชวนคุณพ่อแล้วกระโดดขึ้นรถไปกันเลย.... ทริปสั้น ๆ วันนี้มุ่งหน้าสู่วัดหน้าพระเมรุ หรือวัดพระเมรุชิการามวรวิหาร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขับรถชั่วโมงนึงก็มาถึงวัดหน้าพระเมรุ (ตามที่ชาวบ้านเรียกกัน) ช่วงสายๆ อากาศเย็นสบายกำลังดีไม่ร้อนมาก ผู้คนไม่เยอะ ทางเข้าด้านหน้ามีเจ้าหน้าที่ให้เราเซ็นต์ชื่อลงทะเบียน และตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าไปในพระอุโบสถ ตามประวัติที่อ่านมาเป็นวัดที่ไม่ถูกพม่าเผาทำลาย เนื่องจากใช้เป็นที่มั่นจุดยุทธศาสตร์ในการตั้งปืนใหญ่ เพราะวัดตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านเหนือของคูเมือง ตรงข้ามพระราชวังหลวง ในคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 การที่ไม่ได้ถูกเผาทำลายวัดแม้สักเล็กน้อยนั้น วัดนี้จึงยังคงศิลปะและสถาปัตยกรรมอยุธยาที่แท้จริงให้ได้ศึกษา ชมความงามพุธศิลป์ยุคต้นได้เป็นอย่างดี ภายในพระอุโบสถก็จะพบกับพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชรบรมไตรโลกนาถ พระพุทธรูปทรงเครื่องตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า สีทองอร่าม พระพักตร์อิ่มเอม เป็นพระพุทธรูปปางโปรดพญาชมพูบดีหล่อด้วยทองสำริดลงรักปิดทอง หน้าตักกว้างประมาณ 4.5 เมตร สูงประมาณ 6 เมตร ิ ประทับนั่งขัดสมาธิ ทรงเครื่องต้นอย่างพระมหากษัตริย์ สถาปัตยกรรมภายในตามแบบอยุธยาตอนต้นมีเสาแปดเหลี่ยม บัวหัวเสาลายบัวโถเพดานประดับลวดลายดาวเพดานที่สวยงามมาก ก้มกราบขอพรเสร็จเราก็พาคุณพ่อมาที่วิหารด้านข้าง คือวิหารเขียนประดิษฐานพระคันธารราฐ พระพุทธรูปสมัยทราวดี อายุกว่าพันปีจากอินโดนีเซีย ผนังวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังด้านในที่สวยงามมาก ที่ลบเลือนตามกาลเวลา เราใช้กล้องมือถือเราซูมได้ไม่มาก ความงามที่บานประตูไม้แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจงมากก เห็นถึงความอ่อนช้อยในลวดลาย กราบพระขอพร พร้อมทั้งทำสังฆทานในวิหารให้ชุ่มฉ่าหัวใจก่อนเดินทางกลับ ด้านหลังยังมีวิหารหลวงพ่อขาว และเจดีย์ถูกโอบด้วยต้นโพธิ์ตามกาลเวลาให้นั่งพักเย็น ๆ ใจก่อนได้เวลาเดินทางกลับ แวะซื้อฝักบัวสดที่ขายอยู่ด้านหหน้าวัดกลับบ้าน แค่นี้ก็อิ่มเอมหัวใจพอให้หายคิดถึงอยุธยาได้บ้างแล้ว