วัดพระรามาวาส อยู่ที่ไหน? เมื่อหลายปีก่อนผมเคยเข้าใจว่า วัดพระรามาวาส กับวัดพระราม นั้นคือวัดเดียวกัน แต่เมื่อมาตรวจหลักฐานแวดล้อมกับทิศทางแล้ว กลับขัดกันกับหลักฐานวัตถุพยานที่พบ อาทิเช่น ทิศตะวันตกเฉียงใต้วัดพระศรีสรรเพชญ์นั้น มีป้อมอยู่ป้อมหนึ่ง ในกฎหมายตราสามดวงเรียกว่าป้อมมุมวัดพระรามาวาส ซึ่งวัดพระรามาวาสอาจตั้งอยู่ใกล้เคียงบริเวณนี้ อย่างเช่นป้อมมุมวัดชีเชียงศาลาพระมงคลบพิตร ก็อยู่ใกล้ทั้งวัดชีเชียง และวิหารพระมงคลบพิตร ส่วนป้อมศาลาสารบัญชีนั้น ก็ตั้งอยู่ใกล้ศาลาสารบัญชี ซึ่งอยู่ในกำแพงเขตพระราชฐานทางทิศอาคเนย์ ซึ่งอยู่ทิศเหนือวัดพระราม แล้วทำไมป้อมศาลาสารบัญชี จึงไม่ชื่อว่าป้อมวัดพระรามาวาส แต่ป้อมวัดพระรามาวาส กลับไปตั้งอยู่ตะวันตกเฉียงใต้วัดพระศรีสรรเพชญ์ซึ่งส่วนตัวผมเองสันนิษฐานว่า พื้นที่ว่างหลังวิหารพระมงคลบพิตรนี้แหล่ะ คือ ตำแหน่งของวัดพระรามาวาสที่สาบสูญไปแล้ว ปัจจุบันนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่โล่ง เหลือเพียงสระน้ำโบราณเก่า ๆ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเป็นสระน้ำโบราณของวัดพระรามาวาสก็เป็นได้(แผนที่พระราชวังกรุงศรีอยุธยา จากหนังสือสถาปัตยกรรมในสถาบันพระมหากษัตริย์)ซึ่งเหตุผลที่ตั้งข้อสันนิษฐานมาหักล้างที่ว่า วัดพระรามาวาส กับวัดพระราม เป็นวัดเดียวกันนั้น ขอยกหลักฐานมาประกอบดังต่อไปนี้ ตำราบรมราชูทิศ เพื่อกัลปนาสมัยอยุธยา ที่ตราขึ้น ณ มุขเด็จทิศตะวันตก พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์มหาปราสาท นั้นว่า ศุภมัศดุ พระพุทธศักราช ๒๒๔๒ ในวันศุกร์ แรม ๑๕ ค่ำ ปีขาลสัมฤทธิศก เพลาชายแล้ว ๔ บาท จึงพระศรีสรรเพชญ สมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทร บรมมหาจักรพรรดิศร วรราชาธิราชราเมศวรธรรมิกราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพ ตรีภูวนาธิเบศ โลกเชษฐวิสุทธมกุฎพุทธางกูร บรมจุลจักรพรรดิศร ธรรมิกราชาธิราชอันประเสริฐ เสด็จออกประทับ ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาศน์ โดยปัศจิมาภิมุข (มุขเด็จทิศตะวันตกพระที่นั่ง)ในวังพระบางตรา โดยมีพระพิมลธรรม อนันตญาณ มหาสวามี ศรีสังฆปริณายก ติปิฎกธร วรคัมภีรญาณ สัทธรรมราชมุนีบพิตร สถิตในวัดพระรามาวาส และพระเทพกวีศรีสงฆปริณายกดิลกโลกาจารย์ อธิการวัดพระราม เข้าไปถวายพระพรในการกัลปนาครั้งนั้น(แผนที่จาก Google Map แสดงพิกัดที่เป็นตำแหน่งสันนิษฐานของวัดพระรามาวาส)ว่าด้วยตำแหน่งยศพระราชาชาคณะฐานานุกรมครั้งกรุงเก่า ในคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม พระพิมลธรรมอยู่วัดรามาวาส ๑ พระเทพกวีอยู่วัดพระราม ๑ พระพรหมมุนีอยู่วัดราชประดิษฐาน ๑ พระราชมุนีอยู่วัดภูเขาทอง ๑ พระปรากรมอยู่วัดหน้าพระเมรุ ๑ พระราชกวีอยู่วัดบวรโพธิ์ ๑ พระศรีสมโพธิ์อยู่วัดฉัตรทันต ๑ พระภากุลเถรอยู่วัดศรีอโยธยา ๑ พระญาณสิทธิอยู่วัดสังฆวาส ๑ พระอนุรุทธอยู่วัดท่าทราย ๑ พระโชติบาลอยู่วัดรากแค ๑ พระศรีสัจญาณมุนีอยู่วัดพระยาแมน ๑ พระธรรมวิโรจน์อยู่วัดกระษัตราวาส ๑ พระอภัยสารทอยู่วัดป่าใน ๑ พระอภัยสารอยู่วัดป่าฝ้าย ๑ พระญาณรักขิตรอยู่วัดสังกะทา ๑ พระไตรสะระณะธัชอยู่วัดตองปุ ๑ รวม ๑๗ ขึ้นคณะซ้ายหากเทียบตำแหน่งยศพระราชาชาคณะฐานานุกรมครั้งกรุงเก่า ในคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม จะปรากฎนามพระพิมลธรรมอยู่วัดรามาวาส ๑ พระเทพกวีอยู่วัดพระราม ๑ ซึ่งก็แสดงว่ามาจากคนละวัดกัน ไม่ใช่วัดเดียวกันแน่ ๆ(ป้อมมุมวัดพระรามาวาส ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของกำแพงวัดพระศรีสรรเพชญ์ ถ่ายภาพโดยเจ้าของบทความ)ซึ่งในพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตเลขา ก็ได้กล่าวถึงพระอีกรูปที่มีบทบาทช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายขุนอนุรักษ์ภูธรข้าหลวงในกรมหมื่นสุนทรเทพ พาเอาคน ณ ตําหนักสระแก้วประมาณ ร้อยเศษ ปีนข้ามกําแพงวัดพระศรีสรรเพชญ์ และกําแพงโรงรถเข้ามาบรรจบคนในกรมหมื่นจิตรสุนทร ณ ตําหนักศาลาลวด และขุนพิพิธภักดีข้าหลวงในกรมหมื่นจิตรสุนทร พาคนเข้าไปกระทุ้งทําลายบานประตูโรงแสงนอกเข้าไปเอาปืนนกสับ และศาสตราวุธมาถือเป็นอันมาก ในเพลาเย็นวันนั้นพระราชาคณะห้ารูป คือ พระธรรมโคดม วัดธรรมิกราชหนึ่ง พระ ธรรมเจดีย์ วัดสวนหลวงศพสวรรค์หนึ่ง พระพุทธโฆษาจารย์ วัดพุทไธสวรรย์หนึ่ง พระเทพมุนี วัดกุฎีดาวหนึ่ง พระเทพกระวี วัดพระรามาวาสหนึ่ง แต่พระเทพมุนีนั้นมีวัสสามากกว่าทั้งนั้น เข้ามาพร้อมกันอยู่ ณ ทิมสงฆ์ ครั้นเพลาประมาณทุ่มเศษ จึงมีพระบัณฑรให้มานิมนต์เข้าไป ณ พระตําหนักสวนกระต่าย ตรัสอาราธนาพระราชาคณะทั้งห้ารูป มีพระเทพมุนีเป็นประธานให้ไปว่ากล่าวเล้าโลมเจ้าสามกรม ให้มาสมัครสมานสโมสรสามัคคีรสด้วยกันตามพระราชโอวาทตรัสสั่งไว้ และ พระราชาคณะทั้งห้าไปเจรจาถึงสองกลับ จนเพลาดึกสามยามเศษจะใกล้รุ่ง เจ้าสามกรมจึงมาเฝ้า กระทําสัตย์ถวายทั้งสามพระองค์(ป้อมมุมวัดพระรามาวาส ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของกำแพงวัดพระศรีสรรเพชญ์ หากมองไปไกล ๆ จะเห็นซากฐานพระตำหนักสวนกระต่าย ถ่ายภาพโดยเจ้าของบทความ) ซึ่งหากเทียบตำแหน่งและทิศทางพร้อมหลักฐานแล้ว พระราชาคณะที่มาจากวัดพระรามาวาส คือ พระพิมลธรรม และพระเทพกระวี ส่วนของวัดพระราม คือ พระเทพกวีศรีสงฆปริณายกดิลกโลกาจารย์ จึงสรุปได้ว่า วัดพระรามาวาส กับ วัดพระรามนั้น เป็นคนละวัดกัน ตั้งกันอยู่คนละที่(สระน้ำโบราณ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ป้อมมุมวัดพระรามาวาส ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นสระน้ำโบราณ ของวัดพระรามาวาส ภาพถ่ายโดยเจ้าของบทความ) เอกสารประกอบการค้นคว้าและอ้างอิง- ตำราบรมราชูทิศ เพื่อกัลปนาสมัยกรุงศรีอยุธยา- กฎหมายตราสามดวง- คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตเลขาเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !