การท่องเที่ยวถือเป็นการเปิดประสบการณ์ให้เราได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ตาม โดยวันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวประสบการณ์ท่องเที่ยวในประเทศแบบวันเดียว ด้วยงบเพียง 500 บาท ซึ่งทริปที่เราไปกันมาก็คือ จังหวัดอยุธยานั่นเองค่ะ อยุธยาถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างมากมาย และได้ชื่อว่าเป็นเมืองเก่าของเราชาวไทย การได้ท่องเที่ยวที่อยุธยาครั้งนี้นอกจากได้ผ่อนคลายแล้วยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปในตัวด้วย ซึ่งการเดินทางก็ไม่ยาก ครั้งนี้พวกเราไปกันสองคน เริ่มออกเดินทางจากบ้านที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยรถเมล์สาย 25 ไปลงที่หัวลำโพง จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าไปที่ห้องจำหน่ายตั๋ว เพื่อซื้อตั๋วไปที่อยุธยานั่นเองค่ะ รถไฟเที่ยวนี้จะออกจากหัวลำโพง 08.20 และจะถึงปลายทางอยุธยาเวลา 09.40 โดยประมาณ เมื่อถึงเวลาพวกเราก็เตรียมพร้อมกันอยู่บนขบวนรถไฟที่ทอดยาวอยู่ที่ชานชาลา สักพักเสียงที่รอคอยก็ดังขึ้น รถไฟค่อย ๆ เคลื่อนขบวนออกจากสถานี พวกเราก็นั่งรับลมที่แสนจะเย็นสบายพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติจากสองข้างทาง เราใช้เวลาบนรถไฟประมาณ 1-2 ชั่วโมง สักพักเสียงประกาศก็ดังขึ้น " ที่นี่สถานีอยุธยา ที่นี่สถานีอยุธยา ฯลฯ " พอรถไฟจอดสนิทเทียบชานชาลาพวกเราก็พากันลงจากรถไฟและมุ่งหน้าไปหาร้านเช่ารถจักรยานยนต์ เพื่อขับเที่ยวชมย่านเมืองเก่า เมื่อเราทำการเช่ารถเรียบร้อย เราก็พากันมุ่งหน้าไปย้อนรอยประวัติศาสตร์กันที่ วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราคนไทยมักคุ้นชื่อกันอยู่แล้ว เราใช้เวลาเดินทางไปยังวัดประมาณ 20 นาที เมื่อไปถึงก็จะมีจุดจำหน่ายค่าเข้าชม บรรยากาศด้านในก็จะเงียบ สงบ ราวกับย้อนไปในอดีต พวกเราเก็บภาพบรรยากาศที่วัดสักพักหนึ่ง จากนั้นก็พากันมุ่งหน้าต่อไปยังตลาดน้ำอโยธยา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เวลาใครมาเยือนอยุธยาเป็นต้องแวะไปเที่ยว ซึ่งในตลาดก็จะออกแนวย้อนยุคสมกับเป็นถิ่นเมืองเก่า มีอาหารมากมายจำหน่ายทั้งคาวและหวานเช่น เมี่ยงคำ ขนมไทยต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีของฝากอีกหลากหลายให้ได้ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้าน เราเดินเที่ยวที่ตลาดประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วก็พากันซื้อของฝาก จากนั้นก็พากันขับรถชมรอบ ๆ เมือง จากนั้นก็กลับไปยังร้านเช่ารถ เพื่อคืนรถและซื้อตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพฯ ขากลับรถไฟมาประมาณ 12.00 น. เราก็จะถึงกรุงเทพฯกันประมาณ 13.00-14.00 น. โดยรวมแล้วทริปนี้เราใช้เวลาไปประมาณ 6-7 ชั่วโมง กับงบเพียง 500 บาท สำหรับทริปนี้เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวแต่เวลามีน้อยนะคะ ใครสนใจอยากเที่ยวแบบชิล ๆ และได้ย้อนรอยเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผู้เขียนก็ขอแนะนำทริปสั้น ๆ แบบนี้เลยนะคะ รับรองว่าคุ้มค่ามาก ๆ สุดท้ายเรามาสรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้กันค่ะ ค่ารถเมล์สาย 25 ไป-กลับ 42 บาท ค่ารถไฟไป-กลับคนละ = 40 บาท ค่าเช่ารถจักรยานยนต์ = 300 บาท/ตกคนละ 150 บาท ค่าของฝาก = 150 บาท ค่าจิปาถะ = 50 บาท รวมค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ = 432 บาท และทั้งหมดนี้เป็นค่าใช่จ่ายที่พวกเราใช้ไปค่ะ ถ้าใครอยากจะเที่ยวแบบชิล ๆ เหมือนพวกเราลองไปกันดูนะคะ ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน(Di'On)